ยาหม่อง เรียกได้ว่าเป็นยาทาสำหรับภายนอก สามารถซึมเข้าผิวหนัง เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกาย และเป็นยาที่สามารถสูดดมเข้าไปได้ เพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด หรือจะเป็นลม ซึ่งสรรพคุณของยาหม่องก็จะขึ้นอยู่กับสมุนไพรหลักที่ใช้ ดังนั้น ถ้าหากจะเลือกซื้อมาใช้งาน แนะนำให้ตรวจสอบละเอียดให้แน่ชัด และวันนี้ เราจะพาทุกคนไป ทำความรู้จักยาหม่อง ให้มากยิ่งขึ้น มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
ทำความรู้จักยาหม่อง
ยาหม่อง เป็นยาสามัญประจำบ้านที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน มีลักษณะเป็นขี้ผึ้งเนื้อเหลวอ่อน และมีกลิ่นหอม ซึ่งยาหม่องในปัจจุบัน มีทั้งชนิดขี้ผึ้ง และยาหม่องน้ำ และยังมีการจำแนกประเภทเป็นยาหม่องสำหรับทาถู และยาหม่องสำหรับสูดดมอีกด้วย ในส่วนของยาหม่องชนิดขี้ผึ้งนั้นจะสามารถใช้สำหรับทา ถู นวด บรรเทาอาการแมลงสัตว์กัดต่อย และยังสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทาแก้ฟกช้ำดำเขียว และอาการอื่น ๆ มากมาย
และยังสามารถใช้สูดดม เมื่อเกิดอาการหน้ามืดวิงเวียนศีรษะ เมารถ เมาเรือ คลื่นไส้ อาเจียน หรือก็ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก เนื่องจากหวัดซึ่งส่วนสำคัญประกอบของยาหม่อง นั้นจะประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่เป็นตัวยาสมุนไพร และน้ำมันหอมระเหยชนิดต่าง ๆ เช่น เมนทอล การบูร พิมเสน น้ำมันกานพลู น้ำมันยูคาลิปตัส เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาหม่องทาตอนท้องได้ไหม? มีอะไรที่ควรรู้ทาแล้วจะเป็นอันตรายไหม?
ประวัติของยาหม่อง
- ในอดีตประเทศพม่าถูกปกครองโดยประเทศอังกฤษ และประเทศไทยก็ได้ใช้ยาที่มาจากพม่า ซึ่งพม่าได้เรียกยาชนิดว่า ยามาจากหม่อง และไม่ได้จำกัดความว่าเป็นยาชนิดไหนโดยเฉพาะ จึงได้เรียกโดยรวมว่าเป็นยาที่รักษาได้สารพัดโรค เมื่อยาหม่องได้ถูกนำเข้าจากพม่า ต่อมาคนไทยจึงนิยมเรียกติดปากว่า ยาของหม่อง
- ต่อมา ก่อนปี พ.ศ. 2493 ไทเกอร์บาล์ม ก็ได้เข้ามาในประเทศไทย และมีชื่อจีนที่ชาวจีนเรียกว่า บ่วงกิมอิ๊ว (แปลเป็นไทยว่า น้ำมันแก้สารพัดโรค) โดยข้อมูลจาก โฮ้ว ป่า คอร์เปอเรชั่น ได้บันทึกว่า ในส่วนของกิจการได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1870 หรือ พ.ศ. 2414 ที่ประเทศพม่า และย้ายไปยังประเทศสิงคโปร์ในปี ค.ศ. 1908 หรือ พ.ศ. 2451 และต่อมาก็ได้เริ่มขยายมาขายที่ประเทศไทย
- แล้วก็ คุณลาวัณย์ โชตามระ ได้เล่าไว้ในหนังสือชื่อ “หมอ ๆ ยา ๆ ” โดยได้ระบุว่า “ต้นตำรับของยาหม่อง ก็คือ “น้ำมันหม่องตะหยก” มีลักษณะเป็นขี้ผึ้งอ่อน สีขาวขุ่น บรรจุในตลับสังกะสีมีฉลากปิด ตลับโตขนาดเท่าเหรียญบาทเก่า ราคาตลับละ ๑๐ สตางค์ เมื่อน้ำมันหม่องตะหยกขายดี ก็ได้มีการนำ น้ำมันหม่องตะกิด ออกมาขายแข่ง และต่อมาน้ำมันหม่อง 2 ชนิดนี้ ก็หายไปจากตลาด แต่ข้อมูลก็ยังไม่มีการระบุว่าน้ำมันหม่องถูกผลิต และขายในปี พ.ศ. อะไร แล้วก็ยังไม่มี อีกทั้งยังไม่ได้มีการเรียกว่ายาหม่อง เกิดขึ้น แต่เรียกว่า น้ำมันหม่อง
- ต่อมาใน ปี 2487 ร้านขายของชำ ลี้เปงเฮง ได้มีการผลิตยาขี้ผึ้งสีเหลืองอ่อน และตั้งชื่อว่า ยาหม่องตราถ้วยทอง และได้มีจุดมุ่งหมายว่าเป็นยาแก้สารพัดโรค และจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นเครื่องหมายถ้วยทองไว้
- จากนั้นในปี พ.ศ. 2493 นายโยธิน ลีลารัศมี ก็ได้ทำการจดทะเบียน บริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด กับกระทรวงพาณิชย์เพื่อทำการผลิตยา และขึ้นทะเบียนยากับสำนักคณะกรรมการอาหารและยา และต่อมาในปี พ.ศ. 2495 ก็ได้ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเพิ่มเติม เป็นรูปกล่องยาหม่องที่มีคำว่ายาหม่องตราถ้วยทอง เรียกได้ว่าเป็นหลักฐานครั้งแรก ในการใช้คำว่า “ยาหม่อง” ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ต่อมาด้วยการที่ทางบริษัทได้ทำการโปรโมตโฆษณาประชาสัมพันธ์ในการขายยาหม่อง จึงทำให้คำว่า ยาหม่อง เริ่มเป็นคำที่คนไทยพูดติดปากกันต่อมาเรื่อยจนถึง ณ ปัจจุบัน
ข้อมูลที่เกี่ยวกับยาหม่อง
กลุ่มยา : ยาระงับอาการปวด
สรรพคุณ : บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ หรือปวดบวมจากแมลงกัดต่อย และวิงเวียนศีรษะ
กลุ่มผู้ป่วย : เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา : ขี้ผึ้ง และชนิดน้ำ
- ยาหม่องสำหรับทา หากใครที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย สามารถนำยาหม่องไปทาและนวดตามบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อย หรือมีแมลงสัตว์กัดต่อย ก็จะช่วยให้อาการทุเลาลงได้ แต่จะทาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มาก หรือน้อยจนเกินไปนะคะ
- ยาหม่องสำหรับสูดดม จะเหมาะสำหรับใช้สูดดมเมื่อมีอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม เพราะยาหม่องสำหรับสูดดม จะให้กลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการ วิงเวียนศีรษะ และคัดจมูก เนื่องจากเป็นหวัดได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องดมยาดม อันตรายไหม พิมเสนกินได้ไหม
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับข้อมูลยาหม่องที่เรานำมาฝากกันวันนี้ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะได้ ทำความรู้จักยาหม่อง มากยิ่งขึ้นแล้ว ยาหม่องเรียกได้ว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีใช่ไหมคะ แถมปัจจุบันก็ได้มีการผลิตยาหม่องออกมาจำหน่ายกันหลากหลายยี่ห้อมาก ๆ แถมยังเป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสุด ๆ เลยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นยาที่ต้องซื้อไว้ติดบ้าน หรือติดกระเป๋า เพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีที่อาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ได้นะคะ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
15 รวมฮิต ยาดม ไอเทมคู่ใจคนสู้งาน หอมชื่นใจ คลายเครียด ใช้ยี่ห้อไหนดี ?
น้ำมันนวดอโรมา สำหรับคนท้อง ควรเลือกแบบไหน ต่างจากน้ำมันนวดปกติอย่างไร
นวดอโรม่า ต่างจากการนวดอื่น ๆ ยังไง แล้วมีประโยชน์อะไรบ้าง
ที่มา : wikipedia, tuemaster
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!