TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ชาวเน็ตอึ้ง! น้องโอโม่ เด็กเก่ง ยื่นพอร์ตผ่าน 15 สาขา 9 มหาวิทยาลัยดัง

26 Feb, 2024
ชาวเน็ตอึ้ง! น้องโอโม่ เด็กเก่ง ยื่นพอร์ตผ่าน 15 สาขา 9 มหาวิทยาลัยดัง

เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาบนโลกโซเชียลอย่างมาก สำหรับ “น้องโอโม่” เด็กเก่งนักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล จังหวัดสกลนคร ที่ได้สอบติดรอบ Portfolio ถึง 15 สาขา จาก 9 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ล่าสุดน้องโอโม่ได้ตัดสินใจทำตามความฝัน และเลือกแล้วว่าจะเรียนต่อที่ไหน

 

น้องโอโม่ เด็กเก่งม.6 ยื่นพอร์ตผ่าน 15 สาขา 9 มหาวิทยาลัยดัง

ถือเป็นที่โด่งดังบนโลกโซเชียล หลังจากที่เฟซบุ๊กเพจ Sci project.skr ได้โพสต์วิดีโอบรรยากาศที่โรงเรียนสกลราชวิทยานุกุล จังหวัดสกลนคร ประกาศชื่นชม นายฐิติพันธ์ วะเศษสร้อย หรือ “น้องโอโม่” นักเรียนชั้น ม.6/1 หลังจากผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในรอบ 1 หรือรอบ Portfolio โดยปรากฏว่าเจ้าตัวสอบติดถึง 15 สาขา จาก 9 มหาวิทยาลัย จนมีผู้เข้ามาชื่นชมในความเก่งเป็นจำนวนมาก

 

ล่าสุดน้องโอโม่ได้ออกมาสัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังกล่าว โดยน้องโอโม่ได้กล่าวว่า คลิปที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์นั้น เกิดขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกิจกรรมหน้าเสาธงที่โรงเรียนจัดขึ้นเพื่อประกาศชื่อมหาวิทยาลัยที่นักเรียนสอบติด ไม่ว่าจะเป็นคณะ สาขาวิชาไหนก็ตาม จะมีการประกาศทั้งหมด

ซึ่งในตอนนั้น เจ้าตัวก็ได้ยื่นสมัครไปทั้งหมด 9 มหาวิทยาลัย แต่เป็นหลายสาขาวิชา แต่ละมหาวิทยาลัยนั้น นักเรียนสามารถสอบติดได้มากกว่า 1 สาขาวิชา แต่โดยสรุปแล้ว น้องโอโม่สมัครและสอบติด 15 สาขา จาก 9 มหาวิทยาลัย

 

โดยการที่เจ้าตัวติดรอบที่ 1 ของรอบ Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานครั้งสุดท้าย เป็นรอบที่ยังไม่ใช้คะแนนสอบ แต่เป็นการใช้ผลงานยื่นเข้าสมัคร ซึ่งส่วนใหญ่ผลงานที่ยื่นจะเป็นงานที่พัฒนามาตั้งแต่สมัยม.4 เกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์ และด้านนวัตกรรมการวิจัยที่ตนเองได้ทำกับชมรมของโรงเรียน

 

น้องโอโม่

 

มีนางเสาวรจนี จันทวงค์ และนายวิริทธิ์พล วิเศษฐี เป็นครูที่ปรึกษาโครงงาน และนางนันทิชา ธาตุระหัน และดร.กิตติยา มุกดาประเสริฐ เป็นครูที่ปรึกษาประจำชั้น โครงงานวิทยาศาสตร์ที่ได้ทำขึ้นมา ใช้ระยะเวลามากกว่า 1 ปี หรืออาจจะหลายเดือน เพื่อพัฒนาแข่งขันตามรายการต่าง ๆ ทำให้เจ้าตัวได้รางวัลระดับภูมิภาคไปจนถึงระดับประเทศ พร้อมสะสมผลงานเหล่านั้นมาทำเป็น Portfolio ในการยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัย

 

ในขณะเดียวกัน ก็มีการเรียนไปในโรงเรียนด้วย ซึ่งทางโอโม่ก็ได้เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาเกรดเฉลี่ยให้ได้สูงสุด พร้อมกับที่ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องยื่นพอร์ตโฟลิโอ ก็จะได้ใช้เกรดเฉลี่ยกับผลงานสะสมต่าง ๆ ที่ทำมาตลอด 3 ปี นำไปยื่นเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ด้านน้องโอโม่ได้ฝากให้รุ่นน้องทุกคน เล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำผลงานและตั้งใจเตรียมตัวสอบ เพื่อให้ตัวเองได้เข้าไปเรียนในคณะที่อยากเรียนมากที่สุด

 

สำหรับ 15 สาขา จาก 9 มหาวิทยาลัย ที่น้องโอโม่สมัครและสอบติด มีดังนี้

  1. สาขาเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  2. สาขาวิทยาศาสตรบัณฑิต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  3. สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  4. วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
  5. เภสัชศาสตรบัณฑิต คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
  6. สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ทุนเพชรพระจอมเกล้าฯ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  7. สาขาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  8. สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  9. สาขาฟิสิกส์วัสดุและเครื่องมือการแพทย์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  10. สาขาฟิสิกส์ทฤษฎีและการวิเคราะห์ข้อมูล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
  11. สาขาวิศวกรรมกระบวนการชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
  12. สัตวแพทยศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  13. วิทยาศาสตรบัณฑิต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  14. สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  15. สาขารังสีเทคนิค คณะรังสีเทคนิค มหาวิทยาลัยรังสิต

 

โดยน้องโอโม่ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเรียนที่ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพราะเป็นความชอบและพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งเมื่อจบออกมาก็จะได้เป็นเภสัชกรตามที่ตนตั้งใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ม.ปลายควรรู้! ประวัติส่วนตัวมีอะไรบ้าง ทำอย่างไรให้ Portfolio น่าสนใจ

 

น้องโอโม่

ที่มา : khaosod.co.th, pptvhd36.com

 

Portfolio คืออะไร

Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงาน คือ เอกสารหรือผลงานที่ใช้แสดงตัวตน ความรู้ ทักษะ ความสามารถ การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และรางวัลที่ได้รับ โดยอาจสอดคล้องกับสาขาวิชาที่เราสมัคร เพื่อนำไปยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ TCAS รอบ 1 หรือรอบ 2 ทางมหาวิทยาลัยอาจขอใช้พอร์ตโฟลิโอเพื่อประกอบการพิจารณา

 

เทคนิคการทำ Portfolio ให้โดนใจกรรมการ

สำหรับนักเรียนที่มีผลงานวิชาการ กิจกรรม ดนตรี หรือกีฬา สามารถนำมาใส่ในพอร์ตโฟลิโอเพื่อเป็นผลงานในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยได้ โดยเทคนิคในการทำ Portfolio ให้โดดเด่น มีดังนี้

 

1. ให้ข้อมูลสั้น กระชับ และตรงประเด็น

โดยทั่วไปแล้วกรรมการมหาวิทยาลัย ต้องการทราบตัวตนของนักเรียนว่าเป็นใคร โดยในส่วนนี้สามารถใส่ข้อมูลพื้นฐานให้ครบ เช่น ชื่อ-สกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด ภูมิลำเนา เป็นต้น รวมถึงเหตุผลที่ต้องการเข้าเรียนเพื่อแสดงถึงทัศนคติและตัวตนของนักเรียน โดยสามารถเขียนเป็นเรียงความยาวไม่เกิน 1 หน้า A4  แต่บางโครงการก็อาจกำหนดหัวข้อมาให้ จึงต้องอ่านระเบียบการอีกครั้ง

 

2. ใช้สีสร้างความโดดเด่น

การใช้สีสามารถสร้างความน่าสนใจให้แก่แฟ้มสะสมผลงานของเราได้ ควรใช้สีให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะสีสามารถสื่อความหมายได้หลายอย่าง ซึ่งโดยปกติแล้วแฟ้มสะสมผลงานมักจะใช้สีประจำมหาวิทยาลัย หรือสีประจำคณะและสาขาที่นักเรียนต้องการเรียนต่อ เพื่อแสดงออกถึงความใส่ใจที่หาข้อมูลของมหาวิทยาลัยนั้น โดยแนะนำว่าไม่ควรใช้มากกว่า 3 สี เพราะจะทำให้แฟ้มสะสมผลงานควบคุมสียากและไม่โดดเด่น

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง : Portfolio หรือ แฟ้มสะสมผลงาน ที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง?

 

น้องโอโม่

 

3. เรียงผลงานจากล่าสุดไปอดีต

ควรเรียงลำดับผลงานจากล่าสุดในอดีต โดยไม่ใช่แค่ข้อมูลของกิจกรรมหรือผลงานเท่า แต่รวมไปถึงข้อมูลหรือลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น ประวัติส่วนตัว การศึกษา กิจกรรม และทักษะความสามารถ เป็นต้น รวมถึงรูปภาพประกอบแฟ้มผลงาน เพื่อให้กรรมการเข้าใจง่ายขึ้น

 

4. ใช้ฟอนต์ที่เหมาะสม

การใช้ฟอนต์ให้เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้เราดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยในแฟ้มสะสมผลงานไม่ควรใช้ฟอนต์มากกว่า 2-3 รูปแบบ และควรเลือกใช้ฟอนต์ที่ออกแนวทางการ เพื่อให้กรรมการได้เข้าใจ อาจแบ่งออกเป็นหัวข้อหลัก หัวข้อรอง และหัวข้อย่อย เป็นต้น

 

5. โชว์ทักษะและความสามารถให้มากที่สุด

การจะยื่นสมัครเข้าคณะ สาขา หรือมหาวิทยาลัยใดก็ตาม ควรเน้นให้เห็นทักษะ และความสามารถของนักเรียนให้โดดเด่น โดยควรเน้นไปที่ทักษะปัจจุบัน หรือรางวัลปัจจุบันที่เราได้รับ

 

น้องโอโม่

 

6. ใส่ความเป็นตัวเองลงไป

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญอย่างมาก คือ การใส่ความเป็นตัวเองลงไปในแฟ้มสะสมผลงาน โดยนักเรียนแต่ละคนย่อมมีเอกลักษณ์ที่เป็นตัวของตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ควรใส่ให้อยู่ในขอบเขตที่พอดี ไม่มากจนเกินไป ซึ่งจะช่วยให้เราโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่นมากขึ้น

 

การทำ Portfolio เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กม. 6 ดังนั้น ควรดูความสอดคล้องของตนเองกับคุณสมบัติที่สาขาวิชาต้องการ เพื่อนำไปใช้ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัย หากอยากเข้าในคณะไหนก็ควรจัดทำพอร์ตโฟลิโอเพื่อคณะนั้นโดยเฉพาะ

ที่มา : trueplookpanya.com, admissionpremium.com

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อยากให้ลูกเป็นหมอ พ่อแม่อย่าพลาดลืมทำ 6 ข้อนี้เด็ดขาด!

สำรวจ สายการเรียน ม.ปลาย เรียนต่อสายไหน ให้เข้าคณะในดวงใจได้!

4 เทคนิค แบ่งเวลาอ่านหนังสือ สำหรับวัยรุ่นวัยสอบ จำง่าย ถึงเวลาพิชิตคะแนน

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sittikorn Klanarong

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • ชาวเน็ตอึ้ง! น้องโอโม่ เด็กเก่ง ยื่นพอร์ตผ่าน 15 สาขา 9 มหาวิทยาลัยดัง
แชร์ :
  • เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

    เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

  • ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

    ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

powered by
  • เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

    เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

  • ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

    ฟิลิปส์ เผยผลสำรวจด้านเฮลท์แคร์ล่าสุด Philips Future Health Index 2025 พบความล่าช้าและการเสียโอกาสในการรักษา ทำให้ระบบสาธารณสุขใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องเร่งปรับใช้เทคโนโลยี AI

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว