TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

แฉ! โรงเรียนบนดอย ครูทำร้ายร่างกายเด็ก แถมเงินบริจาคถูกเบิกไปเที่ยวส่วนตัว

22 May, 2023
แฉ! โรงเรียนบนดอย ครูทำร้ายร่างกายเด็ก แถมเงินบริจาคถูกเบิกไปเที่ยวส่วนตัว

จะไม่ทนอีกต่อไป ครูสาวเปิดหน้าแฉความเละเทะของโรงเรียนบนดอยที่เชียงใหม่ ครูทำร้ายร่างกายเด็ก ลงโทษด้วยลำแข้งจนต้องหนีออกจากโรงเรียน แถมครูยังได้นำเงินบริจาคช่วยเด็กเบิกไปเที่ยวทะเล ร้องคาราโอเกะ จนเงินกองทุนเกือบหมดอีกด้วย ดับความฝันหลังทิ้งเมืองกรุงเพื่อเข้ามาเป็นครูดอย หวังช่วยเด็กด้อยโอกาส

 

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 หลังเปิดเทอมได้เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ก็เกิดเรื่องราวที่สร้างความสลดใจในแวดวงการศึกษาไม่น้อย นางสาวเพชรรัตน์ พันธุ์สุจริตไทย ครู คศ.1 ที่รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แฉพฤติกรรมของครูและบุคลากรในโรงเรียนบางคน ที่ทำหน้าที่อย่างไร้จิตสำนึกทำร้ายได้แม้กระทั่งเด็กนักเรียนที่ไม่มีทางสู้ เธอมองว่าเข้าข่ายทำร้ายร่างกาย และเป็นการทารุณกรรมเด็ก

 

โดยนางสาวเพชรรัตน์ ได้นำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวที่ครูผู้ดูแลหอพักของโรงเรียน กำลังถือไม้เรียวสอบสวนความผิดเด็กนักเรียนชาย 4 คน บนลานข้างหอพัก หลังจากพบว่าขนมในห้องพักครูถูกขโมยไป ในวิดีโอจะเห็นได้ว่าครูกำลังสอบสวนเด็กในลักษณะข่มขู่ ก่อนจะใช้เท้าเหยียบบ่าของเด็กชายคนหนึ่ง และถีบจนเด็กล้ม จากนั้นได้ใช้ไม้ตีเด็กชายอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ กัน และใช้เท้าเตะจนล้มคว่ำ ขณะเดียวกันเด็กชายทั้งสองร้องไห้และอยู่ในอาการหวาดกลัว หลังจากเกิดเรื่องทำให้เด็กชาย ป.3 อายุ 10 ขวบ หนึ่งในสองเด็กที่ถูกทำร้ายผวาหนัก จนไม่กล้ามาโรงเรียนอีกเลย และได้หนีกลับไปอยู่กับมูลนิธิเอกชนที่อุปการะอยู่ก่อนหน้า

 

ครูทำร้ายร่างกายเด็ก

 

นางสาวเพชรรัตน์ เผยว่า เหตุการณ์ในภาพเกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้มีครูบางคนมาเล่าให้ฟัง และบอกว่าอยากดูคลิปหรือไม่ ส่วนตัวเธอเองไม่ชอบความรุนแรงจึงไม่ได้ดู แต่ในใจลึก ๆ ก็มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่ยอมรับว่าเก็บเงียบไว้นาน และร่วมกันปกปิด เนื่องจากกลัวผลกระทบกับหน้าที่การงาน เพราะเธอทำหน้าที่เป็นรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนในลำดับที่ 2 หากเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา อาจถูกลงโทษไปด้วยในฐานะผู้บังคับบัญชา

และความรุนแรงต่อเด็กไม่ได้มีแค่เหตุการณ์ที่เป็นข่าวเท่านั้น ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ครูผู้ดูแลหอพักคนเดียวกัน ยังได้ลงโทษเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งที่คิดว่าไปพังประตูห้องน้ำอีกด้วย ซึ่งเด็กคนนั้นอายุเพียง 11 ขวบเท่านั้น ทำให้หวาดกลัวจนวิ่งหนีเข้าป่า ก่อนที่ภายหลังจะยอมกลับมาเรียนต่อ

 

ครูทำร้ายร่างกายเด็ก

 

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ครูฝ่ายการเงินได้นำเอกสารแผ่นหนึ่งมาให้ดู พร้อมขอให้ช่วยเหลือ โดยในเอกสารระบุว่า ผู้บริหารและครูบางคนได้เบิกเงินในกองทุนช่วยเหลือเด็กที่มีผู้บริจาคมาให้ นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อ้างว่าไปราชการที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งมีทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเหมารถ ค่าน้ำมันรถ รวมเป็นเงิน 37,100 บาท แต่ในความจริงเป็นการเดินทางไปส่งผู้บริหารระดับเขตคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีหนังสือไปราชการตามระเบียบ

 

นอกจากนี้ ยังได้มีการเบิกเงินจากกองทุนเดินทางไปที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อซื้อโซลาร์เซลล์ แต่พบว่าได้นำเงินบางส่วนไปเที่ยวคาราโอเกะ โดยมีครูคนหนึ่งที่เดินทางไปด้วย โดยใช้เงินไป 15,000 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินบริจาค และได้ทราบว่าก่อนเปิดเทอมมีเงินบริจาคในกองทุนประมาณสองแสนบาท แต่ปัจจุบันเหลือเพียงสามหมื่นกว่าบาทเท่านั้น

 

สำหรับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แม้จะยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีใด ๆ แต่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.เชียงดาว เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้การช่วยเหลือกับผู้ปกครองเด็ก รวมทั้ง ครูเพชรรัตน์ ตามกรอบของกฎหมายอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กโดนทำร้ายร่างกาย สังเกตอย่างไร? ทำอย่างไรถึงจะรู้ว่าลูกโดนทำร้ายร่างกาย

 

ครูทำร้ายร่างกายเด็ก พ่อแม่มีวิธีรับมือยังไงบ้าง ?

เมื่อครูกลายเป็นคนที่ใช้ความรุนแรงกับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะด้วยการทำร้ายทางร่างกาย หรือทำร้ายด้านจิตใจด้วยการใช้คำพูดด่าทอรุนแรง และชอบอ้างว่าเป็นการลงโทษ เพราะเด็กทำผิดหรือเพราะหวังดีก็ตาม แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม การใช้ความรุนแรงกับเด็กก็นับเป็นความทารุณที่ยากจะเข้าใจได้เช่นเดียวกัน เพราะผลกระทบที่เกิดกับเด็กผู้ถูกกระทำนั้น อาจจะร้ายแรงเกินกว่าที่ครูคนหนึ่งจะรับผิดชอบได้ไหว

 

ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกกำลังถูกคุณครูหรือบุคลากรของโรงเรียนทำร้ายให้บาดเจ็บหรือทำให้หวาดกลัว นอกจากรีบดำเนินการให้ถึงที่สุดแล้ว อย่าลืมเยียวยาด้านร่างกายและจิตใจของลูกให้กลับมา เลิกหวาดกลัว และสอนให้เขารู้จักปกป้องตัวเองด้วยการรีบบอกคุณพ่อคุณแม่ทันทีหลังจากถูกทำร้ายร่างกาย โดยสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พอจะช่วยให้ลูกรับมือกับความรู้สึกนี้ได้ มีดังนี้

 

1. เปิดโอกาสให้ลูกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เด็ก ๆ ที่เพิ่งผ่านการโดนทำร้ายมาอาจจะยังรู้สึกหวาดกลัว และไม่กล้าพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าและระบายความในใจออกมา โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยปลอบด้วยความรัก ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเยียวยาจิตใจของลูกเลยก็ว่าได้

 

2. กระตุ้นความเชื่อมั่นในตัวลูก

เด็กที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนใหญ่แล้วมักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่มีความมั่นใจ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องโดนตำหนิและลงโทษอยู่เสมอ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้มันส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของลูกเป็นอย่างมากเลยค่ะ สิ่งที่คุณพ่อคุณทำได้ก็คือ ทำให้ลูกเชื่อมั่นในตัวเอง ด้วยการกล่าวชื่นชมว่าลูกทำสิ่งต่าง ๆ รวมถึงให้โอกาสลูกได้ดูแลและช่วยเหลือตัวเองมากขึ้นด้วยค่ะ

 

ครูทำร้ายร่างกายเด็ก

 

บทความจากพันธมิตร
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

3. สอนให้ลูกรู้จักแสดงความเสียใจออกมา

การสอนให้ลูกยอมรับว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไร ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ เช่น หากถูกคุณครูที่โรงเรียนใช้ความรุนแรง ลูกรู้สึกเจ็บทั้งทางร่างกายหรือรู้สึกเสียใจที่ครูมีพฤติกรรมอย่างนั้น ก็สามารถแสดงออกหรือบอกให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจได้เลย จะทำให้เขากล้าคุยทุกอย่างกับพ่อแม่มากขึ้น

 

4. สอนให้ลูกรู้ว่าความเจ็บปวดมันจะค่อย ๆ หายไป

การทำร้ายร่างกายเด็ก ถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาก ๆ จนกลายเป็นความทรงจำที่ไม่ดีในวัยเด็ก คุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยเยียวยาจิตใจของลูกด้วยการสอนให้ลูกเข้าใจว่าความเจ็บปวดหรือสิ่งไม่ดีที่ลูกเจอ มันจะเกิดขึ้นแค่ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อโตขึ้นเดี๋ยวมันจะค่อย ๆ หายไปเอง

 

เมื่อไรก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกถูกทำร้ายร่างกาย สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการทำความเข้าอกเข้าใจความรู้สึกของลูก เพื่อไม่ให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว เพราะมันอาจจะนำไปสู่แผลในใจของเขาได้เมื่อโตขึ้นค่ะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการของลูกได้ เมื่อเขารู้สึกต่อต้านการไปโรงเรียน

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

พี่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย เด็ก 1 ขวบ จับหัวกระแทกพื้นปูนจนสมองบวม

ความรุนแรงในครอบครัว เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง

พ่อแม่ที่ตีลูก ดุด่าลูก ใส่อารมณ์กับลูก ระวังลูกโตไปเป็นเด็กเสียคน ไร้วินัย

ที่มา :

thairath.co.th

aboutmom.co

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

supasini hangnak

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • แฉ! โรงเรียนบนดอย ครูทำร้ายร่างกายเด็ก แถมเงินบริจาคถูกเบิกไปเที่ยวส่วนตัว
แชร์ :
  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว