X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • พัฒนาการลูก
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • การศึกษา
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

โรงเรียนสอนร้องเพลง สอนเด็กๆ อย่างไร? เป็นนักร้องซุปตาร์

บทความ 5 นาที
โรงเรียนสอนร้องเพลง สอนเด็กๆ อย่างไร? เป็นนักร้องซุปตาร์โรงเรียนสอนร้องเพลง สอนเด็กๆ อย่างไร? เป็นนักร้องซุปตาร์

การเรียนร้องเพลง ถือได้ว่า เป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่ช่วยส่งเสริม ให้มีสมาธิ และสร้างเสริมพัฒนาการต่างๆ รวมถึง เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โรงเรียนสอนร้องเพลง คือ เบื้องหลังอันดับหนึ่งของเด็กๆ วัยกระเตาะหลายคนที่ฉายแววเป็นศิลปินตัวจิ๋ว สร้างปรากฎการณ์ทางดนตรีในด้านการร้องเพลงให้ผู้ใหญ่หลายๆ คน ได้อึ้งไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นในเวทีประกวดร้องเพลงตามรายการทั้งรายการเล็กและใหญ่ต่างๆ แน่นอนว่าพรสวรรค์และความขยันฝึกซ้อมร้องเพลงของศิลปินตัวน้อยเองก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ “พรแสวง” จากการที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมโดยการส่งลูกๆ ไปเรียนกับครูสอนร้องเพลงตาม โรงเรียนสอนร้องเพลง ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญเช่นกัน เคยสงสัยกันไหมว่า? โรงเรียนสอนร้องเพลง สอนอะไรให้เด็ก ๆ กันบ้าง?

 

โรงเรียนสอนร้องเพลง สอนเด็กๆ อย่างไร? เป็นนักร้องซุปตาร์

 

การส่งเสริมทักษะขับร้องเพลง ในแต่ละช่วงวัย

การส่งเสริมให้ลูกเล่นดนตรีหรือร้องเพลง ตั้งแต่วัยเด็กเล็ก นับเป็นอีกตัวช่วยของคุณพ่อคุณแม่ ในการเพิ่มทักษะและพัฒนาการหลายๆ ด้านของลูกได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ลูกได้ผ่อนคลายจากเสียงดนตรีและพบปะเพื่อนใหม่ไปในตัว ดังนั้นหากลูกของคุณมีความสนใจทางด้านการขับร้อง ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและควรสนับสนุนมากเลยทีเดียว

  • ช่วงอายุ 3-6 ขวบ (ระดับชั้นอนุบาล)

เด็กช่วงวัยนี้ เป็นช่วงที่สมองส่วนของการได้ยินกำลังเริ่มพัฒนา หากจะส่งเสริมในด้านดนตรี ในช่วงอายุนี้ ถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการพัฒนาสมองโดยตรง ซึ่งหลักสูตรในโรงเรียนดนตรีจะเน้นเป็นวิชาที่ให้เด็กๆ ได้ฟังเพลง เล่นเกมส์ ฝึกพัฒนาการฟังอย่างเหมาะสมกับวัย เด็กจะฟังเสียง แยกเสียง ร้องเพลงได้ดี เมื่อมีพื้นฐานที่ดีหลังจากนี้จะเรียนร้องเพลงหรือเรียนดนตรีอะไรก็จะไปได้ไวอีกด้วย

  • ช่วงอายุ 6 ขวบขึ้นไป (ระดับชั้นประถมขึ้นไป)

ควรส่งเสริมทักษะการขับร้องอย่างยิ่ง ถ้าคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็น ว่าลูกชอบทางด้านนี้ มีเซ้นส์ทางดนตรีที่ดี ชอบงานศิลปะ หากชอบภาษาอังกฤษได้ก็จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะว่าการเรียนร้องเพลง ความรู้ที่ได้ มักจะมาจากต่างประเทศ หากสามารถหาความรู้ได้จากเอกสารต่างประเทศจะทำให้ไปได้ไกลกว่าคนทั่วไป แต่เด็กที่ไม่ได้ชอบร้องเพลง ไม่มีความรักในด้านนี้จะไปไม่ได้ไกล เพราะเป็นทักาะที่เฉพาะทางจริงๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : สอนลูกร้องเพลง กิจกรรมง่าย ๆ ที่ช่วยปลูกฝังความเป็นศิลปิน และพัฒนาสมองลูกน้อย

 

โรงเรียนสอนร้องเพลง

 

แนวทางการฝึกพื้นฐานให้เด็กๆใน โรงเรียนสอนร้องเพลง

การสอนขับร้องเพลง จะเริ่มต้นฝึกด้วยโน้ตดนตรีและคีย์พื้นฐาน จากนั้นถึงตามด้วยการสอนขับร้องบทเพลงและแบบฝึกหัดเพื่อพัฒนาเสียงของเด็กๆ โดยแนวทางการฝึกพื้นฐานการร้องเพลงให้เด็กในโรงเรียนสอนร้องเพลง มีดังนี้

  • อุ่นเครื่องด้วยการหาว

ก่อนเริ่มฝึกร้องเพลง ผู้สอนจะฝึกให้เด็กหายใจเข้าลึกๆ แล้วหาว วิธีนี้จะช่วยเปิดลำคอเพื่อป้องกันไม่ให้เครียดเวลาร้องเพลง

  •  ฝึกการหายใจ

เด็กๆ ต้องเรียนรู้วิธีหายใจเข้า-ออก อย่างถูกต้องเมื่อร้องเพลง ฝึกการหายใจเพื่อให้เข้าใจวิธีการควบคุมลมหายใจขณะร้องเพลง

  1. ให้เด็กหายใจ เข้าทางจมูกและทางปาก
  2. กระตุ้นให้เด็กๆนำอากาศเข้าสู่ปอดและกระบังลม ให้เด็กวางมือบนท้อง สัมผัสถึงอากาศที่เข้าไปโดยตรง เพื่อให้ท้องป่องออก
  3. ให้เด็กๆ นับการหายใจ โดยหายใจเข้า 4 ครั้งแล้วหายใจออก 4 ครั้ง
  • ค้นหาโน็ตเสียงที่เป็นธรรมชาติ

ให้เด็กร้องว่า “la” หรือ “ah” แล้วค้นหาโน้ตเสียงตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร วัดระดับเสียงโดยเล่นโน้ตสองสามตัวบนเปียโนหรือเครื่องดนตรีอื่นๆ เพื่อค้นหาโน้ตที่อยู่ใกล้ช่วงเสียงของเด็

  • ให้เด็กฝึกร้องไล่เสียงตาม Scale (บันไดเสียง)

เด็กแต่ละคนจะมีจุดเริ่มต้นของโน็ตเสียงแตกต่างกัน ให้เริ่มฝึกร้องไล่เสียงขึ้นและลงตาม Scale โดยเลือกให้ใกล้ช่วงเสียงธรรมชาติของเด็ก

  • แสดงเสียงสูง-ต่ำของ Scale (บันไดเสียง) ให้เด็กเห็นภาพ

การให้เด็กร้องโน็ตเสียงสูง-ต่ำ ตามระดับที่ต้องการ สามารถใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายช่วย อย่างการใช้มือยกขึ้นหรือลง เพื่อสั่งให้เด็กร้องให้ได้ระดับเสียงสูงขึ้นหรือลดระดับเสียงลง เช่น วางมือบนหัวเข่าเพื่อร้องโน็ต “โด” เลื่อนมือไปที่ต้นขาเพื่อร้องโน็ต “เร” เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยงลูกให้เป็นนักดนตรี ทำอย่างไรได้บ้าง ทำไงให้ลูกรักเสียงเพลง

 

โรงเรียนสอนร้องเพลง

 

กิจกรรมการฝึกร้องเพลงให้เด็กๆ

การร้องเพลงเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ในการเสริมทักษะให้กับเด็ก เป็นการฝึกให้เด็กรู้จับบังคับให้ออกเสียงไปตามทำนองที่ถูกต้อง อีกทั้งเป็นการฝึกการออกเสียง การอ่าน ในรูปแบบที่เพลิดเพลิน สนุกสนาน โดยแนวทางการฝึกร้องเพลงให้เด็กนั้นมีดังนี้

  • ร้องเพลงเป็นตัวอย่างให้เด็กฟัง

ร้องเพลงที่ใช้สอนให้เด็กฟังเป็นตัวอย่างทุกครั้ง คุณพ่อคุณแม่สามารถมีส่วนร่วมโดยร้องเพลงกับลูก ๆ ที่บ้าน

  • เริ่มต้นด้วยเพลงง่าย ๆ

เช่นเพลง “แมงมุมลาย” และ “หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว” เพราะเพลงเหล่านี้มีคำและทำนองง่าย ๆ

คุณพ่อคุณแม่สามารถมีส่วนร่วมโดยหาดาวน์โหลด บันทึกเพลงดังกล่าวทางออนไลน์ แล้วเปิดเล่นคลอประกอบไปด้วยในขณะที่เด็กๆ อยู่บ้านเพื่อให้ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน

  • เล่นเกมจับคู่เสียงให้ตรงโน็ตกัน

เช่น ร้องเสียง "la" แล้วให้เด็กพูดทวนซ้ำจนกว่าจะตรงโน้ตกัน สามารถเลือกร้องโน้ตที่หลากหลาย Scale เกมเลียนแบบนี้จะช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้วิธีจดจำน้ำเสียง ตลอดจนการปรับเสียงให้ตรงตัวโน็ต อาจจะเสนอรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างเล่นเกม เช่น แจกสติกเกอร์ให้เมื่อเด็กๆ เมื่อร้องตรงตัวโน็ต

  • ให้เด็กๆ แต่งเพลงตามจินตานาการ

สามารถใช้ทำนองเพลงที่คุ้นเคย หรือแต่งเป็นเพลงของตัวเอง เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเปิดโอกาสให้เด็กๆ เรียนรู้เกี่ยวกับการร้องเพลงอย่างเป็นธรรมชาติตลอดชีวิตประจำวัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : เพลงโมสาร์ท ดีต่อลูกน้อยจริงหรือไม่ ให้ประโยชน์อะไรกับเด็กบ้าง

 

โรงเรียนสอนร้องเพลง

 

ดนตรีและการร้องเพลงนั้น สำคัญควบคู่กัน

หากจะพูดถึงการพัฒนาทักษะของเด็ก สิ่งแรกๆ ที่ผู้ปกครองหลายๆ คน นึกถึงนั้นมักจะเป็นทักษะและวิชาเรียนที่อยู่ในโรงเรียนเช่น คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาศาสตร์ ส่วนดนตรีและการร้องเพลงนั้นมักจะถูกมองว่าเป็นเพียงงานอดิเรก หรือเป็นวิชาที่ไม่จำเป็นมากนัก เพราะการขับร้อง มักไม่ได้ใช้เป็ยวิชาเพื่อสอบเข้าเรียนต่อในสถาบันต่างๆ จนอาจมองข้ามความสำคัญของดนตรีและการร้องเพลง ที่มีต่อการพัฒนาทักษะโดยรวมของเด็ก ๆ ทั้งนี้ มีงานวิจัยจำนวนมาก ศึกษาถึงประโยชน์ของดนตรีต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าการเลี้ยงลูกด้วยการให้ทำกิจกรรมทางดนตรี อย่างการร้องเพลงหรือเล่นเครื่องดนตรีตั้งแต่ยังเล็ก มีส่วนช่วยเสริมพัฒนาการและทักษะความสามารถด้านต่าง ๆ ของเด็กได้มาก ดังนี้

  • ความสามารถในการรับรู้และความสามารถทางภาษา

เนื่องจากเสียงดนตรีและคำพูดนั้นมีระบบการทำงานร่วมกัน การเล่นดนตรีและร้องเพลงบ่อยๆ จึงช่วยฝึกการถอดเสียงและรูปแบบคำต่างๆ ให้ง่ายขึ้น ยิ่งเด็กใช้เวลากับดนตรีและการร้องเพลงนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้สมองส่วนภาษาศาสตร์พัฒนาไปด้วย โดยจะสามารถจำคำศัพท์และมีการรับรู้ด้านการอ่านที่ดี

  • ทักษะคณิตศาสตร์

ทักษะการคิดคำนวณสร้างได้ด้วยการเล่นดนตรีและร้องเพลง งานวิจัยจากสหรัฐอเมริกา ทดลองแบ่งเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ออกเป็นสองกลุ่ม พบว่าเด็กกลุ่มที่มีประสบการณ์เล่นดนตรีสองปีขึ้นไป สามารถทำคะแนนทดสอบคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้สูงกว่าเด็กกลุ่มที่ไม่เคยเล่นดนตรีมาก่อน

บทความจากพันธมิตร
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ  ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
อัปเดต แอปพลิเคชันดูแลสุขภาพ ALive Powered by AIA ใคร ๆ ก็มีไว้ในสมาร์ตโฟน
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
5 เคล็ดลับการเลือก รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ปลอดภัย พร้อมไปทุกที่ได้อย่างมั่นใจ
เผยเคล็ดลับการเรียนออนไลน์ที่จะทำให้ลูกตั้งใจเรียนมากขึ้น!
เผยเคล็ดลับการเรียนออนไลน์ที่จะทำให้ลูกตั้งใจเรียนมากขึ้น!
แจกเคล็ดลับการเรียนออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณลูกไม่ปวดตา
แจกเคล็ดลับการเรียนออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณลูกไม่ปวดตา
  • พัฒนาการทางสติปัญญา

การเล่นดนตรีและร้องเพลง เป็นอีกทางที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาได้ มหาวิทยาลัยโทรอนโตแห่งแคนาดา ทดลองแบ่งเด็กออกเป็นสี่กลุ่ม โดยสองกลุ่มแรกเรียนคีย์บอร์ดและร้องเพลงห้าวันต่อสัปดาห์ เป็นเวลาเจ็ดเดือน ส่วนสองกลุ่มหลังทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่การเล่นดนตรี ปรากฏว่าทั้งกลุ่มที่เรียนดนตรีและไม่เรียนดนตรี มีไอคิวสูงขึ้นตามพัฒนาการ แต่ข้อแตกต่างคือ เด็กกลุ่มที่เรียนดนตรีมีไอคิวสูงขึ้นถึง 7 จุด ขณะที่อีกกลุ่มที่ไม่ได้เรียนดนตรีนั้นมีไอคิวเพิ่มขึ้น 4.3 จุด

  • การพัฒนาด้านร่างกาย และสุขภาพที่ดี

การทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในวัยก่อนเข้าเรียน การเล่นดนตรีมีประโยชน์พอๆ กับการเล่นพละด้วยซ้ำ นอกจากนี้ งานวิจัยล่าสุด ยังพบประโยชน์อันน่าทึ่ง ของการร้องเพลงที่มีต่อระบบภูมิคุ้มกัน หัวใจ การหายใจและการทำงานของปอด ช่วยปรับท่าทางของร่างกายให้ดีขึ้น ทำให้อารมณ์ดีแจ่มใส ลดความตึงเครียด เพิ่มความสุขสนุกสนาน ซึ่งแม้จะทำการทดลองกับผู้ใหญ่ก็ตาม แต่ประโยชน์เหล่านี้ก็น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กได้เช่นกัน

  • การพัฒนาตนเองและทักษะด้านสังคม

ในด้านการพัฒนาตนเอง การร้องเพลงเล่นดนตรี จะทำให้เด็กรู้สึกประสบความสำเร็จจากความมุ่งมั่นและอดทนที่เกิดจากการฝึกซ้อมจนทำได้ รวมถึงเป็นการสร้างวินัยให้ตัวเองไปในตัว เมื่อทำได้สำเร็จ จึงเกิดความนับถือและเชื่อมั่นในตัวเอง และยังส่งผลให้เติบโตเป็นคนที่กล้าแสดงออกอีกด้วย

ความมั่นใจและเชื่อมั่นในตนเอง จากการร้องเพลงเล่นดนตรี ส่งผลให้เด็กมีทักษะทางสังคมที่ดียิ่งขึ้น การร้องเพลงประสานเสียงหรือการเล่นดนตรีเป็นทีม และการเรียนรู้ร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ช่วยสร้างมิตรภาพและความรู้สึกในการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ความมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเพื่อไปสู่เป้าหมายร่วมกัน

ที่มา 1,2

บทความที่คุณอาจจะสนใจ

111 ชื่อลูก จากเพลงป๊อบ เพราะ ๆ ชื่อสไตล์ป๊อบ ความหมายดี

เลี้ยงลูกให้มีความสุขด้วยเสียงดนตรี สไตล์คุณเมย์ The Voice

การพัฒนาทางด้าน ดนตรีและภาษาสำหรับเด็ก ที่พ่อแม่ควรใส่ใจ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Narinrada Akrapram

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • โรงเรียนสอนร้องเพลง สอนเด็กๆ อย่างไร? เป็นนักร้องซุปตาร์
แชร์ :
  • ยาคุม28เม็ด ข้อควรรู้สำหรับสาวๆ ต้องทานอย่างไร ทำไมจึงทานเยอะกว่า?

    ยาคุม28เม็ด ข้อควรรู้สำหรับสาวๆ ต้องทานอย่างไร ทำไมจึงทานเยอะกว่า?

  • สปาทารก ช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลายจริงหรือ สปาทารกมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ?

    สปาทารก ช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลายจริงหรือ สปาทารกมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ?

  • ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท กินอย่างไรให้ปลอดภัย

    ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท กินอย่างไรให้ปลอดภัย

app info
get app banner
  • ยาคุม28เม็ด ข้อควรรู้สำหรับสาวๆ ต้องทานอย่างไร ทำไมจึงทานเยอะกว่า?

    ยาคุม28เม็ด ข้อควรรู้สำหรับสาวๆ ต้องทานอย่างไร ทำไมจึงทานเยอะกว่า?

  • สปาทารก ช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลายจริงหรือ สปาทารกมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ?

    สปาทารก ช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลายจริงหรือ สปาทารกมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ?

  • ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท กินอย่างไรให้ปลอดภัย

    ยาคุมฉุกเฉินกินตอนไหน ยาคุมฉุกเฉินมีกี่ประเภท กินอย่างไรให้ปลอดภัย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2022. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ