X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

มาดู ! สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง อันตรายที่ควรระวัง คนท้องเสี่ยงแค่ไหน ?

20 Mar, 2023
มาดู ! สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง อันตรายที่ควรระวัง คนท้องเสี่ยงแค่ไหน ?

เมื่อพูดถึงอันตรายของ สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง อาจจะเป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะน้อยครั้งที่จะมีการเข้าถึงเรื่องนี้ เมื่อโดยปกติแล้ว ชีวิตประจำวันของแม่ท้อง ไม่ได้มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องสักเท่าไร แต่ก็มีข้อมูลที่ชัดเจนแน่นอนว่า “การที่คนท้องสัมผัสกับรังสี ถือเป็นความเสี่ยงต่อเด็กเล็ก และพัฒนาการของทารกในครรภ์” แม้กระทั่งการเอกซเรย์ (X-Ray) แม่ท้องบางคนอาจจะกังวลถึงอันตราย ที่อาจเกิดกับลูกน้อยได้เช่นกัน เชื่อว่าแม่หลายคนกำลังสงสัยข้อนี้อยู่แน่นอนค่ะ วันนี้ theAsianparent จะพาไปหาคำตอบข้อนี้กันค่ะ !

 

วัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 วัตถุอันตรายที่หลายคนตามหา

เมื่อช่วงที่ผ่านมามีการพูดถึงข่าว วัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 เป็นเวลาต่อเนื่อง เนื่องจากมีการนำเสนอข่าวว่า วัตถุอันตรายนี้สูญหายไปจากโรงไฟฟ้าไอน้ำ และวัตถุดังกล่าวหากถูกแปรสภาพแล้ว อาจจะทำให้เกิดความอันตราย หรือสร้างความเสียหายให้กับประชาชนโดยรอบ ซึ่งเป็นข่าวที่ทำให้ชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงโรงไฟฟ้าไอน้ำ ที่ต้องอยู่ในพื้นที่ อ. ศรีมหาโพธิ จ. ปราจีนบุรี เป็นกังวลจนนอนไม่หลับ และคอยติดตามข่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่า อาจถูกแปรสภาพด้วยการหลอมถลุงเป็นฝุ่นแดงแล้ว จึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำดังกล่าว

 

สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง

 

Advertisement

อันตรายจากสารกัมมันตรังสี

ในปัจจุบันวิทยาศาสตร์ได้มีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน และการพัฒนาในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับชีวิต จึงอาจเป็นสิ่งที่อาจสร้างอันตรายได้ เช่นเดียวกับการใช้งานสารกัมมันตรังสี หากใช้งานผิดวิธี ไม่ถูกกับชนิดนั้น ๆ ก็อาจทำให้เกิดโทษได้ เช่น หากได้รับสารรังสีแบบเฉียบพลัน ในปริมาณมากเกินพอดี ก็อาจทำให้ถึงอันตรายแก่ชีวิตได้ หรืออาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อลูกหลาน ที่อาจเกิดมาผิดปกติได้ค่ะ

 

ดังนั้นการใช้งานหรือเข้าใกล้ สารกัมมันตรังสีต่าง ๆ ควรมีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้และความเข้าใจในด้านนั้น ๆ เพื่อป้องกันอันตรายจากนั้นได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังเพื่อใช้งานรังสี ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด อีกทั้งรังสีเป็นได้ทั้งอนุภาคหรือคลื่น ที่ปล่อยออกมาพร้อมกับอะตอม จึงไม่มีสี กลิ่น หรือสิ่งที่ทำให้สังเกตเห็นได้ ทำให้ผู้ที่ได้รับไม่ทราบว่าตนเองได้รับรังสี และในการตรวจวินิจฉัย ผู้ป่วยจะได้รับรังสีดังนี้

  • จากลำแสงเอกซเรย์ จากหลอดเอกซเรย์โดยตรง
  • จากรังสีที่รั่วจากหลอด
  • จากรังสีกระเจิงที่ไปกระทบผู้ป่วย

 

สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง

 

นอกจากนี้สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยได้รับรังสีเพิ่มขึ้นเกินความจำเป็น ประกอบด้วย

  • การส่งตรวจทางรังสีโดยไม่จำเป็น
  • การถ่ายภาพรังสีซ้ำ
  • ใช้เทคนิคการถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม
  • เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจถึงหลักการป้องกันอันตราย จากรังสีและองค์ประกอบต่าง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เอกซเรย์อันตรายต่อลูกในท้องไหม คนท้องเข้าเครื่องสแกนได้หรือเปล่า??

 

ปัจจัยที่จะทำให้เกิดอันตรายจากรังสี

สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง เมื่อพูดถึงการที่คนท้องจะได้รับการเอกซเรย์ ระหว่างการตรวจครรภ์หรือตรวจสุขภาพอื่น อาจทำให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์ได้เช่นกัน แต่ว่าอันตรายนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ 2 ปัจจัยดังนี้

 

1. ปริมาณรังสี

สำหรับรังสีเอกซเรย์ เป็นรังสีที่ได้รับจากการวินิจฉัยโรค เกิดจากการที่รังสีเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในวัตถุ แล้วทำให้เกิดประจุไฟฟ้าหรือไอออนในเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต ปริมาณรังสีที่ได้รับอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตได้ ก็ต่อเมื่อมีค่ารวมมากกว่า 5 Rad

 

2. อายุครรภ์ของแม่ท้อง

การเอกซเรย์ของแม่ท้อง เป็นการได้รับรังสีปริมาณน้อย เพื่อเป็นการตรวจวินิจฉัยโรคหรืออื่นใด ไม่สร้างความเสียหายให้กับทารก อีกทั้งหากการเอกซเรย์นั้น ไม่ใช่ตำแหน่งที่ใกล้อุ้งเชิงกราน แต่ถ้าหากแม่ท้องเกิดอันตราย ด้วยการได้รับรังสีมาก ๆ (High dose) ในช่วงแรก อาจมีผลให้เกิดการแท้ง หรือทารกเสียชีวิตในครรภ์ได้ แต่ถ้าเป็นช่วง 17 สัปดาห์แรก จะมีผลให้เกิดความพิการแต่กำเนิด ทารกโตช้าในครรภ์ หรือความบกพร่องทางสติปัญญาได้

 

สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง

 

นอกจากการแท้ง หรือพัฒนาการในครรภ์เติบโตได้ช้า อีกหนึ่งสิ่งที่แม่ท้องอาจเกิดได้กับตัวเอง นั่นก็คือโรคมะเร็งค่ะ เพราะเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ หากได้รับสารกัมมันตรังสีใดเป็นเวลานาน ซึ่งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ พบความสัมพันธ์ระหว่างรังสี ที่พบได้ในชีวิตประจำวันกับมะเร็งหลายชนิด ได้แก่ มะเร็งเต้านม, มะเร็งระบบเลือด, และมะเร็งสมอง

 

อีกทั้งการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก และมะเร็งของระบบเลือดอื่น ๆ พบว่า มีความสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำ เช่น จากสายไฟ เนื่องจากการที่พบว่า อัตราการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวในเด็ก เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า ในผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของสายไฟแรงสูงอยู่

 

การได้รับสารกัมมันตภาพรังสี ระหว่างการให้นมบุตร

โดยปกติ ขณะตั้งครรภ์และให้นมลูก แม่ท้องควรเลี่ยงการได้รับสารกัมมันตภาพรังสี แต่ในบางกรณีอาจมีความจำเป็น ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย ที่ต้องใช้การฉีดสารกัมมันตภาพรังสี โดยการสะสมของสารที่คงค้างในร่างกาย หลังได้รับการฉีดรังสีเพื่อรักษามีค่าถึง 6 ชั่วโมง ก่อนที่การแผ่กัมมันตภาพรังสีจะหมดใน 24 ชั่วโมง ดังนั้นแม่ที่ได้รับสารกัมมันตรังสี เพื่อการตรวจวินิจฉัย อาจใช้วิธีการบีบน้ำนมเก็บแช่ตู้เย็น เพื่อให้ลูกกินระหว่างนั้น หลังจากสารนี้สลายไป น้ำนมที่เก็บไว้สามารถใช้ได้ตามปกติ

แต่ในแม่ที่ได้รับสารกัมมันตภาพรังสีเพื่อการรักษา เช่น การรักษามะเร็งปากมดลูก โดยการฝังแร่ หรือสารไอโอดีนไอโซโทป เพื่อการรักษามะเร็งไทรอยด์ แม่จำเป็นต้องงดการให้นม อีกทั้งหลังจากจบการรักษา จำเป็นต้องเว้นระยะการให้นมนานกว่า 60 วัน แต่ต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะปริมาณหรือกรณีที่ได้รับสารกัมมันตภาพรังสีแต่ละตัวแตกต่างกันไป ซึ่งหากลูกมีปัญหา ไม่สามารถกินนมผงได้ อาจจะต้องพิจารณาทางเลือกของอาหาร ด้วยนมที่ได้รับการบริจาคจากธนาคารนมแม่

 

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง

 

การป้องกันอันตรายจากรังสี

  1. ไม่ควรเข้าใกล้บริเวณที่มีสารกัมมันตรังสี หรือในบริเวณที่มีการปฏิบัติงานทางรังสี
  2. แม่ท้องควรหลีกเลี่ยงการตรวจหรือการรักษาที่ต้องใช้รังสี หากมีความจำเป็น ควรปรึกษาแพทย์อย่างเคร่งครัด
  3. เลี่ยงการถ่ายเอกซเรย์หลายครั้ง หรือถ่ายซ้ำโดยไม่จำเป็น
  4. ผู้ป่วยเด็กที่จำเป็นต้องเอกซเรย์ ควรมีเครื่องกำบังรังสี โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ
  5. ห้ามสตรีมีครรภ์และเด็ก เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับการฝัง หรือสอดใส่สารกัมมันตรังสี
  6. ผู้ป่วยที่ได้รับการฝัง หรือสอดใส่สารกัมมันตรังสี ไม่ควรกลับบ้าน ก่อนได้รับความยินยอมจากแพทย์

 

อย่างไรก็ตาม การที่แม่ท้องได้รับรังสีถือเป็นความเสี่ยงต่อเด็ก ที่สำคัญรังสีต่าง ๆ อาจจะมีผลต่อพัฒนาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก ช่วงวัยที่สมองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และร่างกายเด็กสามารถดูดซับรังสีได้ ในปริมาณมากกว่าผู้ใหญ่ หากบริเวณใดที่มีการติดป้ายเตือน หรือมีการระบุพิกัดวัตถุอันตราย ไม่ควรเข้าใกล้ และรักษาระยะห่างให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายทั้งต่อตัวเอง และครอบครัวค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

หายสงสัย! คนท้องดื่มเบียร์ ได้มั้ย? เขาว่ากันว่า เบียร์ช่วยล้างไขให้ลูก จริงเหรอ?

รู้ไหม ? คนท้องห้ามดูบอล เลือกคู่ไม่ถูกเสี่ยงครรภ์ไม่แข็งแรง

คนท้องหายใจติดขัดจะเป็นอะไรไหม ส่งผลอะไรต่อลูกในท้องหรือเปล่า

ที่มา :

https://www.vibhavadi.com/

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanthamanee Phisitbannakorn

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • มาดู ! สารกัมมันตรังสี กับคนท้อง อันตรายที่ควรระวัง คนท้องเสี่ยงแค่ไหน ?
แชร์ :
  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว