อันตรายกับเด็กเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะอันตรายจากคนแปลกหน้า ที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบแก๊งลักเด็กก็เป็นได้ ซึ่งหากไม่สอนให้ลูกรู้จักป้องกันตัวแบบ 3 หนูน้อย 8 ขวบ นี้ อาจจะเจอเรื่องที่ไม่ดีขึ้นก็ได้ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ จังหวัด นครศรีธรรมราช โดย พ.ต.ท.ปัญญา ไอยราคม รักษาการ ผกก.สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจสายสืบ ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสและป้องกันเหตุ กรณีคนร้ายพยายามจะลักพาเด็กนักเรียน หลังจากเกิดเหตุคนร้าย 2 คน ใช้รถเก๋งสีดำลักษณะคล้ายรถยี่ห้อโตโยต้ายาริส ไม่ทราบป้ายทะเบียน เกิดเหตุเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 16.30 น. บริเวณโรงเรียนวัดธรรมเผด็จ หมู่ 7 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่ระบุว่า หลังจากรับแจ้งเหตุ ได้กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ และสกัดจับคนร้ายทราบว่าคนร้ายมี 2 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน ผู้ชายมีรูปร่างสันทัดตัดผมรองทรง ส่วนผู้หญิงมีลักษณะผมยาว ขับรถเก๋ง ดำลักษณะคล้ายรถยี่ห้อ toyota yaris ไม่ทราบป้ายทะเบียน ไม่ทราบทิศทางที่หลบหนี ได้เข้ามาในบริเวณโรงเรียนพยายามลักพาเด็กนักเรียน 3 คน
ด.ช.เอ ด.ญ.บี ด.ช.ซี อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ในขณะที่เด็กทั้ง 3 คน เล่นม้าหมุนอยู่บริเวณทางออกโรงเรียน โดยคนร้ายเข้ามาบอก ด.ช.เอ กับ ด.ช.ซี ว่า แม่ให้มารับเด็กทั้ง 3 คน กลับบ้าน แต่โชคดีที่เด็กทั้ง 3 คน มีความเฉลียวฉลาดไม่หลงเชื่อคนร้าย และสอบถามไปกลับว่าแม่ชื่ออะไรบ้าง คนร้ายบอกว่าชื่อน้ำ ด.ช.เอ จึงบอกว่าไม่ใช่แม่ตน คนร้ายจึงตรงเข้าไปกระชากตัว ด.ช.เอ ด.ช.เอ ต่อสู้ขัดขืน โดยการกัดไปที่แขนคนร้ายจนยอมปล่อยตัวและพากันวิ่งหนีออกมาได้ จากนั้นได้ช่วยกันตะโกนขอความช่วยเหลือ จนคนร้ายรีบขับรถหนีอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้ชุดสืบสวนได้ร่วมประชุมกับนายเจน แป้นแก้ว ผอ.รร.วัดธรรมเผด็จ นายสมพร บุญยิ่ง ปลัดงานป้องกัน อำเภอทุ่งสง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทาง มาตรการ และให้คำแนะนำ ในการป้องกันเหตุต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนภายในโรงเรียน และนอกเขตโรงเรียนรวมทั้งนักเรียนในโรงเรียนทุกแห่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการตรวจตราสอดส่องดูแลบริเวณหน้าโรงเรียนในช่วงเช้าและเย็น
สำหรับการสอบสวนสืบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า กลุ่มคนร้ายซึ่งเคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ใช้รถคนละคันกัน โดยใช้รถตู้ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮบ 6200 กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ซึ่งคนร้ายที่เป็นผู้ชายมีชื่อเป็นเจ้าของรถตู้ ที่ใช้ก่อเหตุ จากการตรวจสอบพบว่า มีภูมิลำเนาตามบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ทุกเส้นทาง เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกลื่นล้ม แล้วนิสัยเปลี่ยน พาไปหาหมอช็อก พบกะโหลกแตก!
เพื่อช่วยเหลือ 3 หนูน้อย 8 ขวบ หากเจอเบาะแสสามารถแจ้งได้ดังนี้
หากนักเรียน ผู้ปกครองหรือคณะครูพบเห็น หรือมีข้อมูลเบาะแสของคนร้ายขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์ 0-7549-5155, 191 หรือเพจเฟซบุ๊ก สภ.กะปาง ได้ตลอด 24 ชม.
วิธีป้องกันเด็กหาย
- หากลูกอยู่บ้าน : ควรสอนลูกอย่าเปิดประตูให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน หากลูกอยู่บ้านตามลำพัง อย่าบอกให้คนแปลกหน้ารู้ว่าอยู่บ้านคนเดียว รวมถึงอย่าปล่อยให้เด็กวิ่งเล่นหน้าบ้านตามลำพัง
- ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่ในรถตามลำพัง : แม้เพียงไม่กี่นาที เพราะคนร้ายอาจขโมยรถ และลักพาตัวเด็กไปได้
- ไม่ออกนอกโรงเรียน : หลังเวลาเลิกเรียน ย้ำกับลูกว่าให้รออยู่ในโรงเรียนเท่านั้น ไม่ออกมารอหน้าโรงเรียนลูกเด็ดขาด
- ไม่ปล่อยให้ลูกเข้าห้องน้ำสาธารณะตามลำพัง : อย่าชะล่าใจ คุณแม่ควรเข้าไปด้วย และดูแลอย่างใกล้ชิด
- เขียนเบอร์โทรใส่กระเป๋าลูก : หรือพิมพ์ชื่อเด็ก – ชื่อผู้ปกครอง และเบอร์โทรศัพท์ไว้ในเสื้อหรือในกระเป๋าของเด็ก หรือสอนลูกจำชื่อตัวเอง ทั้งชื่อจริงและนามสกุล รวมถึงชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของคุณพ่อคุณแม่
- แต่งตัวให้ลูกมีจุดสังเกตที่โดดเด่น : ใครเห็นก็จำได้ เช่น เสื้อผ้าสีสันสดใส สะพายกระเป๋า ใส่หมวก ผูกโบว์ ติดกิ๊บที่เห็นเด่นชัด เวลาออกตามหาจะได้อธิบายให้คนเห็นภาพได้ง่าย และถ่ายรูปลูกก่อนออกจากบ้าน เพื่อให้จดจำชุดเสื้อผ้า การแต่งตัวของลูกได้อย่างครบถ้วน และเพื่อสะดวกต่อการตามหา
- เมื่อไปตามสถานที่ต่าง ๆ ควรพาลูกไปรู้จักจุดประชาสัมพันธ์ : เพื่อกำหนดจุดนัดพบ หากพลัดหลง ฝึกลูกสังเกตการแต่งกายของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่นั้น ๆ ที่ลูกจะสามารถไปขอความช่วยเหลือได้
- ห้ามละสายตาจากลูกเด็ดขาด : ไม่ว่าจะเป็นตอนเลือกซื้อของ ชำระเงิน รับโทรศัพท์ หรือทักทายคนรู้จัก ไม่ควรให้เด็กเดินตามหลัง ควรจูงมือหรือให้ลูกเดินข้างหน้า เพื่อจะได้เห็นลูกตลอดเวลา
- ให้ลูกใส่นาฬิกาที่บอกพิกัดหรือตำแหน่ง : โดยนาฬิกาประเภทนี้จะมี GPS บอกตำแหน่งที่อยู่ของลูก แม่สามารถโทรเข้า และลูกสามารถโทรออกไปหาแม่ได้
- ใช้สายจูงกันลูกหาย หรือเป้จูงกันหลง : สำหรับเด็กวัยไม่เกิน 3 ขวบก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่ช่วยป้องกันลูกพลัดหลงได้ อาจจะมีคนมองเราแปลก ๆ ไปบ้างเพราะไม่คุ้นเคย แต่เพราะความปลอดภัยของลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง คุณแม่อย่าได้แคร์สายตาใคร
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็ก 1 ขวบ วิ่งร้องไห้ตามหาพ่อข้างถนน พลเมืองดีเตือน อาจไม่โชคดีทุกครั้ง!
วิธีสอนลูกรู้เท่าทัน คนแปลกหน้า
- สอนลูกให้ช่างสังเกต : จดจำรูปร่างหน้าตา ลักษณะทั่วไปของคนเช่น อ้วน ผอม สูง เตี้ย ผิวขาว ผิวดำ จมูกโด่ง แก่กว่าพ่อ เด็กกว่าแม่ เป็นต้น
- สอนลูกว่าในสังคมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี : ให้ลูกคอยระวัง อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ คนแปลกหน้าที่ควรระวัง คือ คนที่ไม่รู้จัก แต่ถ้าพ่อแม่คุยด้วย ลูกก็ควรทักทายตามปกติ
- ไม่ควรขู่ลูกให้กลัวคนแปลกหน้าทุกคน : เพราะจะส่งผลเสียต่อทักษะการเข้าสังคม
- สอนลูกไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า : เพราะคนร้ายส่วนใหญ่จะใช้วิธียื่นของให้เพื่อตีสนิทก่อน
- ฝึกให้ลูกกล้าร้องขอความช่วยเหลือ : เมื่อมีคนแปลกหน้ามาจับ หรือแตะต้องตัว ชักชวนไปไหน สอนให้ลูกตะโกนโวยวาย “ช่วยด้วยครับ/ ช่วยด้วยค่า” ให้ดังที่สุด
- ย้ำกับลูกว่า ถ้าใครชวนไปไหนต้องบอกพ่อกับแม่ก่อนทุกครั้ง : ที่สำคัญ ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังเด็ดขาด
- ซักซ้อมจำลองเหตุการณ์สมมุติ : ถ้ามีคนแปลกหน้าชวนหนูไปกินไอติม หนูจะทำอย่างไร ถ้ามีคนที่ไม่รู้จักชวนหนูไปเล่นที่บ้านหนูจะบอกใครก่อน ถ้ามีคนชวนหนูขึ้นรถจะทำอย่างไร โดยให้ลูกลองตอบเองก่อน แล้วแม่ค่อยแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกตัดสินใจได้ดีขึ้น เมื่อต้องเจอเหตุการณ์จริง
- ตั้งพาสเวิร์ดร่วมกับลูก : โดยตกลงกับลูกว่าไม่ให้บอกใครเด็ดขาด เนื่องจากคนร้ายมักอ้างว่า พ่อแม่ให้มารับ ดังนั้น หากมีใครอ้างว่าพ่อแม่ให้มารับ หรือชวนไปไหน ให้ถามหา พาสเวิร์ด ก่อน
เด็กหาย ลูกหายทำอย่างไร ?
กรณีที่เกิดเหตุการณ์เด็กหาย ไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมง คุณพ่อคุณแม่สามารถแจ้งความได้ทันที ติดต่อศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โทร. (02) 973-2236, (02) 973-2237, (02) 973-3533, (02) 973-3833 หรือ สายด่วน 080-775-2673
เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เด็กหาย เด็กถูกลักพาตัว หรืออาชญากรรมกับเด็กเกิดขึ้นอีก การที่ครอบครัวปลูกฝังการป้องกันตัวจากคนแปลกหน้า หรือสอนให้ลูกรู้จักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ก็จะเป็นตัวช่วยเหลือพ่อแม่ผู้ปกครองได้ และเป็นอีกหนึ่งผลประโยชน์เรื่องความปลอดภัยของเด็ก ที่ยังมีเวลาอีกมากมายได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ฉะนั้นอย่าให้ภัยใด ๆ เข้ามาเยือน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรงเรียนไม่ใช่เซฟโซน แม่ชาวจีนคุกเข่า ร้องขอความเป็นธรรม วอนเอาผิดเด็กรุมทรมานลูกสาว
ขำไม่ออก! หนุ่มตรวจครรภ์ ขึ้น 2 ขีด ปรึกษาชาวเน็ต เจอคำเตือนระวังมะเร็งอัณฑะ!
คลอดลูกสาว 4 คน สะใภ้จีนถึงกับน้ำตาตก เมื่อสามีขอหย่าตอนท้องคนที่ 5!
ที่มา : dailynews, passeducation
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!