เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุ อาคารเรียนถล่ม ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี โดยเป็นพื้นของโรงเรียนที่ได้ทรุดตัวและพังถล่มสู่พื้นด้านล่างที่มีน้ำขังลึกประมาณ 2 เมตร ทำให้นักเรียนหลายคนตกลงไปพื้นด้านล่าง และได้รับบาดเจ็บ
อาคารเรียนถล่ม ในโรงเรียนอ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบของ ร.ต.ท.ฐิติพลัสส์ สุกุมลจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พนัสนิคม ได้พบว่าโรงเรียนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ ม.4 ต.กุฎโง้ง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นอาคารเก่า 2 ชั้น อายุประมาณ 47 ปี ห้องที่ 11 มีนักเรียน 2 คน ถูกกู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียงพนัสคม นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้
ด.ญ.บี อายุ 13 ปี เล่าว่า ขณะที่เธอและเพื่อน ๆ กำลังจัดกิจกรรมการเรียนการสอน แข่งขันตอบคำถามภาษาอังกฤษหน้าชั้นเรียน อยู่ ๆ พื้นห้องที่เป็นไม้ก็ได้ทรุดตัวลง ทำให้นักเรียนเกือบ 30 คนตกลงไปด้านล่าง รวมถึงตัวเองด้วย แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะข้างล่างเป็นน้ำท่วมขัง ทำให้ตัวเองกางเกงเปียก
ทางด้าน นายประโยชน์ กีรติปกรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนพนัสพิทยาคาร เผยว่า ตัวเองพึ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งในโรงเรียนดังกล่าว พบว่าพื้นห้องเรียนของอาคารเรียนเก่า บางห้องพื้นไม้กระดานที่สภาพโก่งตัวก็ต้องซ่อมแซม แต่สำหรับห้องเรียนนี้ยังปกติ ช่วงที่เกิดเหตุน่าจะเป็นช่วงที่นักเรียนวิ่งไปร่วมกันตอบคำถามหน้าห้อง ทำให้พื้นไม้รับน้ำหนักเยอะเกินไปจนเกิดการทรุดตัวลง แต่โชคดีที่นักเรียนมีอาการฟกช้ำเท่านั้น บางคนที่มีอาการเจ็บหลังได้นำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ดูอาการ ทางผู้อำนวยการยังบอกว่า ทางโรงเรียนมีแผนที่จะซ่อมแซมห้องเรียนเก่าทุกห้องในช่วงปิดเทอมใหญ่ แต่กลับเกิดเหตุขึ้นก่อน
บทความที่เกี่ยวข้อง : สะเทือนใจ นักเรียนหญิง จุดไฟเผาโรงเรียน ไม่พอใจถูกครูยึดมือถือ!
5 วิธีสอนลูกเล็กให้เข้าใจอุบัติเหตุ
การปลูกฝังให้ลูกเข้าใจความเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนเขาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะในช่วงที่ลูกกำลังซน ก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งวิธีที่ช่วยให้ลูกเรียนรู้ความเจ็บปวดอย่างเหมาะสม มีดังนี้
1. หาวิธีสอนลูกที่เหมาะสมกับเขา
อันดับแรกเลย คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ว่าลูกของเราชอบเรียนรู้ด้วยวิธีไหน เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจและทดลองเองได้ง่ายขึ้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นเตรียมตัวหาวิธีที่เหมาะสมกับลูก เพื่อให้ลูกรู้จักตัวเองเร็วขึ้น อย่าลืมว่าเด็กแต่ละคนมีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน จึงต้องหาวิธีที่เหมาะสมกับเขามากที่สุด
2. สร้างประสบการณ์ไปพร้อมคุณพ่อคุณแม่
การให้ลูกเจ็บเข้าจริง ๆ อาจทำให้ลูกกลัวหรือกลายเป็นปมกับสิ่งสิ่งนั้นได้ ดังนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการบอกลูกให้ระมัดระวังอะไร ก็อาจทำให้เขาดูก่อนเพื่อให้เขาทำตาม เช่น ลองให้ลูกเอามือเคาะประตูให้ดังก๊อก ก๊อก พอลูกเคาะจึงค่อยถามเขาว่าเจ็บไหม เห็นไหมว่าประตูแข็งแรง ถ้าจะเปิดต้องระมัดระวังให้ดี
3. เมื่อลูกเจ็บให้สอนเขาทันที
หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นทันที เช่น ลูกหกล้ม คุณพ่อคุณแม่ควรสอนเขาเลยทันทีว่า “เจ็บไหม ที่ลูกล้มเพราะวิ่งเร็วเกินไป คราวหลังต้องวิ่งช้า ๆ นะ” หรือหากลูกปั่นจักรยานแล้วล้ม ควรสอนเขาว่า “อย่าปั่นไวมากครับ เพราะหนูปั่นไวไป เลยทำล้มไง” สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรสอนเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ ไม่ใช่การสมน้ำหน้าลูก
4. บอกลูกให้เรียนพ่อแม่เสมอ
เด็กเล็กเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็นเสมอ บางครั้งลูกอาจไปหยิบมีด หรือแก้วที่อันตรายมาก ๆ เพราะเห็นจากผู้ใหญ่ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจต้องสอนลูกเสมอว่า หากลูกต้องการทำให้ ขอให้บอกก่อน เพื่อที่เราจะได้เข้ามาช่วยเหลือ ดูแลเมื่อลูกทำกิจกรรมนั้น วิธีนี้จะช่วยลดโอกาสให้ลูกเจ็บตัวและยังสอนให้เขารู้จักระมัดระวังสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นด้วย
5. พยายามปกป้องลูกอยู่เสมอ
แม้ว่ารู้จักป้องกันตัวเองแล้ว แต่เด็กก็ยังเป็นเด็ก บางครั้งอาจไม่ทันระมัดระวังตัว หน้าที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่คือการดูแลปกป้องและระมัดระวังความปลอดภัยให้ลูกอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ เช่น จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่วางสารเคมีหรือยาอันตรายไว้ให้ลูกเห็น เก็บอุปกรณ์อันตรายไว้อย่างมิดชิด และหมั่นตรวจสอบสิ่งของภายในบ้านให้เรียบร้อยอยู่เสมอ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สังคมไร้เงินสด โรงเรียนบังคับใช้แอปฯ จ่ายค่าอาหารแทนเงินสด
สุดโหด! โรงเรียนดังจันทบุรี จับเด็กเข้าค่ายทหาร ปรับพฤติกรรมเพื่อแลกคะแนน
ไม่รับฝากเด็กนักเรียนเข้าเรียน! โรงเรียนดังขึ้นป้ายเตือน หากพบจะดำเนินคดีทันที!
ที่มา : thairath.co.th, mgronline.com, parentsone.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!