จริงอยู่ที่เทคโนโลยีเป็นหนึ่งในการอำนวยความสะดวก แต่ถ้าหากเป็นการส่งต่อข้อมูลที่ผิดพลาด ก็อาจจะเป็นการนำเข้าข้อมูลที่ผิด หรือส่งต่อ Fake News ได้เช่นกัน ดังเช่นเรื่องของน้อง ม.4 คนนี้ ที่ถูก รพ. แจ้งลูกท้องในกรุ๊ปไลน์ ทั้งที่ตัวเองไม่เคยไปตรวจครรภ์สักครั้ง
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดอุทัยธานี เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา นางจารุวรรณ คุณแม่วัย 50 ปี ได้เปิดใจถึงเรื่อง รพ. แจ้งลูกท้องในกรุ๊ปไลน์ โดยลูกสาวของเธอ น้องเอ (นามสมมติ) ได้รับความเสียหาย เหตุถูกทำให้อับอายจากการที่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ส่งรายชื่อมาในกลุ่มไลน์ อสม. ที่คอยดูแลเรื่องสุขภาพของชาวบ้าน ซึ่งกลุ่มไลน์นั้นมีสมาชิกกว่า 219 คน
เมื่อวันที่ 12-13 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไลน์เข้ามาในกลุ่มและแจ้งเป็นชื่อลูกสาวมา ว่าลูกสาวของเธอตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ โดยเป็นการส่งมาที่มีทั้งชื่อ นามสกุล และบ้านเลขที่ชัดเจน แต่เหตุการณ์นี้ไม่เป็นความจริง น้องเอของเธอเป็นเด็กวัยเรียน ไม่เคยไปฝากครรภ์ หรือฝากท้องที่โรงพยาบาลดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ ที่มีรายชื่อของลูกสาวในการตั้งท้องได้
หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น แม่ตกใจมากจึงได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกสาว ซึ่งตัวลูกก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่ตัวเองแน่นอน แม่จึงพาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยตนเองอีกครั้ง ในวันที่ 15 ม.ค. 2566 เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันตนเอง และผลตรวจก็ออกมาชัดเจนว่า ไม่ได้ตั้งครรภ์
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้แม่สงสัยว่า ทำไมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล รายดังกล่าว ถึงได้แจ้งว่าลูกสาวของตนเอง ตั้งครรภ์ 5 สัปดาห์ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ลูกสาวของตน เสียหายหนักมาก และอับอายไม่กล้าที่จะออกจากบ้าน พร้อมทั้งโรงเรียนก็รู้เรื่องดังกล่าว ทั้งที่ไม่มีใครอยากจะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น
หลังจากนั้นแม่จึงได้ สอบถามไปยังโรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่แน่ชัด แต่ทางโรงพยาบาลก็ยังยืนยัน พร้อมกับย้ำว่ามีหลักฐานชัดเจน จนล่าสุด แม่ได้ทราบข่าวจากญาติที่เป็น อสม. แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ รพ.ดังกล่าว ได้แจ้งชื่อลูกสาวของตนเองมานั้น เป็นความเข้าใจผิด
โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงมาว่า แจ้งชื่อผิด เป็นชื่อเดียวกัน แต่คนละนามสกุล จึงขอแก้ไขเข้ามาในไลน์กลุ่ม อสม. ว่าขอแก้ข่าว เป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมกับทาง รพ.ดังกล่าว ได้เรียกแม่และเจ้าหน้าที่ รพ.ดังกล่าว มาพูดคุย พร้อมชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางรพ. ได้เสนอค่าเยียวยาด้วยเงินประมาณ 10,000 บาท แต่แม่ยังแคลงใจและไม่พอใจ เห็นแม่เป็นแค่ชาวบ้าน จะมาให้เงิน 10,000 บาท แล้วก็จบ แม่อยากได้รับความยุติธรรมให้มากที่สุด เพราะเกิดความเสียหาย ความอับอาย และสุขภาพจิตของลูกสาวที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ลูกสาวไม่กล้าออกจากบ้าน แถมเพื่อนที่โรงเรียนก็ถามไถ่ ลูกสาวไม่กล้าจะออกไปไหนเลย
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แม่อยากให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าว ออกมาแสดงความรับผิดชอบให้ถึงที่สุด กับตนเองและลูกสาวบ้าง ขณะนี้ลูกสาวยังอยู่ในวัยเรียนชั้น ม.4 ไหนจะชาวบ้านอีกที่ยังไม่เข้าใจ เป็นการตีตราบาปให้กับลูกสาวในครั้งนี้มาก ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดก็แค่ขอโทษ แต่ความเสียหายมันเอากลับคืนมาไม่ได้
ตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 5 อาการเป็นอย่างไร ?
ในช่วง 5 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ถือเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ เพราะจะเริ่มสังเกตได้ว่าประจำเดือนไม่มา จนนึกเอะใจและไปตรวจหาสาเหตุ รวมไปถึงอาการอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น เนื่องจากระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย โดยฮอร์โมนเหล่านี้บางตัว ที่ทำให้ผลตรวจครรภ์ของคุณแม่ออกมาเป็นบวก
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตั้งครรภ์ 5 สัปดาห์ อาการคนท้อง และพัฒนาการของทารกในครรภ์
อายุครรภ์ 5 สัปดาห์ กับพัฒนาการลูกน้อยในครรภ์
ช่วงอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ ขนาดของทารกในครรภ์ จะโตประมาณเมล็ดงา เริ่มมีการแบ่งแยกของกลุ่มเซลล์ ที่จะเติบโตเป็นอวัยวะต่าง ๆ บางส่วนก็จะกลายเป็นสมอง หัวใจ กล้ามเนื้อ หรือกระดูก
การเปลี่ยนแปลงคุณแม่ตั้งท้อง 5 สัปดาห์
เมื่ออายุครรภ์ 5 สัปดาห์ คุณแม่จะเริ่มเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย จมูกไวขึ้น ปัสสาวะบ่อย หรือมีอารมณ์แปรปรวน มีอาการแพ้ท้องอย่างคลื่นไส้ เปรี้ยวปาก อยากทานอาหารแปลก ๆ จากปกติ ก็จะเกิดขึ้นในช่วงที่มีอายุครรภ์ 5 สัปดาห์นี้ ในช่วงอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ คุณแม่จะเริ่มรู้แล้วว่าตั้งครรภ์อย่างแน่นอน จึงควรไปฝากครรภ์กับคุณหมอแต่เนิ่น ๆ
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 5 ในช่วงนี้ เมื่อได้ผลตรวจที่แน่ชัดว่าตั้งครรภ์ หรือเริ่มมีอาการที่บ่งบอกได้ เช่น คลื่นไส้ ปวดปัสสาวะบ่อย ประจำเดือนไม่มาตามปกติ ควรรีบเข้าพบคุณหมอเพื่อฝากครรภ์ และปรึกษาเพิ่มเติมเพื่อเตรียมรับมือกับอาการที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ และต่อไปตลอดการตั้งครรภ์ หากเกิดความกังวลกับเรื่องนี้ คุณแม่ควรหากิจกรรมที่น่าสนใจ หากร่างกายยังไม่มีอาการแพ้ท้องมาก แต่ก็ยังควรเป็นกิจกรรมเบา ๆ นะคะ เช่น ช้อปปิ้ง นัดทานข้าวกับเพื่อน พาคุณสามีไปเที่ยวในที่แปลกใหม่ เพื่อลดความเครียดให้กับตัวคุณแม่เองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
พัฒนาการการตั้งครรภ์ประจำสัปดาห์ที่ 5
แชร์ประสบการณ์! ท้อง 3 ตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ ลูกหนักกว่า 3,500 กรัม
สาว 17 ตั้งครรภ์ 6 เดือน ปวดท้องเข้าห้องน้ำ ลูกหลุดลงชักโครกดับ!
ที่มา : sanook, theasianparent
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!