คุณแม่ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ได้ตัดสินใจเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เลี้ยงลูกคนเดียว เมื่อตอนลูกน้อยอายุได้เกือบ 3 ขวบ อันเนื่องมาจากปัญหาชีวิตคู่ ที่พอหลังจากแต่งงานกันแล้วอยู่บ้านเดียวกันก็ไม่เหมือนได้อยู่ด้วยกัน เนื่องจากสามีเป็นคนสังคมจึงทำให้ไม่มีเวลากับลูก และ ครอบครัวจึงทำให้ชีวิตของครอบครัวอยู่กันแบบไม่มีความสุขหรือขาดความอบอุ่นของผู้เป็นพ่อนั้นเองค่ะ
“ตอนที่ตัดสินใจขอแยกทางแรก ๆ ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะลูกยังเล็ก และ รู้สึกสงสารลูกมากที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย และถ้าหากเขารู้เรื่องมากกว่านี้หรือ โตขึ้นกว่านี้เราจะตอบคำถามเขาอยางไร และจะเล่าโดยวิธีไหนที่ทำให้รู้สึกน้อยลงที่สุด ที่ทำไมลูกถึงไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ”
การเลือกเป็น “ แม่เลี้ยงเดี่ยว ” ของคนเป็นแม่ จึงไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจได้ง่ายๆ เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาหลายด้าน ทั้งปัญหา และ ความกังวลกับการที่ต้องใช้ชีวิตสองคนแม่ลูก และ ต้อง แม่เลี้ยงลูกคนเดียว กลายมาเป็นผู้นำครอบครัวเพียงลำพังและต้องเป็นทั่งพ่อและแม่ให้ลูกในเวลาเดียวกัน การที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันก็ไม่ได้ง่ายถึงขนานนั้นค่ะ เพราะต้องดูแลหลายอย่างและต้องทำหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง
“แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นความโชคดีของเราหลายๆ อย่างคือ เราอาศัยรายได้จากค่าเช่าที่ดินที่มีอยู่ เลี้ยงลูกอย่างเดียว และ เลี้ยงลูกคนเดียวได้มาจนถึง 6 ปีแล้ว ตอนนี้น้องโตขึ้นมาก ทำให้เราแม่ลูกคุยกันรู้เรื่อง และ ลูกเข้าใจมากกว่าที่เราคิดเสียอีก ความจริงแล้วการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่มีอะไรน่ากลัวหรือต้องกังวลเลย เพียงแต่เราสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจ พ่อของลูกก็มีมาหาบ้างตามโอกาส เพราะเราไม่ได้ปิดกั้นอะไร ตอนนี้ลูกก็โตพอที่จะรับรู้ว่า พ่อแม่เลิกกัน ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้ว เคยถามลูกว่า อยากให้พ่อกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมไหม เค้าตอบว่า ไม่ เราอยู่กันแค่ 2 คนดีพอแล้ว”
วิธีทำความเข้าใจกับลูกเมื่อต้องเลี้ยงลูกคนเดียวสำหรับเรา คือ
- คอยให้เวลากับลูก แม่ลูกติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
- พยายามสอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเองและทำอะไรได้ด้วยตัวเองให้มากที่สุดหรือแม้แต่สอนลูกให้ทำกับข้าวเองด้วยก็เช่นเดียวกัน
- การมีบทบาทเป็นทั้งพ่อ และ แม่ ที่เราต้องปรับตัวและคิดให้รอบด้านขึ้น จนสามารถทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ปัจจุบันสถานการณ์ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ไม่ใช่มีแต่ซิงเกิ้ลมัมอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีซิงเกิ้ลแด๊ดเกิดขึ้นไม่น้อย ซึ่งสาเหตุอันดับหนึ่งเกิดจากปัญหาการหย่าร้าง รองลงมาคือการถึงแก่กรรมของคู่สมรส
แน่นอนว่าชีวิตของแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกหลายคนอาจจะเผชิญภาวะที่ยากลำบากมากกว่านี้ ทั้งท้อแท้หมดหวัง ทั้งอับอาย และ กังวลถึงอนาคตของลูก ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตไปหมด แต่ปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หากคุณแม่มีความเข้มแข็งพอที่จะแยกออกจากครอบครัวและมาใช้ชีวิตอยู่กับลูก และใช้สัญชาตญาณของความแม่ที่ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อลูก ข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ อย่างที่คุณแม่ก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
เป็นคุณ แม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่ใช่เรื่องง่าย
การเป็น แม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องกลายมาเป็นโสดอีกครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ คุณอาจจะจมอยู่กับความรู้สึกผิดกับการเลี้ยงดูลูกโดยขาดพ่อหรือขาดผู้ช่วยเลี้ยงลูกไปอีกหนึ่งคน ความเหนื่อยล้าที่ต้องทำทุกอย่างคนเดียวเพื่อลูก ประสบการณ์คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป แต่อย่างหนึ่งที่เหมือน ๆ กันคือ แม่เลี้ยงเดี่ยวต้องทำหน้าที่ หาเงิน มาดูแลครอบครัวอย่างแข็งขัน และต้องเลี้ยงลูกตามลำพังอย่างเข้มแข็งด้วยเช่นกัน ต้องสร้างกำลังใจตัวเองให้ดี เพื่อเป็นทั้งพ่อและแม่ของลูก แต่ก่อนจะไปสู่สิ่งนั้น สิ่งที่ยากที่สุดคือ การตัดสินใจเลิกกับสามี…เพราะเป็นอีกหนึ่งอยางที่ผู้หญิงอยากเรานั้นตัดสินใจอยากมากเช่นกัน เพราะรักไปแล้วหมดใจการถอดใจก็อยากยิ่งกว่า..
หมอโอ๋ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน ได้โพสต์ให้กำลังใจคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ว่า
“คุณหมอคะ คุณแม่ทุกข์ใจกับชีวิตคู่มากๆ จนทะเลาะกันทุกวันให้ลูกเห็น และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ดีขึ้น ตอนนี้ลูกเริ่มมีปัญหาอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว อยากเลิกกับสามีมาก แต่ก็ไม่อยากให้ลูกรู้สึกขาดพ่อ แม่ควรทำยังไงดีคะ”
หมอตอบสั้นๆ แบบนี้นะคะ เด็กเติบโตขึ้นไปดีได้ กับคนเลี้ยงที่มีความสุข “แม้เพียงคนเดียว” เด็กถูกตัดตอนได้เช่นกัน กับคนเลี้ยงจำนวนครบครัน… แต่บ้านไม่เคยมีความสุขไม่มีใครในโลกไม่ขาดอะไร เด็กหลายคนขาดพ่อ เด็กบางคนขาดแม่ บางคนขาดพี่ ขาดน้อง ขาดเงิน ขาดแขน ขาดขา ขาดอนาคต ฯลฯ …
เด็กที่ไปต่อได้ ไม่ใช่เด็กที่มีครบ แต่เป็นเด็กที่ “ยอมรับสิ่งที่ขาดหาย และรู้สึกดีในสิ่งที่มีอยู่”แม่ที่มีความสุข และการเลี้ยงดูที่ดี จะช่วยลูกให้ยอมรับกับสิ่งที่ไม่ครบ และมองเห็นสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในชีวิตได้ แต่แม่ที่ไม่มีความสุข หลายครั้งจะช่วยลูกให้มองเห็นความสุขในชีวิตได้ยาก เป็นกำลังใจ ให้กับทุกการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตนะคะ มันเป็นธรรมดาที่เวลาจะเปลี่ยนแปลงบางอย่าง และเราก็ควบคุมอะไรไม่ได แค่อย่ากลัวลูกจะไม่ครบ ในขณะที่ทุกวันนี้ สิ่งที่ลูกไม่เคยมีคือ “ความสุข”
“ความสุข”… ที่เป็นสิ่งที่เราและลูกต่าง “เลือกได้”ส่วนการตัดสินใจ ก็เป็นอะไรที่เราแต่ละคนควรตัดสินใจผ่านการใคร่ครวญด้วยตัวเองผู้เชื่อว่าหลายครั้งความทุกข์ในชีวิตมักตามมาด้วยความสุขที่ยิ่งใหญ่ เป็นกำลังใจให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่จะมีความสุขทุกคนนะคะ
ประสบการณ์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
1. ซิงเกิ้ลมัมที่ต้องทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวเป็น 2 เท่า
การเป็นแม่เลี้ยงเดียวที่ต้องง่วนดูแลลูกตั้งแต่เช้าหาข้าวให้ลูกกิน ส่งลูกน้อยไปโรงเรียน จนบางวันต้องเข้างานสาย แต่ก็ต้องกระโดดออกจากที่ทํางานตรงเวลา เพื่อกลับไปรับลูกและดูแลเขาในช่วงเย็น มันไม่มีทางเลือกอื่นเลยสำหรับการที่ไม่มีพ่อของลูกมาช่วยอีกแรง คุณแม่อาจจะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานไปพร้อมกับกินข้าวกลางวันไปด้วย หรือต้องทำงานในช่วงกลางคืนหลังจากที่ส่งลูกเข้านอนไปแล้ว หรือจะเปรียบเสมือนว่าเวลาของแม่ลูกมักมาก่อนอยู่เสมอ
2. การต้องตอบคำถามว่าทำไมลูกไม่มีพ่อมันเจ็บปวดทุกครั้ง
การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสำหรับลูกวัยทารก และ วัยเตาะแตะจะแตกต่างจากการมาเป็นซิงเกิ้ลมัมตอนลูกเป็นเด็กเล็กที่เริ่มรู้เรื่องขึ้น คุณแม่อาจจะต้องคอยตอบคำถามเจ้าตัวเล็กเมื่อเขาถามถึงพ่อยกตัวอยางที่จะถามคือ คุณพ่อไปไหน พ่อเป็นใคร แล้วจะกลับมาไหม นักจิตวิทยาเด็กได้แนะนำว่าขอให้ตอบลูกไปตามความจริง และ พยายามเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่องอื่นแทนให้เร็วที่สุด และ ไม่ควรที่จะพูดอะไรในเชิงลบ เพราะ บทสนทนาถึงพ่อนี้จะยังคงเกิดขึ้นได้อีกเมื่อลูกโตขึ้นและ อยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ดังนั้นคุณแม่ควรวางแผนล่วงหน้าว่าจะตอบคำถามลูกอย่างไรเมื่อถามเกี่ยวกับพ่อของเขา ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้คุณแม่จะรู้สึกเศร้า วิตกกังวล รู้สึกผิด หรือแม้กระทั่งมีอารมณ์โกรธหลังจบการสนทนานี้ ที่คุณแม่ต้องพยายามใจเย็น ๆ ระงับอารมณ์เมื่ออยู่ใกล้ลูก และไปปล่อยอารมณ์ในห้องส่วนตัวเพื่อไม่ให้ลูกเห็นจะดีที่สุด
3. การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นไม่ใช่เรื่องผิด
แน่นอนว่าสัญชาตญาณของแม่เลี้ยงเดี่ยวจำเป็นต้องทำคนเดียวแทบทุกอย่างได้หมด แต่ความจริงคือไม่มีใครเป็นซูเปอร์มัม วันเดอร์มัมได้ เลี้ยงลูกคนเดียว ดังนั้นการขอความช่วยเหลือหรือการยอมรับความช่วยเหลือจากคนในครอบครัว หรือเพื่อนที่พร้อมจะช่วยดูแลลูกของคุณในบางวันที่คุณมีภาระมากมายที่ต้องทำ แม้จะทำให้คุณแม่รู้สึกเกรงใจ แต่เชื่อเถอะว่าคนรอบข้างใกล้ตัวพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคุณแม่เสมอ
4. แม่เลี้ยงเดียวต้องกลายเป็นคนขี้เหนียว
ทุกบาททุกสตางค์คุณเป็นคนเดียวที่ต้องหาเพื่อมาเลี้ยงดูลูก จนทำให้คุณรู้สึกว่ากลายเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวขึ้นทุกที เพราะต้องคิดก่อนที่จะใช้เงินจับจ่ายซื้อของทุกครั้ง นอกเหนือไปจากค่าใช้จ่ายจากการซื้อของกินของใช้ให้เจ้าตัวเล็ก ค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และเงินออมสำหรับลูกในอนาคต รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษจะต้องมีเพิ่มเข้ามาบ้าง เช่น ค่าเข้าสวนสนุก การจัดครบรอบวันเกิดให้ลูก ฯลฯ แม้ว่าพวกคุณจะมีกันเพียงลำพังแต่สองคน แต่ก็ต้องเก็บเงินสำหรับในอนาคตที่ไม่แน่นอนด้วย
5. แม่เลี้ยงเดี่ยวใช่ว่าจะอยู่คนเดียว
ในฐานะที่คุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่แม้ว่าจะมีห่วงรออยู่ที่บ้าน แต่ก็ใช่ว่าคุณแม่จะหาความสุขให้กับตัวเองไม่ได้ ด้วยการวางแผนล่วงหน้า บอกกับลูกของคุณก่อนออกจากบ้าน เพื่อไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง หรือให้เพื่อน ๆ ของคุณหาคู่เดทให้ คุณแม่จะได้มีกิจกรรมอะไรน่าตื่นเต้น และทำให้คิดบวกสดใสมากขึ้น
ที่มาจาก :facebook
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ซิงเกิ้ลมัม – ซิงเกิ้ลแด๊ด เลี้ยงลูกไม่ให้รู้สึก “ขาด”
ทำไมการเป็นซิงเกิ้ลมัมถึงสนุก
การดิ้นรนที่แท้จริงของซิงเกิ้ลมัม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!