ลูกเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา จะหาวิธีรับมือได้อย่างไรบ้าง?
ลูกเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา จะหาวิธีรับมือได้อย่างไรบ้าง?
เคยเป็นกันหรือไม่ เมื่อ ลูกเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา เป็นธรรมดาของเด็กเล็กที่มักจะยังไม่มีอารมณ์ความรับผิดชอบ บางครั้ง อยากได้อะไร อยากทำอะไร ก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปดั่งใจตัวเองเสมอ แต่จะทำอย่างไรเมื่อลูกของเราเรียกร้องความสนใจมากเกินจนเราปวดหัว มีวิธีการอะไรบ้างที่เราจะสามารถรับมือกับลูกของเราในเวอร์ชั่นที่ไม่น่ารักแบบนี้ได้บ้าง หรือว่า ลูกของเราควรได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือไม่ วันนี้เรามีคำแนะนำสำหรับเรื่องนี้มาให้คุณ
หาที่มาที่ไปของปัญหา
ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป ถ้าผู้ปกครองสามารถหาต้นตอของปัญหาได้ เราก็จะสามารถวางแผนพูดคุยหรือแก้ปัญหาไปพร้อมกันกับลูก ปัญหาของเด็กบางคนอาจเกิดจากเรื่องราวภายในครอบครัว หรือ สำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนก็เป็นได้เช่นกัน ผู้ปกครองอาจจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูก หรือ เปิดใจคุยกับลูกตรง ๆ การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และ พูดคุยกันอย่างมีเหตุผลอาจจะทำให้ปัญหานี้คลี่คลายได้ไม่ยาก
พ่อแม่ หรือ ผู้ปกครอง ควรหาสาเหตุที่มาที่ไปว่า ทำไมเด็กถึงทำแบบนั้น เพื่อจะได้แก้ไขได้ตรงจุด
ทำให้ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นที่รัก
ความรักเป็นอีกสิ่งนึงที่ผู้ปกครองควรเติมเต็มให้แก่ลูกอยู่เสมอ ในบางครั้งเราอาจมีธุระ หรือมีเรื่องสำคัญมากมายที่จำเป็นจะต้องทำเพื่อดูแลลูกในทางด้านค่าใช้จ่ายหรือความเป็นอยู่ จนลืมไปว่า สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งคือ การใช้เวลากับลูก เด็กยังเป็นวัยที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ ควรแบ่งเวลาให้ได้ทำกิจกรรม หรือ เล่นกับลูกบ้าง เพื่อให้เขารู้สึกว่าเป็นที่รักของผู้ปกครอง เมื่อเด็กได้รับความรักจากครอบครัว เขาก็พร้อมที่จะออกไปเจอเรื่องราวข้างนอกได้อย่างเข้มแข็ง หรืออย่างน้อยในวันที่เกิดเรื่องราวที่ทำให้ลูกเสียใจ เขาก็จะรู้ว่า ครอบครัวยังเป็นที่เขาสามารถกลับไปพักพิงได้เสมอ
อย่าลืมชื่นชมหรือให้กำลังใจลูกบ้าง
แม้สุภาษิตโบราณของไทยกล่าวเอาไว้ว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” แต่คำสอนในอดีตนั้นอาจใช้ไม่ได้กับยุคปัจจุบัน แม้ตัวผู้ปกครองเองอาจจะไม่รู้ตัว แต่การที่เราไม่ให้กำลังใจลูก หรือ ชื่นชมลูกของเราเลยนั้น อาจเป็นปัญหาใหญ่มากกว่าที่คิด ลูกอาจรู้สึกไม่สนิทสนมกับ ผู้ปกครอง ไม่กล้าปรึกษา เปิดใจ ไม่กล้าพูดคุย หรือ เขาอาจจะกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจไปเลยก็ได้ในอนาคต สำหรับเด็กบางคนอาจจะทำให้เขาตัดสินใจเรียกร้องความสนใจในทางที่ผิด จนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวเอง และ คนรอบข้าง เพราะฉะนั้นอย่างลืมว่า ลูกของเราจดจำคำพูดและการกระทำที่เราปฏิบัติต่อเขาได้เสมอ
การชื่นชม หรือ ให้กำลังใจลูก ก็เป็นวิธีที่ดีที่ช่วยแก้ปัญหาการเรียกร้องความสนใจ แต่ต้องชมลูกในวิธีที่ถูกต้องด้วยนะคะ
ลงโทษด้วยวิธีอื่นนอกจากการต่อว่า
การว่ากล่าวตักเตือน ด้วยถ้อยคำตัดพ้อ หรือ รุนแรง อาจจะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องเสมอไป และ มันอาจจะนำปัญหาด้านอื่นมาให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ผู้ปกครองอาจจะเปลี่ยนจากการต่อว่ามาเป็นการทำโทษแบบอื่น เช่น การทำ Time Out ให้ลูกได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทบทวนสิ่งที่เขาทำ เมื่อหมดเวลาแล้วค่อยทำความเข้าใจกับลูก พูดคุยถึงปัญหาอย่างมีเหตุผล จะเป็นทางออกที่ดีกว่าการตำหนิ
เปลี่ยนจากการต่อว่าลูก เป็นการทำโทษในแบบต่างๆ ดีกว่า
ตั้งกฏให้กับลูกที่เรียกร้องความสนใจมากจนเกินพอดี
เด็กบางคนอาจจะเคยชินกับการตามใจจนเคยตัว เมื่อตนไม่ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ เด็กอาจจะทำพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก ทั้งในบ้าน หรือ ตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ทำให้ผู้ปกครองตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนรอบตัว สิ่งที่ผู้ปกครองจะทำได้ก็คือ สร้างกฏกับลูกน้อย เช่น เมื่อเขาปฏิบัติตัวดีเขาจะได้รับคำชม ถ้าเขาปฏบัติตัวแย่ก็จะมีบทลงโทษตามมา อีกอย่างที่สำคัญก็คือ ผู้ปกครองควรที่จะมีความคงเส้นคงวา ลูกจะได้เข้าใจ และ คิดว่าผู้ปกครองเอาจริงเอาจังกับข้อตกลงที่ตั้งไว้
ทำให้เด็กรู้ว่าตัวเองมีความรับผิดชอบมากพอ
บางครั้งการที่ลูกเรียกร้องความสนใจมากเป็นพิเศษนั้น อาจจะเกิดจากการที่ผู้ปกครองตามใจด้วยส่วนหนึ่ง ผู้ปกครองอาจจะหากิจกรรม หรือ งานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆให้เขารับผิดชอบ เด็กจะรู้สึกว่า ตนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีความรับผิดชอบ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นผลดีในอนาคตทำให้เด็กมีภาวะเป็นผู้นำ และ ดูแลตัวเองได้มากขึ้นอีกด้วย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
สำหรับเด็กบางคน ที่ไม่ว่าจะรับมือด้วยวิธีไหนก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย ผู้ปกครองอาจจะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือ การพบจิตแพทย์นั้นไม่ใช่เรื่องผิด หรือ เรื่องที่น่าอายแต่อย่าใด เด็กบางคนอาจจะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ หรือ สมอง โดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นการพบผู้เชี่ยวชาญอาจจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยคลี่คลายปัญหาได้
เมื่อเกิดปัญหาใด ๆ กับตัวเด็กก็ตามผู้ที่จะสามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วที่สุดก็คงจะเป็นผู้ปกครอง เพราะฉะนั้นการที่ผู้ปกครองให้ความเอาใจใส่ดูแล พูดคุยกับลูกอยู่อย่างสม่าเสมอนั้นจะช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ลูกจะกล้าพูดคุยกับผู้ปกครองมากขึ้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้นในชีวิตเขา ทำให้ผู้ปกครองสามารถเข้าถึงและแก้ปัญหาไปพร้อมกันกับลูกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ และ คอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่น รวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงาน และ ดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจ และ พร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอด เพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง The Asianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่ และ เด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัยในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และ กิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
source หรือ บทความอ้างอิง : afineparent, psychcentral, sueatkinsparentingcoach, empoweringparents
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
สยบ! ลูกดื้อ เอาแต่ใจ ด้วย Positive Parenting เทรนด์ใหม่ของการเลี้ยงลูก
สิ่งที่พ่อแม่ควรทำให้ลูกดู ไม่ใช่แค่บอกให้ลูกทำ อยากสอนลูกใช้วิธีนี้สิดี!!
ห้ามพ่อแม่ตีลูก ญี่ปุ่นเตรียมออกกฎ! หลังสถิติเด็กถูกทำร้ายพุ่งสูง พ่อแม่ไทยทำบ้างดีไหม?
ใจร้ายเกินไปไหม? แค่เด็กนักเรียนพูดเก่งถึงกับต้องทำกันขนาดนี้เลยหรือ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!