X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

สังเกตอาการ เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome

บทความ 5 นาที
สังเกตอาการ เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome

ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูง ความคาดหวังของพ่อแม่จึงมากตามไปด้วย จนเกิดการเร่งรัดลูกให้ต้องเรียน ต้องเก่งและโดดเด่นทุกด้าน กลายเป็น The Hurried Child Syndrome ภาวะนี้คืออะไร มาไขคำตอบไปพร้อมกัน

ปัญหา “เด็กที่ถูกเร่งรัด” เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในสังคมปัจจุบัน เนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองมักต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จในทุกด้านตั้งแต่เด็ก ทำให้เด็กต้องเผชิญกับความกดดันและความคาดหวังที่สูงเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ บทความนี้จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาทบทวนตัวเอง พร้อมกับ สังเกตอาการ เด็กที่ถูกเร่งรัด ไปพร้อมกันค่ะว่า ลูกน้อยที่บ้านกำลังมีภาวะของ The Hurried Child Syndrome หรือไม่

The Hurried Child Syndrome

▲▼สารบัญ

  • ทำความเข้าใจเรื่อง เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome
  • The Hurried Child Syndrome เกิดได้ตั้งแต่วัยอนุบาล
  • สังเกตอาการ เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome
  • แก้ปัญหา เด็กที่ถูกเร่งรัด จากจุดเริ่มต้น

ทำความเข้าใจเรื่อง เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome

Advertisement

The Hurried Child Syndrome หรือ ภาวะเด็กถูกเร่งรัด หมายถึง ภาวะที่เด็กถูกผลักดันให้เติบโตเร็วเกินวัย รวมถึงการใช้ชีวิตที่รับผิดชอบสูง ถูกกำหนดให้ทำกิจกรรมต่างๆ มากมายเกินความสามารถของช่วงวัย ทั้งกิจกรรมทางวิชาการ กีฬา หรือศิลปะ โดยไม่ได้คำนึงถึงความพร้อมทางร่างกายและจิตใจของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนพิเศษเต็มเวลา รวมไปถึงความคาดหวังแบบเกินจริงว่าลูกต้องเขียนได้ บวกลบเลขได้ ต้องมีคำแนนที่ดีเสมอให้สมกับที่พ่อแม่คาดหวังไว้ ขาดโอกาสหัวเราะสนุกสนาน หรือทำตัวตามวัยกับเพื่อนที่อายุเท่ากัน ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจ

เด็กยุคนี้จึงไม่มีเวลาเล่น หมายถึงการเล่นจริงๆ นะคะ เล่นตามศักยภาพของช่วงวัย เล่นอย่างมีประโยชน์ต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ในระยะยาว เด็กหลายคนได้อ่านหนังสือที่ชอบน้อยลงเพราะเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเรียนพิเศษ เมื่อถูกเคี่ยวเข็ญให้ทำสิ่งต่างๆ มากเท่าไรในวัยที่เด็กยังไม่พร้อม ทัศนคติต่อการเรียนยิ่งแย่ลง หลายคนเติบโตในแบบที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีดีอะไร ชอบทำอะไร สิ่งที่รู้ชัดอย่างเดียวคือ พ่อแม่ต้องการอะไรจากตัวเอง

สาเหตุที่ทำให้เด็กถูกเร่งรัด

ความคาดหวังของพ่อแม่
  • พ่อแม่ต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต หรือต้องการให้ลูกเก่งกว่า ได้ดีกว่า ประสบความสำเร็จมากกว่าตัวเอง
  • ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี ไม่เพียงสมวัย แต่ต้องไปไวกว่าวัยของลูก
สภาพแวดล้อมที่แข่งขันสูง
  • สังคมปัจจุบันให้ความสำคัญกับความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
  • พ่อแม่หลายบ้านมักใช้ข้ออ้างว่า “อย่างไรก็ต้องแข่งขัน ก็ทำตั้งแต่ตอนนี้เลย ลูกจะได้ชิน”
การเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น
  • พ่อแม่มักเปรียบเทียบความสามารถของลูกกับเด็กคนอื่น
  • เมื่อลูกมีความสามารถจะเป็นความภาคภูมิใจที่ได้คุยกับคนอื่นอย่างผ่าเผยว่าลูกของฉันทำได้
ขาดความเข้าใจในพัฒนาการของเด็ก พ่อแม่อาจไม่ทราบ หรือขาดความเข้าใจ รวมถึงไม่พยายามทำความเข้าใจว่าเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน

The Hurried Child Syndrome

The Hurried Child Syndrome เกิดได้ตั้งแต่วัยอนุบาล

ส่วนใหญ่แล้ว เด็กที่ถูกเร่งรัด จะเกิดขึ้นกับเด็กอนุบาลแล้วส่งผลไปถึงช่วงประถมปลาย จนถึงเข้าสู่วัยรุ่น โดยเด็กที่เข้าเรียนเร็วกว่าปกติ หรือต้องรับผิดชอบมากๆ ต้องอ่านหนังสือ ติวหนังสือตั้งแต่ชั้นอนุบาล หรือเด็กที่จะต้องเล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ทุกวันโดยไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งมีข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมีเด็กอายุน้อยลงที่ต้องพบจิตแพทย์เด็ก คือประมาณ 2-3 ขวบ และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

เด็กที่ถูกเร่งรัดในด้านการเรียน มักจะเข้าเรียนเร็ว หรือครูให้ข้ามชั้นเพราะมีความรู้มาก เพราะพ่อแม่สอนเนื้อหาที่เกินกว่าอายุ แม้ในระยะแรกลูกมักมีผลการเรียนดี รู้สึกดีที่ได้ทำให้พ่อแม่พอใจในผลการเรียน แต่เมื่อสิ่งที่ต้องเรียนนั้นยากขึ้น ทั้งต้องเรียนต่อเนื่องยาวนานแบบไม่รู้จุดสิ้นสุด คุณพ่อคุณแม่อาจจะเริ่มสังเกตเห็นความเฉื่อยชา และเบื่อหน่าย

จนในที่สุดลูกจะละทิ้งสิ่งที่เคยพยายามเรียนให้ได้ตามที่พ่อแม่ต้องการ แต่ยังกังวลว่าพ่อแม่จะไม่ยอมรับ กระทั่งเรียนตามไม่ทัน จะเริ่มเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิ ขาดความสนใจ ไม่จดจำ

บุคลิกภาพ เด็กที่ถูกเร่งรัด

สังเกตอาการ เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome

คุณพ่อคุณแม่สามารถ สังเกตอาการเด็กที่ถูกเร่งรัด ได้ดังนี้

  • มีบุคลิกภาพชอบแข่งขัน

เนื่องจากเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ แบกความคาดหวังของพ่อแม่ไว้ จึงมีบุคลิกที่ชอบไขว่คว้าหาความสำเร็จที่มากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็มีความกระวนกระวาย มีความอดทนต่ำ และหงุดหงิดง่ายตามไปด้วย

  • พฤติกรรมเจ้าระเบียบ

เนื่องจากตนเองถูกบีบคั้นในการต้องทำสิ่งนั้น สิ่งนี้ เวลานั้น เวลานี้ จึงมักเน้นความถูกต้อง และยึดกับกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้คลาดเคลื่อนไปจากสิ่งที่ถูกคาดหวัง จนอาจมีปัญหาในการปรับตัวกับเพื่อน

  • เครียดและวิตกกังวล

ลูกอาจรู้สึกกังวลกับการทำกิจกรรมต่างๆ แบบที่ไม่สามารถผ่อนคลายได้ มีความเอาจริงเอาจัง แต่ไม่ร่าเริงแจ่มใส และรู้สึกอึดอัดเมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผน จนเกิดความเครียด กังวล และไม่มีสมาธิ

  • อารมณ์แปรปรวน

เด็กที่ถูกเร่งรัดอาจจะมีปัญหาด้านอารมณ์ โดยจะหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ร้องไห้ง่าย ไม่แจ่มใส แยกตัว วิตกกังวลสูง มักขาดความมั่นใจในตัวเอง อาจมีภาวะซึมเศร้า และรู้สึกว่าตัวเอง “ไม่ดีพอ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่สามารถทำตามความคาดหวังของพ่อแม่ได้

  • ปัญหาสุขภาพ

ลูกจะตัวเล็ก ไม่สูง ไม่กินอาหาร เนื่องจากขาดการออกกำลังกาย มีอาการปวดหัว ปวดท้อง หรือมีปัญหาในการนอนหลับ อันเกิดจากความเครียดที่มากเกินกว่าจะควบคุมได้ บางครั้งอาจเป็นลม หมดแรง เหนื่อยล้า

  • เฉยชาต่อการเรียนรู้

มีปัญหาในการจดจ่อกับการเรียนรู้ ไม่สนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่สนใจทำกิจกรรมที่เคยสนใจ ไม่สนุกหรือเบื่อการเรียน จนบางครั้งอาจถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้นได้ โดยเด็กที่มีภาวะถูกเร่งรัดมักชอบอยู่บ้านเฉยๆ มากกว่าออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ผลการเรียนตกลง ไม่สนใจต่อการเข้าเรียนและทำการบ้าน พึ่งพาพ่อแม่มากกว่าเดิม จนขาดทักษะในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

  • แสดงพฤติกรรมต่อต้านสังคม

พูดปด ขโมย ลืมหรือปฏิเสธไม่ทำงานบ้าน เฉื่อยชา ไม่รับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ แยกตัว ไม่ร่วมกิจกรรม ต่อต้านสังคม ไม่ยอมเรียน หรือก้าวร้าว ขาดความรับผิดชอบ และจริยธรรมต่ำ ไปจนถึงเคร่งครัดกับตัวเองและคนอื่นมากเกินไป หรือแสดงพฤติกรรมเกินวัยทั้งคำพูดและท่าที

  • ปัญหาพฤติกรรมที่มีความเสี่ยง

อาจมีการแสดงพฤติกรรมทางเพศเกินพอดี ทั้งด้านการพูด การแสดงออก หรือแต่งตัวเกินวัย มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร ตั้งครรภ์ ทำแท้ง หรือเปลี่ยนคู่บ่อย หรือมีปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงต่อยาเสพติด และเสี่ยงอันตรายอื่นๆ ซึ่งมักจะพบบ่อยในช่วงที่เด็กเติบโตก้าวเข้าสู่วัยรุ่น

เสี่ยงต่อ ภาวะซึมเศร้า

แก้ปัญหา เด็กที่ถูกเร่งรัด จากจุดเริ่มต้น

เด็กทุกคนล้วนต้องการเวลาในการเติบโตและพัฒนาอย่างเหมาะสม สมดุล และพอดี ทั้งด้านร่างกายและจิตใจค่ะ ในเริ่มแรกลองถามตัวเองก่อนนะคะว่า หากมีลูกวัยอนุบาลที่บางครั้งยังแต่งตัวเองทั้งหมดไม่ได้ กินข้าวเองยังเลอะเทะ อาบน้ำต้องมีคุณแม่ช่วย แล้วคุณพ่อคุณแม่จะคาดหวังให้ลูกที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้แบบ 100% นี้ มีความเก่งกาจเหนือธรรมชาติตามวัยของเขาได้อย่างไร ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กถูกเร่งรัด คือ

  • เข้าใจพัฒนาการและให้โอกาสลูก

คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของเด็ก และให้เวลาลูกได้เป็นเด็ก อนุญาตให้ลูกได้เล่นและทำกิจกรรมที่สนใจ ได้แสดงความคิดเห็น และลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ ใช้จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ไปกับการเล่น หรือกิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัย โดยคุณพ่อคุณแม่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของสภาพแวดล้อม และส่งเสริมกระตุ้นให้ลูกได้ฝึกทักษะร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม อย่างสนุกสนาน ต่อยอดจนเกิดทักษะใหม่ๆ ตามมา

  • สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น

สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูก สนับสนุนและให้กำลังใจลูกเสมอ เพียงให้ลูกได้เล่นอย่างเต็มที่ในวัยเด็กเล็ก เพื่อสร้างทักษะความพร้อมตามวัยผ่านการเล่นและการเลี้ยงดูที่ดีของพ่อแม่ ลูกจะมีความมั่นใจ รู้ความต้องการของตัวเอง เห็นตัวตนตัวเองอย่างชัดเจน ลูกก็จะมีความพร้อม เมื่อถึงจุดที่ถูกเร่งด้วยระบบใดๆ ก็ตามในสังคม ลูกจะแข็งแกร่งพอที่จะก้าวต่อไปได้

  • มีพื้นที่แห่งความผ่อนคลาย

เด็กทุกคนต้องการเวลาสำหรับการพักผ่อนและเป็นอิสระจากคำสั่งค่ะ เพื่อให้สมองได้พัก ดังนั้น เราควรคงสภาพให้ลูกได้แสดงความเป็นเด็ก มีความสนุกสนาน มีความสุขในการใช้ชีวิต และมีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก ถึงแม้ว่าลูกยังไม่สามารถทำไปถึงระดับที่พ่อแม่ต้องการได้ก็ตาม

  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

หากพบว่าปัญหาการถูกเร่งรัดของลูกรุนแรงขึ้น แม้จะปรับวิธีการเลี้ยงดูต่างๆ ไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาลูกไปปรึกษาแพทย์ หรือจิตแพทย์เด็กนะคะ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม เพราะการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กถูกเร่งรัดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากจะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และมีความมั่นใจในตัวเองได้

เด็กควรได้เล่นและเรียนรู้ตามวัย

การเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่คือสิ่งที่จะส่งผลต่อพัฒนาการและบุคลิกภาพของลูกน้อยไปตลอดชีวิตของเขานะคะ และผลจากการเร่งรัดมักทำให้ลูกกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีบุคลิกภาพแบบแข่งขันสูง ชอบเปรียบเทียบ และไขว่คว้าหาความสำเร็จที่มากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็จะสะสมความเครียดและความวิตกกังวลไปตลอดชีวิตด้วยเช่นกัน ดังนั้น ถึงเวลาแล้วค่ะที่เราจะกลับมาทบทวนว่าได้มอบช่วงเวลาวัยเด็กอันมีค่าเหมาะสมกับพัฒนาการตามช่วงวัยให้กับลูกหรือเปล่า

 

 

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

ที่มา : เลี้ยงลูกตามใจหมอ , ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย , www.bangkokbiznews.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 วิธี สอนลูกให้มี Logical Thinking รู้ถูกผิด รู้หน้าที่ อยู่เป็น คิดได้

ทำไมเด็กไทยพบจิตแพทย์เพิ่มขึ้น หรือ “พ่อแม่ Toxic” มีส่วนทำลูกจิตป่วย?

อย่าเพิ่งตื่นตูม! ลูกพูดคำหยาบ กำราบอย่างนุ่มนวลได้ด้วย 7 เทคนิคง่ายๆ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

จันทนา ชัยมี

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • สังเกตอาการ เด็กที่ถูกเร่งรัด The Hurried Child Syndrome
แชร์ :
  • เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

    เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

  • 7 กิจกรรม กระตุ้นสมองซีกขวา ให้ลูกคิดนอกกรอบ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์

    7 กิจกรรม กระตุ้นสมองซีกขวา ให้ลูกคิดนอกกรอบ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์

  • เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

    เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

  • 7 กิจกรรม กระตุ้นสมองซีกขวา ให้ลูกคิดนอกกรอบ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์

    7 กิจกรรม กระตุ้นสมองซีกขวา ให้ลูกคิดนอกกรอบ ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว