เด็กชายคนหนึ่ง เล่นซ่อนหา อยู่กับเพื่อนในเมืองท่าจิตตะกอง และได้เข้าไป เล่นซ่อนหา ในตู้คอนเทนเนอร์ใบหนึ่ง คนงานไม่รู้ก็เลยปิดล็อกตู้และขนขึ้นเรือ ทำให้เด็กติดอยู่ข้างใน 6 วัน จนกระทั่งเดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิดเกือบ 2,000 ไมล์
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2566 พนักงานประจำท่าเรือสินค้าที่ Port Klang ของประเทศมาเลเซียถึงกับต้องตกใจอย่างมาก เพราะในขณะที่กำลังขนสินค้าลงจากเรือสัญชาติบังกลาเทศลำหนึ่ง จู่ ๆ ก็ได้มี เด็กผู้ชาย ร่างกายผอมโซเดินออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์พร้อมพูดภาษาต่างชาติ เนื่องจากพูดกันคนละภาษา ทำให้เจ้าหน้าที่ท่าเรือจึงไม่สามารถซักถามอะไรจากเด็กชายคนนี้ได้เลย และตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากสงสัยว่าเด็กชายคนนี้อาจจะเป็นเหยื่อของพวกแก๊งค้ามนุษย์ สุดท้ายเรื่องราวกลับหักมุม
รูปถ่าย และคลิปวิดีโอที่พวกคนงานถ่ายไว้เผยให้เห็นเด็กชายรูปร่างผอม ท่าทางงุนงงกับสิ่งรอบตัว ก่อนที่เด็กชายจะถูกนำตัวขึ้นรถพยาบาลไป โดยเด็กชายมีชื่อ ฟาฮิม บอกกับพนักงานสอบสวนประเทศมาเลเซียว่า เขาได้เผลอหลับไปตอนที่กำลังซ่อนตัวขณะเล่นซ่อนหาอยู่ พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองติดอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ พยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงของตนเองเลย โชคดีที่หนูน้อยแม้จะอดข้าวอดน้ำถึง 6 วันเต็ม แต่ก็อาการดีขึ้นมากหลังจากที่ได้รักษาตัวในโรงพยาบาล ทางการประเทศมาเลเซียยืนยันว่า สิ่งที่เด็กชายบังกลาเทศคนนี้เล่าน่าจะเป็นความจริง และไม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเตรียมส่งตัว ฟาฮิม กลับไปประเทศบ้านเกิด
บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ใจสลาย ! ลูกชายวัย 3 ขวบ หายตัวไป ขณะเล่นซ่อนแอบ
9 สถานที่ที่พ่อแม่ไม่ควรปล่อยลูกไว้ตามลำพัง
1. ที่สูง
เพราะเด็กเล็กไวกว่าที่พวกเราทุกคนคิด ดังนั้น การที่ให้เด็กอยู่บนที่สูงจากพื้น จึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา เพราะลูก ๆ อาจที่จะเผลอลุกหรือปีนจนทำให้เกิดเป็นอันตรายกับตัวเองได้
2. อ่างน้ำหรือบ่อน้ำ
หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวการเสียชีวิตของทารกและเด็กเล็ก ๆ จากการจมน้ำในอ่างหรือถังน้ำในห้องน้ำ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองทุกคน จึงไม่ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ และทุกครั้งที่พาลูกไปอาบน้ำ ก็ควรเฝ้าดูแลลูก ๆ อย่างใกล้ชิด เพราะความประมาทเพียงแค่วินาทีเดียว อาจทำให้เกิดการสูญเสียที่ไม่อาจหวนคืนได้
3. บริเวณห้องของเล่น
เด็ก ๆ ยังไม่รู้ว่าสิ่งไหนเป็นอันตรายกับตัวเอง และด้วยอุปนิสัยของเด็กช่วงวัยนี้ ก็ชอบที่จะหยิบจับทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเข้าปากอยู่เสมอ อาจทำให้เด็กเกิดการสำลัก หรือมีสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เข้าไปติดอยู่ในหลอดลม ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ให้ลูกนั่งเล่นของเล่น หรืออยู่บริเวณใดก็ตาม ควรสังเกตดูให้ดีว่า บริเวณดังกล่าวนั้น มีชิ้นส่วนของเล่นหรือสิ่งอื่นอะไรเล็ก ๆ ที่ดูแล้วเป็นอันตราย และลูกอาจจะเผลอหยิบเข้าปากได้ ถ้าหากมีก็รีบเก็บไปทิ้ง หรือเอาไว้บนที่สูง ที่เด็ก ๆ ไม่สามารถเอื้อมหยิบได้นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 9 สถานที่ที่พ่อแม่ไม่ควรปล่อยลูกไว้ตามลำพัง
4. ครัว
อย่าคิดว่าการที่เราวางหม้อข้าว ต้มน้ำร้อน อุ่นแกง หรือทำอะไรก็แล้วแต่ไว้ แล้วลูกจะไม่เข้ามายุ่ง เมื่อลูก ๆ เห็นเราทำอะไร แน่นอนว่า พวกเขาก็ย่อมอยากมีส่วนร่วมด้วย เชื่อไหมคะว่า เพียงแค่เราละสายตาจากลูกเพียงวินาทีเดียว ลูกอาจจะเผลอไปดึงปลั๊ก คว้ากาน้ำ หรือหม้อหุงข้าวก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นห้องครัวจึงเป็นอันตรายต่อลูก
5. บันได
อย่าคิดนะคะว่า ลูกโตแล้ว หรือใกล้โตแล้ว ลูกควรที่จะเรียนรู้ในการขึ้นลงบันไดเองได้ เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณกำลังคิดผิด จริงอยู่ที่ลูกอาจจะเริ่มหัดเดินคล่อง และสามารถเดินขึ้นบันได ทางลาดหรือที่สูงด้วยการจับมือและเดินไปพร้อมคุณพ่อคุณแม่ได้ แต่อย่าลืมนะคะว่า เด็กวัยนี้รักการเรียนรู้ เพราะบางที พวกเขาอาจจะต้องการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และเดินขึ้นลงตามลำพัง จนอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ค่ะ
6. รถเข็น
เวลาที่เราไปซื้อของเข้าบ้านตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ทางห้างก็มักจะเตรียมรถเข็นไว้ให้ โดยจะระบุบริเวณที่เด็กควรนั่งเอาไว้ด้วย ที่เป็นเช่นนี้ เพราะการปล่อยลูกให้เดินวิ่งเล่นบนห้าง อาจจะทำให้ลูกของเราเกิดอุบัติเหตุได้โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการโดนรถเข็นคันอื่นชน หรือของหล่นทับเป็นต้น ดังนั้น เข้าห้างเมื่อไหร่อย่าลืมเอาลูกนั่งบนรถเข็นกันด้วยนะคะ
7. บันไดเลื่อน
สิ่งล่อตาล่อใจเด็ก ๆ และเด็ก ๆ ชอบมากที่สุดก็คือ บันไดเลื่อน ลูก ๆ จะขอขึ้นแล้วขึ้นอีกจนกว่าพวกเขาจะรู้สึกพอใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องอย่าตามใจพวกเขาเป็นอันขาดนะคะ เพราะลูก ๆ อาจจะพลั้งเผลอพลาดตกลงมา หรือโดนบันไดเลื่อนหนีบ จนได้รับอันตรายก็เป็นได้
8. ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและห้องน้ำ
สิ่งหนึ่งที่ควรระวังมากที่สุดก็คือ การปล่อยให้ลูกไปห้องน้ำหรือห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าตามลำพัง เพราะคุณอาจจะกำลังทำให้ลูกตกอยู่ในอันตรายจากเหล่าบรรดามิจฉาชีพที่อยู่รอบตัวก็เป็นได้ ต่อให้ลูกโต ก็ควรไปด้วยกันกับลูกนะคะ เพื่อให้มั่นใจว่า พวกลูกจะปลอดภัย
9. สถานที่อันตราย
จริง ๆ แล้วเราไม่สามารถทราบได้เลยว่า บริเวณไหนบ้างที่เป็นอันตรายกับลูก เพราะแท้จริงแล้ว ทุก ๆ ที่เลยก็อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เราอาจจะไม่สามารถห้ามไม่ให้เกิดได้ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ ดังนั้น เรามาป้องกันไว้ก่อนและไม่ประมาทกันเถอะค่ะ
ไม่ว่าสถานที่ไหน ๆ ก็อาจจะเปลี่ยนจากสถานที่ปกติเป็นสถานที่อันตรายได้ ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ ไม่ได้เอาใจใส่ดูแลลูก ๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเด็ก ๆ นั้นเป็นช่วงวัย ที่อยากรู้อยากลองเป็นอย่างมาก จึงมักจะทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่คุณพ่อคุณแม่ไม่คาดคิด หากคุณพ่อคุณแม่ใส่ใจดูแล และคอยให้คำแนะนำลูก ๆ ให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง อธิบายสิ่งต่าง ๆ ที่ลูกสงสัยแล้วนั้น ก็จะลดปัญหาการเกิดอันตรายจากการที่ลูกเข้าไปเล่นในสถานที่อันตรายเหล่านี้ได้อีกด้วยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ดราม่าสนั่น! เด็กเล่นน้ำริมสระ “จมน้ำ” แต่คนถ่ายยืนมองนานกว่าจะช่วย
อันตรายในบ้าน ที่มักเกิดขึ้นกับลูกของคุณ ทำอย่างไรให้ปลอดภัย
อย่าปล่อยให้ที่เล่นแถวบ้าน กลายเป็นมัจจุราชพรากลูก
ที่มา : mgronline.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!