X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

สลดใจ เด็ก 9 ขวบ หนีออกจากบ้าน พร้อมแมวส้ม โชคดีกู้ภัยเจอเร่งส่งคืนยาย

20 Dec, 2022
สลดใจ เด็ก 9 ขวบ หนีออกจากบ้าน พร้อมแมวส้ม โชคดีกู้ภัยเจอเร่งส่งคืนยาย

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก แมวโรงพัก ได้โพสต์เรื่องราวของเด็ก 9 ขวบที่ หนีออกจากบ้าน  โดยระบุว่า โรงพักบางนาได้รับแจ้งเหตุจากกู้ภัยพบเด็กชาย หนีออกจากบ้าน พบกับเด็กชายพร้อมกับกระเป๋าพลาสติกใส ภายในบรรจุผ้าห่ม กระดาษทิชชู  ของเล่นรูบิก และแมวขาวส้ม 1 ตัว ลักษณะอวบอ้วน เนื่องจากทางบ้านมีปัญหานิดหน่อย หนุ่มน้อยจึงตัดสินใจจากบ้านมาพร้อมกับแมวเพื่อนรัก ความจริงแล้วมี 2 แมว แต่เพราะอ้วนเกินและน้ำหนักเยอะไปจึงแบกมาด้วยกันไม่ไหวพามาได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประสานงานพาน้องและแมว ส่งให้กับคุณยายกลับไปอยู่ที่บ้านแล้วเรียบร้อยแล้วค่ะ

 

หนีออกจากบ้าน

(คลิกดูโพสต์ต้นฉบับ)

 

วันที่ 19 ธ.ค. 65  นายชัยวัฒน์ อ่ำสกุล ประธาน อปพร.บางนา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไปช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้ย่านบางนาตราด ระหว่างกำลังจะเดินทางกลับ พบกับเด็กชายวัย 9 ขวบคนดังกล่าว นั่งอยู่หน้าปากซอยบางนาตราด 3 พร้อมกับถุงพลาสติกใส ด้านในมีแมวอยู่ 1 ตัว และในกระเป๋า ใส่น้ำดื่มมาด้วย จากการสังเกตเบื้องต้น เด็กชายมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และ รอยฟกช้ำ ไม่มั่นใจว่าเกิดการถูกทำร้ายในครอบครัวหรือไม่ แต่เด็ก เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน หน้าตาดี กลัวว่าเด็กจะได้รับอันตราย

 

หนีออกจากบ้าน

 

เมื่อสอบถามเด็ก เด็กบอกว่าตัวเองชื่อ พีช อายุ 9 ขวบ ถูกพ่อแม่ตีเพราะตัวเองดื้อเกินไป ได้เล่นกับพี่ชายอายุ 12 ปีแล้วทะเลาะกัน จึงหนีออกมาจากบ้านเพื่อจะไปหาตากับยาย ที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แต่ไม่ทราบจะไปอย่างไรเลยมานั่งตรงนี้ จึงพยายามสอบถาม ที่อยู่เพื่อที่จะไปส่ง แต่เด็กไม่ยอมให้ข้อมูลและยังบอกอีกว่า “ถ้าลุงเอาหนูไปส่งบ้าน พ่อแม่ก็ตีหนูอีก” ส่วนแมวขาวส้มที่นำมาด้วยเด็กบอกว่าเป็นของตนเองเลยจะพาไปด้วย ถุงใสที่ใส่เป็นถุงใส่แมวโดยเฉพาะ โดยแมวของน้องนิ่ง เชื่อง ไม่กัด

 

หนีออกจากบ้าน

 

จากนั้นจึงประสานตำรวจ สน.บางนา นำตัวเด็กไปส่งให้กับพนักงานสอบสวน ระหว่างทางเด็กได้ผล็อยหลับด้วยความอ่อนล้า หลังจากนั้น ทราบว่ายายของเด็กเข้ามารับกลับไปแล้ว โดยแจ้งว่าแค่พ่อแม่ทะเลาะกันเด็กตกใจเลยหนีออกจากบ้านมา โดยตำรวจ สน.บางนา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ พม.เข้าช่วยเหลือแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง : สุดสงสาร! เด็ก 7 ขวบวิ่งออกจากบ้านหนีแม่เลี้ยงใจอำมหิต!

 

ลูก หนีออกจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไร ?

สาเหตุที่ทำให้เด็ก หนีออกจากบ้าน ได้แก่

 

1. อยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข

การที่ทำให้เด็ก ๆ ไม่อยากอยู่บ้านหรือหนีออกจากบ้าน สาเหตุนี้อาจจะมาจากการที่ ลูกอยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสังเกตให้ดี ๆ ว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้ลูกรู้สึกแบบนี้ อาจเป็นเพราะกดดันลูกหรือบังคับเกินไปหรือไม่ ดังนั้นหากใครที่กำลังทำแบบนี้กับลูก ๆ เราก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสร้างบรรยากาศภายในบ้านของเราให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

2. ลูกติดเพื่อนมากเกินไป

อีกหนึ่งสาเหตุที่จะทำให้ลูกของเราหนีออกจากบ้าน นั่นคือการที่ลูกอาจจะติดเพื่อนมากจนเกินไป ยิ่งถ้าหากลูกเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เริ่มที่จะมีสังคมมากขึ้น และเริ่มที่จะติดเพื่อนมากขึ้น เพราะฉะนั้นหากลูกของเราไม่กลับบ้านและอยากที่จะไปนอนค้างบ้านเพื่อน เราอาจจะต้องคอยพูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล และไม่ดุด่าลูก สิ่งนี้ก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกหนีออกจากบ้าน คุณพ่อคุณแม่ควรรับมืออย่างไร? มาดูกัน

 

3. คุณพ่อหรือคุณแม่แต่งงานใหม่

สิ่งที่จะทำให้เด็ก ๆ อยากหนีออกจากบ้านอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือคุณพ่อหรือคุณแม่แต่งงานใหม่ เนื่องจากเขายังเด็กและไม่ได้สนิท สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็อาจทำให้เด็ก ๆ รู้สึกไม่สบายใจและไม่ค่อยอยากกลับมาที่บ้าน หากคุณพ่อหรือคุณแม่ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ อาจจะต้องอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นให้ลูกฟังด้วยเหตุผล พยายามทำให้ลูกรู้สึกสบายใจและ ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้กลับมาบ้าน

 

4. เลี้ยงลูกตามใจจนเกินไป

คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงจะคิดว่าการที่เราตามใจลูกมันเป็นสิ่งที่ดี แต่หารู้ไม่ว่าบางครั้งการที่ตามใจเด็ก ๆ จนเกินไปสิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลให้ลูกกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ และเมื่อไหร่ที่เราเกิดขัดใจขึ้นมา เขาก็อาจจะรู้สึกผิดหวังและโกรธเรา จนถึงขั้นมีพฤติกรรมที่อาจทำให้หนีออกจากบ้านได้ ดังนั้นหากเราอยากที่จะให้ลูก ๆ เติบโตมาเป็นเด็กดี เราจึงไม่ควรที่จะเลี้ยงลูกในแบบที่ตามใจเขาจนเกินไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีแก้ลูกเอาแต่ใจตัวเอง เลี้ยงลูกยังไงให้พอดีในยุคโซเชียล ก่อนจะสายเกินแก้

 

5. หลงเชื่อคนแปลกหน้า

สิ่งนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ๆ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกด้วย ว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกิดจากอะไร เพราะหากลูกของเราเป็นแบบนี้อาจเป็นไปได้ว่าเขาน่าจะกำลังหลงเชื่อคนแปลกหน้าอยู่ก็เป็นได้ หากใครที่ไม่อยากให้เด็ก ๆ พบเจอกับปัญหาเหล่านี้ เราอาจจะต้องสอนลูกด้วยว่าไม่ควรที่จะไว้ใจและหลงเชื่อคนที่ไม่รู้จัก

 

ทำอย่างไร? เมื่อลูกหนีออกจากบ้าน

1. พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล

เชื่อว่าการที่ลูกของเราหนีออกจากบ้าน เป็นสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคน รู้สึกไม่ดีและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่การที่เราจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก แน่นอนว่าเราจะต้องใช้เหตุผลในการพูดคุยกัน ไม่ควรที่จะคุยกับลูกด้วยความใจร้อน หรือพูดคุยกับเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี เพราะสิ่งนี้อาจจะทำให้เด็ก ๆ ต่อต้าน หรือบางครั้งก็อาจจะทำให้เขาไม่อยากกลับมาอยู่บ้านอีกเลยก็เป็นได้ ดังนั้นการคุยด้วยกับลูกด้วยเหตุผลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

 

หนีออกจากบ้าน

บทความจากพันธมิตร
เลือกเป้อุ้มเด็ก ยี่ห้อไหนดี ให้ปลอดภัยสะโพกเด็กไม่หลุด
เลือกเป้อุ้มเด็ก ยี่ห้อไหนดี ให้ปลอดภัยสะโพกเด็กไม่หลุด
วิธีเลือก ทิชชู่เปียกเด็ก ที่ปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่คันผิว
วิธีเลือก ทิชชู่เปียกเด็ก ที่ปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่คันผิว
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

 

2. คอยเอาใจใส่เด็ก ๆ อยู่เสมอ

การที่แก้ปัญหาไม่ให้ลูกหนีออกจากบ้านที่ได้ผลดีอีกหนึ่งอย่างเลยก็คือ พ่อแม่จะต้องเอาใจใส่เด็ก ๆ และไม่ควรที่จะละเลยให้เด็ก ๆ รู้สึกโดดเดี่ยว เพราะเมื่อไหร่ที่เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือใคร สิ่งนี้มันก็อาจจะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครคอยให้คำปรึกษา ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องมีเวลาให้เด็ก ๆ เพิ่มขึ้น ในช่วงวันหยุดอาจจะต้องคอยหากิจกรรมสนุก ๆ ทำกับลูก ๆ ที่บ้าน คอยอยู่เคียงข้างในวันที่ลูกรู้สึกไม่สบายใจ สิ่งนี้ก็จะทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นหัวใจและสบายใจที่คุณพ่อคุณแม่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้กับเขาได้

 

3. คอยสังเกตพฤติกรรมของเด็ก

อีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนควรต้องเอาใจใส่นั่นคือ เราจะต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูก ๆ อยู่เสมอว่า ที่เขาเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ดูเปลี่ยนไปหรือไม่ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกของเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เราก็อาจจะต้องคอยเข้าไปสอบถามหรือคอยเอาใส่ใจเขาเพิ่มมากขึ้น ไม่ควรที่จะละเลยสิ่งเหล่านี้ไป เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบอกลาปัญหาไม่ให้ลูกหนีออกจากบ้านได้แล้ว

 

4. คอยอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้ลูกฟังอยู่เสมอ

เราไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับครอบครัวบ้าง เราต้องคอยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวให้ลูกรู้และเข้าใจอยู่เสมอ สิ่งนี้จะช่วยทำให้เด็ก ๆ รับรู้และยอมรับถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ในทางกลับกัน หากเราไม่ยอมอธิบายอะไรให้ลูกฟังเลย ปล่อยให้เด็ก ๆ เข้าใจผิดไปเอง สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะทำให้ลูกของเรารู้สึกอึดอัดและต้องการที่จะหนีออกจากบ้านได้เลย การอธิบายจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่าง ที่พ่อแม่หลายคนไม่ควรมองข้าม

 

5. ไม่ทำตัวเหินห่างกับลูก

ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก หากใครที่ไม่อยากให้เด็ก ๆ หนีออกจากบ้าน ไม่ควรที่จะทำตัวเหินห่างออกจากลูก ๆ จนเกินไป เราอาจจะต้องคอยให้ความรักและความห่วงใยกับลูก ๆ การที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกันในครอบครัว ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน สิ่งนี้จะช่วยทำให้เด็ก ๆ รู้สึกมีความสุขและอยากที่จะอยู่บ้านมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญลูกก็จะรู้สึกว่าบ้านคือที่ปลอดภัยสำหรับเขานั่นเอง

 

6. เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก

ขาดไม่ได้เลยคือ พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ อย่างที่รู้กันดีว่า เมื่อไหร่ที่บรรยากาศภายในบ้านเต็มไปด้วยความสุข การอยู่บ้านของเด็ก ๆ ก็จะรู้สึกสบายใจและมีความสุขขึ้นตามไปด้วย แต่ในทางกลับกัน หากคุณพ่อคุณแม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยครั้ง ต่างฝ่ายต่างไม่มีเหตุผล สิ่งแวดล้อมเหล่านี้ก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าบ้านของตัวเองไม่น่าอยู่ จนอยากออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นได้เลย เพราะฉะนั้นสำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ไม่ต้องการมีปัญหาเหล่านี้ พ่อแม่ควรที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ นะคะ

 

การที่ลูก ๆ ไม่อยากอยู่บ้าน ปัจจัยทั้งหลายนั้นย่อมเกิดขึ้นจากภายในบ้านทั้งสิ้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบอย่างนี้แล้ว อย่าลืมนำวิธีการรับมือต่าง ๆ ที่นำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนไปปรับใช้ จะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่หมดกังวลกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่น้อยเลย เอาเป็นว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การที่เราใช้เหตุผล มีสติในการแก้ไขปัญหา และให้เวลากับลูก ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นมานั้นดีขึ้นมาอย่างแน่นอนค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ลูก 2 ขวบ หายออกจากบ้าน พ่อแม่หลั่งน้ำตา ปัจจุบันยังไร้วี่แวว!

เรื่องราวน่าสลด เด็กชายถูกแม่เลี้ยงไล่ออกจากบ้าน เร่ร่อนไม่มีที่ไปอยู่ข้างศาลเจ้า

วิธีระงับอารมณ์โกรธลูก อย่าให้อารมณ์ชั่ววูบทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว พ่อแม่ควรทำยังไง

ที่มา : 1, 2

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanjana Thammachai

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • สลดใจ เด็ก 9 ขวบ หนีออกจากบ้าน พร้อมแมวส้ม โชคดีกู้ภัยเจอเร่งส่งคืนยาย
แชร์ :
  • 10 เบสม่วง ยี่ห้อไหนดี ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ห่างไกลปัญหาหน้าหมองคล้ำ

    10 เบสม่วง ยี่ห้อไหนดี ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ห่างไกลปัญหาหน้าหมองคล้ำ

  • แนะนำ 9 หนังสือ วิทยาศาสตร์ ป.5 ให้การเรียนวิทย์เป็นเรื่องสนุกของเด็ก ๆ !

    แนะนำ 9 หนังสือ วิทยาศาสตร์ ป.5 ให้การเรียนวิทย์เป็นเรื่องสนุกของเด็ก ๆ !

  • 10 วิธีแก้ผมร่วง แบบง่าย ๆ ปลอดภัย ทำด้วยตัวเองได้ บอกลาปัญหาผมขาดร่วงง่าย

    10 วิธีแก้ผมร่วง แบบง่าย ๆ ปลอดภัย ทำด้วยตัวเองได้ บอกลาปัญหาผมขาดร่วงง่าย

  • 10 เบสม่วง ยี่ห้อไหนดี ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ห่างไกลปัญหาหน้าหมองคล้ำ

    10 เบสม่วง ยี่ห้อไหนดี ปรับผิวหน้าให้กระจ่างใส ห่างไกลปัญหาหน้าหมองคล้ำ

  • แนะนำ 9 หนังสือ วิทยาศาสตร์ ป.5 ให้การเรียนวิทย์เป็นเรื่องสนุกของเด็ก ๆ !

    แนะนำ 9 หนังสือ วิทยาศาสตร์ ป.5 ให้การเรียนวิทย์เป็นเรื่องสนุกของเด็ก ๆ !

  • 10 วิธีแก้ผมร่วง แบบง่าย ๆ ปลอดภัย ทำด้วยตัวเองได้ บอกลาปัญหาผมขาดร่วงง่าย

    10 วิธีแก้ผมร่วง แบบง่าย ๆ ปลอดภัย ทำด้วยตัวเองได้ บอกลาปัญหาผมขาดร่วงง่าย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ