เรื่องราวสุดพีก มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เกิดกับแม่ลูก ที่ในบางครั้งการเก็บรักษาของ ให้มีอายุยืนยาว พร้อมใช้งานในอนาคต ก็อาจนำมาด้วยความพีกได้ ดังเช่นเรื่องราวของ สาวปวดท้อง แต่แม่เอายาหมดอายุให้กิน โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
โดยเรื่องดังกล่าวถูกแชร์บนโลกออนไลน์ เมื่อ สาวปวดท้อง แต่แม่เอายาหมดอายุให้กิน ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวของตัวเอง โดยเธดได้ระบุว่า ตัวเธอเองนั้น ป่วยเป็นโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบ ทันทีที่แม่รู้เรื่อง ก็ได้นำขวดที่บรรจุยาไว้มาให้กิน เธอได้รับยาจากแม่มากิน โดยที่ไม่ได้คิดอะไร
เมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน แม่เธอก็พูดขึ้นมาว่า “ยาขวดนี้ได้ผลมานานกว่า 20 ปี” เจ้าของเรื่อง รู้สึกว่าคำพูดนี้มีบางอย่างที่แปลก รู้สึกติดใจ จึงได้ตัดสินใจ กลับไปเปิดดูบรรจุภัณฑ์ หรือไปเปิดดูฉลากยา จึงได้เห็นว่า ใต้กล่องเขียนอายุการเก็บรักษา คือ ปี 1999 หมายความว่า ยาขวดนี้หมดอายุไปแล้ว 24 ปี!
รูปภาพจาก: sanook.com
ซึ่งความจริงที่บอกว่า เธอเพิ่งจะกินยาที่หมดอายุไปแล้ว 24 ปี ทำให้ตัวเธอรู้สึกอึ้งระคนตกใจ แต่เธอทำได้เพียง เอ่ยติดตลกว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์ ที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ หลังจากกินยา ที่หมดอายุตั้งแต่ปี 1999 เข้าไป และกล่าวยกย่องบริษัทผู้ผลิตยาว่า แม้ยาขวดนี้จะใช้มานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังช่วยให้เธอหายจากอาการปวดท้องได้อยู่เลย
หลังจากเรื่องราวดังกล่าว ถูกโพสต์สู่ออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากต่าง เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ยาขวดนี้แก่กว่าฉันอีก จะเรียกว่าพี่หรือน้องดีล่ะ” , “การทดลองทางคลินิกได้พิสูจน์แล้วว่า แม้แต่ยาในปี 1999 ก็ยังสามารถต่อสู้กับ กระเพาะอาหารของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ” , “นี่คือยาอายุวัฒนะสำหรับผู้สูงอายุ ตอนฉันยังเด็กฉันปวดฟัน และคุณย่าของฉันใช้มันอุดฟันให้ฉัน” , “อย่างมากที่สุดก็คือ จะท้องเสียถ้ายาหมดอายุ”
หลายคนแทบไม่เชื่อว่า เธอกินเข้าไปแล้วไม่เกิดผลร้ายอะไร แถมยังหายจากอาการป่วยอีกต่างหาก นี่มันยิ่งกว่าเรื่องราวมหัศจรรย์ชัด ๆ แถมยังแห่ยกย่องบริษัทผู้ผลิตยาดังกล่าวกันยกใหญ่
บทความที่เกี่ยวข้อง : ดอค-วัน แม็กซ์ ยาน้ำลดไข้ ทำเด็กตาย 18 ราย ตรวจสอบแล้วไม่มีในไทย!
ไขข้อสงสัย ยาหมดอายุกินได้ไหม ?
ยาหมดอายุ คือ ยาที่มีลักษณะผิดไปจากข้อกำหนด หรือเหลือตัวยาสำคัญน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานของทางผู้ผลิต โดยทางผู้ผลิตจะยึดเกณฑ์จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข หรือเกณฑ์ตามตำรายาสากลประเทศต่าง ๆ
ต้องบอกเลยว่า เมื่อดูฉลากบรรจุภัณฑ์แล้วพบว่า ยาหมดอายุ ไม่ควรกินเด็ดขาด เนื่องจากตัวยาสำคัญ ที่สามารถใช้รักษาโรคที่ต้องการนั้น ได้เสื่อมสลายไปแล้ว และอาจจะมีปริมาณน้อยกว่า 90% ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ที่จะรักษาโรคได้
ยาหมดอายุแล้วบางชนิด อาจจะมีแบคทีเรียเจริญเติบโต อยู่ภายในเม็ดยาได้ หากกินหรือใช้อาจจะทำให้มีอาการรุนแรงขึ้น ยาบางตัวอาจจะกลายสภาพเป็นยาพิษ ที่อันตรายต่อร่างกาย จนอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ
วันหมดอายุยา ดูตรงไหน ?
สำหรับยาที่มีบรรจุภัณฑ์ มักจะระบุวันหมดอายุยาไว้ที่ ใต้กล่อง, ข้างกระปุก, บนแผงยา หรือด้านล่างฉลากยาค่ะ โดยจะใช้คำว่า ยาสิ้นอายุ หรือหากเป็นภาษาอังกฤษจะใช้คำหรือตัวย่อว่า Exp Date, Expiry, Expires, Use By หรือ Use Before แล้วตามด้วยวันเดือนปี ที่ยานั้นหมดอายุค่ะ
ในกรณีที่ยาบางชนิด ระบุไว้เพียงวันผลิต แต่ไม่ได้ระบุวันหมดอายุ สามารถพิจารณาอายุยา ได้ดังนี้
- อายุยา ปกติดูได้จากฉลากยา และภาชนะบรรจุยา
- ยาเม็ด
- ที่ยังไม่เปิดใช้ :เก็บได้ตามอายุยาที่ระบุถ้าเก็บรักษาอย่างถูกต้อง โดยพิจารณาลักษณะภายนอกของยาประกอบ เช่น สี การกร่อน
- แต่ถ้าเปิดใช้แล้ว : เก็บได้เพียง 1 ปี หรือตามกำหนด วันหมดอายุที่ฉลาก ขึ้นกับว่าวันใดถึงก่อน
- ยาน้ำ เมื่อเปิดใช้แล้ว เก็บได้ไม่เกิน 6 เดือน หรือตามกำหนดวันหมดอายุที่ลาก ขึ้นกับว่าวันใดถึงก่อน และต้องพิจารณาลักษณะยาประกอบด้วย เช่น กลิ่น สี รส ตะกอน
- ยาน้ำแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ (ปฏิชีวนะ) ชนิดผงแห้ง เมื่อผสมน้ำแล้ว ควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องแช่ธรรมดา มีอายุ 7-14 วัน (ดูที่ฉลากยาแต่ละชนิด)
- ยาใช้ภายนอก หลังจากเปิดใช้ มีอายุ 6 เดือน หรือตามกำหนดวันหมดอายุที่ฉลาก ขึ้นกับว่าวันใดมาถึงก่อน บางชนิดต้องเก็บในตู้เย็น(ดูที่ฉลากยา)
- ยาครีมหรือเจลทาภายนอก เช่น ยาทาแก้ปวดควรดูว่ามีการเสื่อมสภาพ ก่อนวันหมดอายุที่ข้างหลอดหรือไม่ ควรบีบยาส่วนที่สัมผัสอากาศทิ้งเล็กน้อยก่อนใช้
- ยาหยอดตา ยาป้ายตา หลังจากเปิดใช้ มีอายุ 1 เดือน เพื่อป้องกันยาปนเปื้อนเชื้อโรค บางชนิดต้องเก็บในตู้เย็น (ดูที่ฉลาก)
วิธีสังเกตยาหมดอายุ
- ยาเม็ด : มีลักษณะแตกกร่อน กะเทาะ สีเปลี่ยนหรือซีดจาง เม็ดยาบวม มีรอยด่าง
- ยาเม็ดเคลือบ : มีลักษณะเยิ้มเหนียว
- ยาเม็ดแคปซูล : มีลักษณะบวม โป่งพอง ผงยาภายนอก อาจจับกันเป็นก้อน เปลี่ยนสี หรือ อาจมีเชื้อราขึ้นบนเปลือกแคปซูล
- ยาน้ำเชื่อม : มีลักษณะขุ่น เกิดตะกอน เปลี่ยนสี มีกลิ่นบูด หรือเหม็นเปรี้ยว
- ยาน้ำแขวนตะกอน ยาน้ำอีมัลชั่น : มีลักษณะเขย่าแล้ว ไม่รวมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ตกตะกอน
- ยาครีม : มีลักษณะแยกชั้น ไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกัน เนื้อครีมเปลี่ยนสี หรือมีกลิ่นหืน
- ยาหยอดตา : เปลี่ยนจากน้ำใส ๆ เป็นน้ำขุ่น ยกเว้นยาบางชนิดที่เป็นยาแขวนตะกอน หรือหยอดตาแล้วมีอาการแสบตามากกว่าปกติ
อย่างที่บอกค่ะ ว่าการรับประทานยาที่หมดอายุแล้ว อาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ การกินยาที่หมดอายุอาจจะไม่ได้โชคดี เหมือนดังหญิงสาวที่เป็นข่าว หากมีการเก็บรักษาที่ถูกวิธี และะยะเวลาในการเก็บรักษา ไม่ได้ยาวนานเกินกว่าที่ควร ก็สามารถใช้งานได้ปกติ แต่ทางที่ดี หมั่นหยิบกล่องยามาเคลียร์ทิ้งก่อนที่จะหมดอายุนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
นศ.ถูกบูลลี่ จนต้องลาออก เพราะกินยาต้าน HIV ก่อนเจอความจริงสุดช็อก!
10 ที่ป้อนยาเด็ก ป้อนยาทารก ใช้ง่าย สะดวกสบาย ช่วยให้เด็กทานยาง่าย
ทำความรู้จักยาหม่อง ยาสามัญประจำบ้านที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี!
ที่มา : sanook.com