X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ทารกในครรภ์คืออะไร ระยะของตัวอ่อนในครรภ์ มีพัฒนาการอย่างไร?

บทความ 8 นาที
ทารกในครรภ์คืออะไร ระยะของตัวอ่อนในครรภ์ มีพัฒนาการอย่างไร?

คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า ทารกในครรภ์นั้นมีพัฒนาการอย่างไร ว่ากันว่า พวกเขาเริ่มดิ้นกันตั้งแต่สองสัปดาห์แรกแล้วนะคะ เราไปดูพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกน้อยกันดีกว่าค่ะ

ทารกในครรภ์คืออะไร คุณแม่เคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไมผู้หญิงจึงมีชีวิตน้อยๆ เติบโตขึ้นในร่างกายของเราอย่างมหัศจรรย์ จริงๆ แล้วก่อนจะเป็นทารกนั้น มาจาก เอ็มบริโอ (Embryo) ค่อยๆ เป็นตัวอ่อนเจริญเติบโตจากการปฏิสนธิทั้งทางธรรมชาติหรือทางวิทยาศาสตร์แล้วฝังตัวอยู่ในมดลูกอยู่ 8 สัปดาห์ หรือ 2 เดือน ก่อนจะเรียกตัวอ่อนนี้ว่า “ทารก”

 

 

ทารกในครรภ์

Credit: www.vecteezy.com

 

ทารกในครรภ์คืออะไร หรือตัวอ่อนมีพัฒนาการอย่างไร?

การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์นั้น คือ ช่วงเวลาพัฒนาการของ “เอมบริโอ” จนเป็น “ทารก” ไม่ใช่แค่การเติบโตของทารกอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสมของมารดา ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพตัวเองและทารกในครรภ์มากกว่า 40 สัปดาห์ หรือกว่า10 เดือนกันเลยทีเดียว ซึ่งทางการแพทย์สามารถแบ่งการพัฒนาการของทารกในครรภ์ออกเป็น 3 ช่วงหรือ 3 ไตรมาส ตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือนครั้งล่าสุดแล้วนับตามอายุครรภ์ได้ดังนี้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง: ตั้งครรภ์ 1 สัปดาห์ อาการเป็นอย่างไร และจำเป็นจะต้องเตรียมตัวอย่างไร

 

พัฒนาการของเอมบริโอและทารกในไตรมาสแรก

ทารกในครรภ์คืออะไร ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเริ่มต้นตอนตั้งครรภ์ เราต้องนับสัปดาห์แรกซึ่งใน 1 เดือนมี 4 สัปดาห์ดังนั้น ไตรมาสแรกจึงนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1- 12 ซึ่งตัวอ่อนจะเริ่มมีพัฒนาการดังนี้

 

1. สัปดาห์ที่ 1 – 4 หรือเดือนแรก

สองสัปดาห์แรก คือ ช่วงระยะไข่ตก จึงเริ่มตั้งแต่วันแรกของประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย ช่วงนี้คุณแม่อาจจะสงสัยว่า ท้องหรือไม่ท้อง ทราบหรือไม่ว่าระยะนี้ รังไข่จะปล่อยไข่ที่สมบูรณ์ไปยังท่อนำไข่พบกับอสุจิ เพื่อปฏิสนธิ จนก้าวเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 หลังจากปฏิสนธิ แล้วจะเกิดเซลล์ที่เรียกว่า ไซโกต (Zygote) หรือโครโมโซม 46 แท่ง จากแม่ 23 แท่งและจากพ่อ 23 แท่ง ซึ่งเป็นการรวมเอาพันธุกรรมหรือยีนเด่นจากพ่อแม่

รวมไปถึงการกำหนดเพศของทารก จากนั้นจะเคลื่อนตัวจากท่อนำไข่ไปยังมดลูก โดยสัปดาห์ที่ 4 จะเป็นตัวอ่อนเอ็มบริโอ พัฒนาเนื้อเยื่อด้านนอกไปเป็นส่วนหนึ่งของรก ซึ่งรกมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนและอาหารจากมารดามาเลี้ยง รวมถึงกำจัดของเสีย

 

2. สัปดาห์ที่ 5-8 หรือขึ้นเดือนที่ 2

จากเอ็มบริโอ เจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนหรือ ทารก ประกอบไปด้วยเนื้อเยื่อชั้นนอกที่พัฒนาไปเป็นท่อประสาท เส้นผม ผิวหนัง และเล็บ ส่วนเนื้อเยื่อชั้นกลาง ถูกพัฒนาเป็นกระดูกและเนื้อเยื่อตามร่างกาย รวมถึงหัวใจและหลอดเลือด และเนื้อเยื่อชั้นใน จะเป็นปอด กระเพาะอาหาร และลำไส้

เมื่อถึงสัปดาห์ที่ 6 ท่อประสาทของตัวอ่อนที่เปิดอยู่จะปิดลง เพื่อพัฒนาไปเป็นสมองและไขสันหลัง รวมทั้งมีการพัฒนาไปเป็นหัวใจ ตา และหู ตอนนี้จะเห็นว่า ส่วนนูนๆ จะกลายเป็นแขน และค่อยๆ ปรากฏส่วนของใบหน้าของตัวอ่อน สุดท้ายจากเอมบริโอจะกลายเป็นทารกที่มีความยาวจากยอดศีรษะถึงสะโพกประมาณ 0.5 นิ้ว มีฝ่าเท้า นิ้วมือ ดวงตา ริมฝีปากบน เห็นจมูกชัดเจนและลำตัวของทารกจะเหยียดตรงอย่างเห็นได้ชัด

 

3. สัปดาห์ที่ 9-12 หรือขึ้นเดือนที่ 3

แม้จะเห็นศีรษะกับคางไม่ชัดเจนมากนัก แต่ส่วนข้อศอก นิ้วมือ นิ้วเท้า และเปลือกตาทารกจะเห็นชัดขึ้น ส่วนพังผืดตามนิ้วต่างๆ เริ่มหายไป กลายเป็นนิ้วเรียวและเห็นสายสะดือชัดเจนในสัปดาห์ที่ 10 ส่วนสัปดาห์ 11-12 ดวงตาทารกจะเคลื่อนออกจากกัน เปลือกตาจะค่อยๆ กลมกลืนกับดวงตา เริ่มมีหน่อหรือฐานของรากฟัน มีการสร้างเม็ดเลือดแดงในตับ ซึ่งช่วงนี้จะเห็นอวัยวะเพศที่บ่งบอกว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง และใบหน้าชัดเจนขึ้นมากในสัปดาห์ที่ 12 รวมถึงเล็บมือ ลำไส้มีการพัฒนาในช่องท้องของทารกแล้ว

 

บทความที่เกี่ยวข้อง: ตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ อาการคนท้อง และพัฒนาการของทารกในครรภ์

 

พัฒนาการของทารก ไตรมาสที่ 2

เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 คุณแม่สามารถเห็นเพศลูกได้อย่างชัดเจนโดยการอัลตราซาวนด์ ช่วงนี้จะมีความตื่นเต้นอย่างหนึ่งคือ ทารกเริ่มดิ้นมากขึ้น บ่อยขึ้น

 

1. สัปดาห์ที่ 13-16 หรือขึ้นเดือนที่ 4

ช่วงเดือนนี้ทารกจะมีพัฒนาการของกระดูกที่แข็งแรงขึ้น ทั้งกะโหลก แขน ขา และลำคอ มีการปัสสาวะใส่ถุงน้ำคร่ำแล้ว อีกทั้งมีการเกิดเซลล์เม็ดเลือดแดงภายในม้าม เริ่มเห็นเส้นผมบางๆ ในสัปดาห์ที่ 15 ถัดมาอีกสัปดาห์ ทารกจะกระพริบตาได้ช้าๆ ถ้าอัลตร้าซาวนด์จะเห็นว่าทารกจะค่อยๆ ขยับไปมาจนคุณแม่ท้องรู้สึกได้

 

2. สัปดาห์ที่ 17-20 หรือขึ้นเดือนที่ 5

ทารกสามารถพลิกตัวได้ มีเล็บมือเล็บเท้า หัวใจสูบฉีดเลือดได้วันละ 47 ลิตร ความยาววัดจากยอดศีรษะถึงปลายสะโพกได้ 5.5 นิ้ว เขาจะเริ่มได้ยินเสียงภายนอก ระบบย่อยอาหารมีการทำงาน และสังเกตได้ว่ามีไขมันสีขาวขุ่นปกคลุมผิวหนังที่เรียกว่า ไขทารก เพื่อปกป้องผิวจากรอยถลอก หากไปเสียดสีกับถุงน้ำคร่ำ จนปลายเดือนหรือสัปดาห์ 20 ทารกจะมีอาการหลับๆ ตื่นๆ แล้วค่ะ

 

3. สัปดาห์ที่ 20-24 หรือขึ้นเดือนที่ 6

จากเดือนที่แล้วทารกมีขน มีไขปกคลุมรอบตัว เดือนนี้เขาจะเริ่มอมนิ้วหัวแม่มือ นอกจากนี้ยังมีคิ้ว มีเส้นผมบางๆ ร่างกายเริ่มผลิตไขมันสีน้ำตาลเพื่อทำหน้าที่เผาผลาญพลังงาน เพื่อให้เกิดความอบอุ่นภายในน้ำคร่ำ ทารกบางคนเริ่มสะอึกจนคุณแม่ท้องรู้สึกได้ อีกทั้งลายมือลายเท้าเริ่มเห็นชัดเจนขึ้น ผิวหนังเหี่ยวย่น แต่สุกใสสีชมพูอมแดง แสดงว่า มีการสร้างเซลล์เม็ดเลือดอย่างจริงจัง ตรงนี้เองถ้าอัลต้าซาวนด์จะเริ่มเห็นเส้นเลือดของเขาแล้วค่ะ

 

4. สัปดาห์ที่ 25-27 หรือขึ้นเดือนที่ 7

ความตื่นเต้นของเดือนนี้จะอยู่ที่ทารกน้อยได้ยินเสียภายนอกแล้วค่ะ สามารถตอบสนองจากเสียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ปอดเริ่มผลิตสารลดแรงตึง เพื่อให้ถุงลมขยายตัวเพื่อหายใจสะดวกขึ้น ส่วนระบบประสาทพัฒนาได้ดีมากขึ้นตามลำดับ ผิวหนังเริ่มนุ่มนวลด้วยไขมันที่แทรกตามร่างกาย

 

ทารกในครรภ์

Credit: freepik.com

 

บทความที่เกี่ยวข้อง: ลูกน้อยในครรภ์มีพัฒนาการอย่างไรในไตรมาส 2-3

พัฒนาการทารกในครรภ์ไตรมาสที่ 3

ช่วงนี้จะคาบเกี่ยวมาถึงปลายเดือนที่ 7 ขึ้นสู่เดือนที่ 8 ร่ายกายของทารกมีการพัฒนาอย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมตัวออกมาดูโลกแล้วค่ะ

 

บทความจากพันธมิตร
วิธีเล่นกับลูกน้อย แรกเกิด – 1 ปี เสริมสร้างพัฒนาการแบบปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ
วิธีเล่นกับลูกน้อย แรกเกิด – 1 ปี เสริมสร้างพัฒนาการแบบปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ
ชวนคุณแม่ ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว เสริมพัฒนาการร่างกาย ในวัยขวบปีแรก
ชวนคุณแม่ ฝึกลูกน้อยเคลื่อนไหว เสริมพัฒนาการร่างกาย ในวัยขวบปีแรก
วิธีเลือก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ให้ปลอดภัย ลูกใส่สบาย ไม่งอแง คุณแม่เบาใจ
วิธีเลือก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ให้ปลอดภัย ลูกใส่สบาย ไม่งอแง คุณแม่เบาใจ
เคล็ดลับแม่ต้องรู้!! เลือก ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง อย่างไร ให้ดีต่อพัฒนาการของลูกรัก?  และควรให้ลูกน้อยเปลี่ยนมาใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกงตอนไหนดี?
เคล็ดลับแม่ต้องรู้!! เลือก ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกง อย่างไร ให้ดีต่อพัฒนาการของลูกรัก? และควรให้ลูกน้อยเปลี่ยนมาใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบกางเกงตอนไหนดี?

1. สัปดาห์ที่ 28-31 หรือเดือนที่ 7-8

ทารกบิดขี้เกียจได้แล้วค่ะ ช่วงต้นของไตรมาสนี้ เขาจะเริ่มเตะขา ยืดตัว ประสาทส่วนกลางมีการพัฒนาจึงทำให้ระบบควบคุมการหายใจทำงาน น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้น มีการสร้างเม็ดเลือดที่ไขกระดูก ลูกใครผมดกดำก็จะเห็นได้ชัดช่วงนี้เลย

 

2. สัปดาห์ที่ 32-35 หรือเดือนที่ 8-9

เส้นขนบางๆ ตามร่างกายทารกเริ่มหลุดร่วง มีการตอบสนองของรูม่านตารับแสง มวลกระดูกของเขาจะหนาแน่นขึ้น ทำให้กระดูดต่างๆ แข็งแรง แต่ศีรษะยังไม่แข็งแรงดีนัก ส่วนเล็บมือ เล็บเท้าจะเรียว มีลำแขน ท่อนขาอวบอ้วนขึ้น ลำตัวพองขึ้นเป็นสีชมพู ความยาวจากยอดศีรษะถึงปลายสะโพกจะอยู่ที่ 12 นิ้ว มีน้ำหนักมากกว่า 2,000 กรัมแล้วค่ะ

 

3. สัปดาห์ที่ 36-39 หรือเดือนที่ 9-10

เริ่มสัปดาห์ที่ 36 ทารกจะสมบูรณ์ ตัวใหญ่ ทำให้เขาอึดอัดกับมดลูกที่มีพื้นที่จำกัด ช่วงนี้อาจจะรู้สึกว่าเขาดิ้นน้อยลง คุณแม่ก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะ พอเข้าเดือนที่ 10 ทารกมักจะกลับหัวไปบริเวณอุ้งเชิงกราน พร้อมจะคลอดแล้ว อวัยวะทุกอย่างชัดเจน ทั้งหน้าอก เล็บมือ เล็บเท้า ถ้าเป็นทารกเพศชาย ลูกอัณฑะของเขาจะตกใส่ถุงอัณฑะแล้ว นอกจากนี้ยังมีการสะสมไขมันเอาไว้สร้างความอบอุ่นร่างกายหลังคลอด

 

4. สัปดาห์ที่ 40

คุณแม่หลายท่านอุ้มท้องมาถึงช่วงสุดท้ายสัปดาห์ที่ 40 (หรือมากกว่านั้น) แล้วค่ะ ความยาวของทารกจากยอดศีรษะถึงปลายสะโพกประมาณ 14 นิ้ว และมีน้ำหนักประมาณ 3,400 กรัม ทั้งนี้น้ำหนักของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป คุณแม่บางคนอาจจะคลอดลูกออกมาตั้งแต่เดือนที่ 9 ขึ้นอยู่กับร่างกายและภาวะเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ที่แทรกซ้อนเข้ามาระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งในแต่ละสัปดาห์ของการตั้งครรภ์นั้น อยากให้คุณแม่คอยสังเกตตัวเองและดูปฏิกิริยาของทารกในครรภ์ว่าเป็นไปอย่างไรหากมีผิดปกติจากนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

 

ทารกในครรภ์

Credit: freepik.com

 

คุณแม่สามารถรับรู้ว่าทารกในครรภ์มีการเคลื่อนไหวอย่างไร

เพียงเดือนกว่าๆ ลูกดิ้นแล้ว! คุณแม่ไม่ต้องแปลกใจค่ะ จริงๆ แล้วท้อง 7 สัปดาห์เอมบริโอเริ่มกลายเป็นทารก เขาจึงเริ่มเคลื่อนไหวน้อยๆ แต่คุณแม่ไม่รู้สึก กระทั่งคุณแม่ท้องจะสามารถรู้สึกและสังเกตทารกในครรภ์ได้ตอน 5 เดือนหรือ 18-20 สัปดาห์ ช่วงนี้เขาจะเริ่มเหยียดตัว มีการขยับเขยื้อน เป็นครั้งแรก แต่ขึ้นอยู่กับลูกของแต่ละคนด้วยค่ะ

เนื่องจากคุณแม่ท้องแต่ละท่านอาจมีความหนาของชั้นผิวหนังไม่เท่ากัน ปริมาณน้ำคร่ำก็แตกต่างกัน รวมถึงตำแหน่งรกอีกด้วย หากกังวลใจก็สามารถไปอัลตร้าซาวนด์กับคุณหมอได้ แต่หลังจากตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนหรือ 32 สัปดาห์ ลองสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของลูกได้ดังนี้

  • ลองคลำท้องทุกวัน หลังรับประทานอาหารหรือก่อนเข้านอน
  • คลำท้องตอนนอนตะแคงด้านซ้ายลงข้างล่าง ด้านขวาขึ้นบน
  • ลองจับเวลาและบันทึกว่าทารกเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนครบ 10 ครั้งต่อวันหรือไม่

 

 

สารอาหารสำคัญเพื่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

  • โปรตีน คุณแม่ควรเน้นโปรตีนเพื่อร่างกายและสมองของทารกในครรภ์ เช่น นม ถั่ว เนื้อสัตว์ ปลา
  • แคลเซียม แร่ธาตุสำคัญที่ต้องรับประทานตั้งแต่ไตรมาสแรก เพื่อเสริมสร้างกระดูกที่แข็งแรงทั้งทารกและตัวคุณแม่ท้องด้วย เต้าหู้ ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อย หรือวิตามินเสริมแคลเซียม
  • โฟลิค กรดสำคัญในการสร้างดีเอ็นเอ ถ้าขาดในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังปฏิสนธิ อาจส่งผลให้ลูกพิการได้ ซึ่งโฟลิคหรือโฟเลตพบมากใน ตับ ถั่วเหลือง ถั่วเขียว
  • ไอโอดีน แร่ธาตุที่ช่วยพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องกินอาหารที่มีไอโอดีนสม่ำเสมอ เช่น อาหารทะเล เกลือทะเล
  • เหล็ก ระหว่างตั้งครรภ์ร่างกายคุณแม่สร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น 25% เพื่อสร้างออกซิเจนไปเลี้ยงทารกในครรภ์ จึงห้ามขาดธาตุเหล็ก ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง เช่น ไข่แดง ตับสัตว์ เครื่องในสัตว์ (แต่ระวังไขมันด้วย)
  • ดีเอชเอ ช่วยพัฒนาสมองและสายตาของทารก ดังนั้น แม่ท้องจึงไม่ควรขาดอาหารที่มีดีเอชเอสูง พบมากใน ปลาทะเล ปลาน้ำจืด

 

ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรตระหนักไว้ว่า เมื่อทารกเริ่มเจริญเติบโตในท้องของเราแล้ว เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับการใช้ชีวิตและพฤติกรรมของตนเองเพื่อดูแลลูกน้อยในครรภ์ให้ดีและปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อาหารการกิน การออกกำลังกาย และความเครียดทางอารมณ์ ล้วนแล้วส่งผลต่อการพัฒนาการของทารกในครรภ์ทั้งสิ้นค่ะ

 

 

 

 

บทความที่น่าสนใจ

อยากรู้ไหม ทารกเพศหญิงกับเพศชาย ต่างกันอย่างไร

เริ่มแพ้ท้องตอนไหน จะรู้ได้เมื่อไร อาการแพ้ท้องเป็นอย่างไร?

แม่ท้อง อัลตร้าซาวน์ ไตรมาสแรก จะเห็นอะไรบ้าง แล้วกี่สัปดาห์ถึงจะเห็นตัวลูก

ความหมายอักษรย่ออัลตร้าซาวด์ ในแต่ละไตรมาส

 

ที่มา 1

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Chatchadaporn Chuichan

  • หน้าแรก
  • /
  • ทารก
  • /
  • ทารกในครรภ์คืออะไร ระยะของตัวอ่อนในครรภ์ มีพัฒนาการอย่างไร?
แชร์ :
  • อาการ กรดไหลย้อนในทารก อันตรายหรือไม่ ? มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง

    อาการ กรดไหลย้อนในทารก อันตรายหรือไม่ ? มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง

  • พัฒนาการทารก 4 สัปดาห์ ลูกต้องมีพัฒนาการอย่างไรบ้างนะ?

    พัฒนาการทารก 4 สัปดาห์ ลูกต้องมีพัฒนาการอย่างไรบ้างนะ?

  • ฝึกลูกหยิบอาหารกินเอง เริ่มฝึกลูกได้เมื่อไหร่และฝึกอย่างไร?

    ฝึกลูกหยิบอาหารกินเอง เริ่มฝึกลูกได้เมื่อไหร่และฝึกอย่างไร?

  • อาการ กรดไหลย้อนในทารก อันตรายหรือไม่ ? มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง

    อาการ กรดไหลย้อนในทารก อันตรายหรือไม่ ? มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง

  • พัฒนาการทารก 4 สัปดาห์ ลูกต้องมีพัฒนาการอย่างไรบ้างนะ?

    พัฒนาการทารก 4 สัปดาห์ ลูกต้องมีพัฒนาการอย่างไรบ้างนะ?

  • ฝึกลูกหยิบอาหารกินเอง เริ่มฝึกลูกได้เมื่อไหร่และฝึกอย่างไร?

    ฝึกลูกหยิบอาหารกินเอง เริ่มฝึกลูกได้เมื่อไหร่และฝึกอย่างไร?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ