เรียกได้ว่าปัญหาการพาลูกไปห้าง หรือที่สาธารณะ แล้วสร้างความเสียหาย จนพ่อแม่ต้องชดใช้ เป็นอีกหนึ่งข่าวที่เห็นได้บ่อยเลยค่ะ อย่างเช่นเดียวกับข่าวนี้ ที่พ่อแม่ต้องกุมขมับหลัง ลูกสาว 2 ขวบ พกขวดสีทาเล็บไปสะบัด สร้างงานศิลปะทั่วร้านเสื้อผ้า ค่าเสียหายถึงกับเครียดกันเลยทีเดียว !
เว็บไซต์ Says ได้เปิดเผยข่าวของนาย ชาห์ อินทราวัน หรือรู้จักกันดีในชื่อว่า โทมัค นักร้องดังชาวมาเลเซีย เจ้าของอินสตาแกรม @Tomokofficial ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ชวนกระอักกระอ่วน เมื่อ ลูกสาว 2 ขวบ ได้สร้างงานศิลปะทั่วร้านเสื้อผ้าลีวายส์ ในห้างเดอะ การ์เดนส์ มอลล์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ในอินสตาแกรมของโทมัค ได้เปิดเผยว่า เขาได้ไปเที่ยวห้างกับครอบครัว หลังในช่วงการละศีลอด และเขาก็ได้แวะเข้าไปดูเสื้อผ้าในร้าน โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อลูกสาวของเขา ได้หยิบน้ำยาทาเล็บมาสะบัด และสร้างผลงานศิลปะไปทั่วร้านค้า กว่าที่เขาและภรรยาจะเห็นว่า ลูกทำอะไรก็สายไปเสียแล้ว เพราะเสื้อผ้าในร้านเสียหายไปจำนวนมาก
ด้วยความที่ลูกยังเล็กและไร้เดียงสา โทมัคไม่ได้ดุด่าลูกของตัวเอง และยอมรับผิดชอบแต่โดยดี ทางด้านพนักงานที่เห็น ก็ได้เข้ามาอธิบายสถานการณ์ และตัวเขาเองก็เข้าใจว่า ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อเสื้อผ้าเกิดความเสียหาย ที่มาจากตัวลูกค้า ลูกค้าก็ต้องซื้อกลับไป
ซึ่งราคาของสินค้าที่ต้องชดใช้ ก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ ได้แก่ กางเกงยีนส์วินเทจ 4 ตัว ตัวละ 10,000 บาท, เสื้อเชิ้ต 2 ตัว ตัวละ 3,855 บาท, และเสื้อยืดอีก 1 ตัว ตัวละประมาณ 7,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดคิดเป็นประมาณ 54,000 บาท
ภายหลังพนักงานได้ลดราคาสินค้าให้ โดยเหลือราคาประมาณ 45,000 บาท แต่ถึงแม้จะลดราคาแล้ว เค้าก็ยังต้องจ่ายเยอะอยู่ดี ทำให้เค้าอกไม่ได้ที่จะโอดครวญ เมื่อต้องคิดถึงราคาของที่ต้องจ่ายไปอีกครั้ง
หลังจากการซื้อสินค้ามา ตามที่เจ้าตัวต้องรับผิดชอบ โทมัคได้บอกว่า จะเอาเสื้อผ้าไปขายต่อในราคาถูก เพราะไม่ใช่ไซซ์ของตัวเอง ไม่สามารถใส่ได้สักตัว โดยจะขายกางเกงเดนิมตัวละ 6,100 บาท และเสื้อแต่ละตัวที่ซื้อมา ก็ลดราคาไปประมาณ 700-1,500 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาลงคลิปไปในโซเชียล ก็ได้มีคนเข้ามาให้กำลังใจมหาศาล หลายคนชื่นชมในท่าทางการแก้ปัญหา ที่มีความใจเย็นและไม่ดุลูก ชื่นชมที่เป็นพ่อที่ดี ยอมจ่ายเงินเพื่อรับผิดชอบ กับสิ่งที่ลูกตัวเองได้ทำลงไป
โดยการขายเสื้อผ้าของเขา ได้มีแฟนเพลงหลายคนขอซื้อต่อ ในขณะที่บางความเห็น ก็บอกให้เจ้าตัวเซ็นกางเกงไปเลย แล้วให้เพื่อนศิลปินมาเซ็นด้วยกัน กางเกงนี้จะกลายเป็นของลิมิเต็ด เอาไปขายเพิ่มได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ความมั่นใจในตัวเองของลูกสาว จะลดตอนอายุแปดขวบ คุณช่วยอะไรลูกได้บ้าง?
การรับมือเมื่อลูกดื้อในที่สาธารณะ
เชื่อว่าหลายบ้าน อาจจะต้องเคยเจอปัญหาเหล่านี้ เมื่อลูกวัย 1-3 ขวบ เกิดอาการร้องไห้งอแง และเริ่มกรีดร้องโวยวาย ในพื้นที่สาธารณะที่มีคนพลุกพล่าน นำมาซึ่งปัญหาหนักใจของพ่อแม่ มีบางครั้งที่อาจจะทำอะไรไม่ถูก จนคนที่เดินผ่านไปมาเริ่มมอง และอาจกำลังตำหนิคุณอยู่ในใจ
ในการจัดการพฤติกรรมของลูก อาจสร้างความลำบากใจให้พ่อแม่ได้ บางบ้านอาจยอมตามใจ เพื่อไม่ให้ลูกร้องกว่าเดิม จะได้ไม่อายไปมากกว่านี้ แต่บางบ้านก็ปล่อยให้ลูกร้องต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่ตัวเด็กก็ไม่มีท่าทีจะหยุด มาดูกันค่ะว่าควรจะรับมือกับเรื่องแบบนี้อย่างไร
สาเหตุที่ลูกร้องหรือโวยวาย ในที่สาธารณะ
- อาจเกิดจากความอึดอัด คับข้องใจ ที่ยังไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดได้ เนื่องจากยังเด็กจนเกินไป
- ลูกไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ หรือความรู้สึกของตัวเองได้ เมื่อมีความเครียด หรือวิตกกังวล
- ลูกอาจหงุดหงิดจากภาวะความง่วง ความหิว หรือเพลีย จนเกิดเป็นการอาละวาดได้ เพราะความอดทนยังมีน้อยตามวัย
- เกิดจากความเรียกร้องความสนใจของลูก
- ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าหากแสดงออกแบบนี้ จะได้ในสิ่งที่ต้องการ
- การเลี้ยงดูที่ตามใจเกินไป ไม่ได้รับการกำหนดข้อบังคับชัดเจน ทำให้เด็กไม่รู้วิธีแสดงออก
บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 วิธีรับมือ ลูกร้องในที่สาธารณะ วิธีจัดการเมื่อลูกร้องท่ามกลางคนเยอะ ๆ
เมื่อเกิดเหตุการณ์สร้างความเสียหาย ดังเช่นข่าวของนักร้องชาวมาเลเซีย พ่อแม่บางคนอาจจะเริ่มจากการดุ หรือทำการตำหนิลูก ทำให้ลูกอาจแสดงพฤติกรรมดังข้อข้างต้นได้ แต่ถ้าหากอยู่ดี ๆ ลูกเกิดร้องในที่สาธารณะ ผู้ปกครองอาจจะต้องพิจารณาก่อนว่า พฤติกรรมที่ลูกแสดงออกเกิดจากอะไร อะไรเป็นปัจจัยเสริม ที่ทำให้เป็นแบบเดิมหรือไม่ เพื่อที่จะได้รับมือได้อย่างถูกต้อง
วิธีรับมือเมื่อลูกร้องในที่สาธารณะ
- พ่อแม่ควรยึดหลักที่บอกว่า “หากไม่ต้องการให้ลูกทำแบบผิด ๆ ก็ต้องไม่สนใจกับการกระทำนั้น” ซึ่งการไม่สนใจลูกควรที่จะแน่ใจว่าสถานที่ดังกล่าวปลอดภัยไม่เกิดการบาดเจ็บทีหลัง
- พ่อแม่ควรอุ้มลูกออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็ว หากลูกทำท่าจะอาละวาด การพาลูกออกมาเพื่อให้สงบสติอารมณ์และหยุดไปเอง โดยที่ไม่มีการลงโทษรุนแรง จะทำให้ลูกเรียนรู้ว่า ต่อให้ทำแบบนี้อีก ก็จะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
- ถ้าลูกร้องพร้อมกับพฤติกรรมก้าวร้าว ด้วยการทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น หรือทำลายสิ่งของ ควรจัดการลูกด้วยท่าทีสงบ ไม่จับรุนแรงจนลูกเจ็บ พร้อมทั้งอธิบายด้วยท่าทีมั่นคง และน้ำเสียงปกติว่าทำไมถึงไม่ควรทำแบบนี้
- หลังจากที่ลูกสงบลงแล้ว พ่อแม่ควรถามสาเหตุกับลูก หรือช่วยกันหาคำตอบ ว่าอะไรที่ทำให้ลูกอาละวาด รวมถึงหาวิธีแก้ปัญหาและป้องกันอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก
ในกรณีที่ลูกโตขึ้นแล้ว พ่อแม่สามารถเพิกเฉยกับพฤติกรรมของลูก เพื่อให้ลูกรู้ตัวว่า ทำไปก็ไม่ได้ตาที่ต้องการ พร้อมทั้งอธิบายให้ลูกเข้าใจ โดยที่ไม่ควรมีอารมณ์โกรธมาผสม เช่น “แม่รู้ว่าหนูอยากได้ของชิ้นนี้ หนูจะร้องไห้ออกมาก็ได้ เมื่อหนูหยุดร้องแล้วเราจะไปเดินเที่ยวต่อ แต่หากหนูไม่หยุดร้องเราก็จะกลับบ้านกันเลย”
เชื่อว่าหลายบ้านอาจจะเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้ และไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หลังจากนี้คุณพ่อคุณแม่ อาจจะต้องหาวิธีแก้ปัญหาเผื่อไว้ ในอนาคตเจ้าตัวเล็กอาจจะแผลงฤทธิ์อีกครั้ง หลังจากนี้ก่อนออกจากบ้าน อาจจะต้องหาข้อตกลง หรือกฎเกณฑ์มาคุยกับลูกแล้วล่ะค่ะ !
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
การรับมือกับปัญหาลูกชอบกรี๊ดในที่สาธารณะ พร้อมวิธีแก้
สอนลูกใช้บันไดเลื่อน ทำอย่างไร? วิธีป้องกันอุบัติเหตุใกล้ตัวลูกรัก
ลูกร้องไห้ขณะนอนหลับ มีสาเหตุมาจากอะไร? ฝันร้ายหรือเปล่า
ที่มา :
says.com
instagram @tomokofficial
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!