TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

6 เคล็ดลับ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง รับมือเมื่อลูกทำผิดซ้ำซาก รู้ว่าไม่ควรทำ แต่ก็ยังทำ

บทความ 5 นาที
6 เคล็ดลับ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง รับมือเมื่อลูกทำผิดซ้ำซาก รู้ว่าไม่ควรทำ แต่ก็ยังทำ

หนูรู้แต่ทำไม่ได้ เป็นสัญญาณว่าสมองส่วนการควบคุมตนเองของลูกยังต้องการการฝึกฝน เรามาเรียนรู้วิธี ฝึกลูกควบคุมตัวเอง ผ่านการเล่นง่ายๆ กัน

ลูกบ้านไหนเป็นแบบนี้บ้างคะ? รู้ว่าควรหยุด เช่น รอคิว อย่าพูดแทรก หยุดวิ่ง ลูกรักพยักหน้ารับรู้ หรือตอบกลับมาว่า “หนูรู้แล้วค่ะ/ครับ ต่อไปจะไม่ทำอีก” แต่เอาเข้าจริงก็ยังทำเหมือนเดิม หยุดไม่ได้ รอไม่ได้ จนเราท้อใจและคิดว่า “ลูกดื้อหรือเปล่า?” จริงๆ แล้วพฤติกรรม “รู้แต่ทำไม่ได้” นี้ไม่ใช่การต่อต้าน หรือแปลว่าลูกดื้อนะคะ แต่เป็นสัญญาณว่าสมองส่วนการควบคุมตนเองของลูกยังต้องการการฝึกฝน เรามาเรียนรู้วิธี ฝึกลูกควบคุมตัวเอง อย่างเข้าใจ เพื่อสร้างทักษะสมองที่สำคัญนี้ให้แข็งแรงไปพร้อมกันค่ะ

ทำความรู้จัก ทักษะสมอง EF

Executive Functions หรือ EF ซึ่งเป็นกลุ่มทักษะระดับสูงที่ทำงานอยู่ในสมองส่วนหน้า (Prefrontal Cortex) ทักษะสมอง EF เปรียบเสมือน CEO ของสมอง ทำหน้าที่สำคัญ 3 ประการคือ:

  1. การยั้งคิดไตร่ตรอง (Inhibitory Control): นี่คือพลังเบรก ที่สำคัญที่สุด คือความสามารถในการหยุดตัวเองจากสิ่งเร้า ไม่ให้ทำอะไรตามใจอยากทันที เช่น การหยุดตัวเองไม่ให้พูดแทรกเมื่อคนอื่นกำลังพูด หรือการหยุดวิ่งเมื่อคุณครูบอกให้หยุด พลังเบรกนี้คือหัวใจของการ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง เลยค่ะ
  2. ความจำเพื่อใช้งาน (Working Memory): คือความสามารถในการเก็บข้อมูลไว้ในหัวชั่วครู่เพื่อนำมาใช้ทันที เช่น การจำกฎกติกาของเกมที่เพิ่งฟังไป หรือจำได้ว่าแม่เพิ่งบอกว่า “ห้ามวิ่งในบ้าน”
  3. การคิดยืดหยุ่น (Cognitive Flexibility): คือความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและแผนการเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป เช่น เมื่อของเล่นที่อยากได้มีคนอื่นเล่นอยู่ ก็สามารถเปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่นแทนได้โดยไม่อาละวาด

เด็กที่มีพฤติกรรม “รู้แต่ทำไม่ได้” ไม่ใช่เพราะไม่มีความรู้ แต่เป็นเพราะ EF ของเขายังเป็นเหมือนเด็กฝึกงาน ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เขารู้ว่าอะไรควรทำ แต่ยังขาดประสบการณ์ในการควบคุมร่างกายและอารมณ์ให้ได้ดั่งใจ

ข้อมูลจาก ศูนย์พัฒนาการเด็ก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Center on the Developing Child at Harvard University) ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำด้านพัฒนาการเด็ก ยืนยันว่าสมองส่วนหน้านี้เป็นส่วนที่ใช้เวลาในการพัฒนาจนสมบูรณ์ยาวนานที่สุด อาจจะถึงช่วงอายุ 25 ปีเลยทีเดียว! ดังนั้น การที่เด็กเล็กๆ จะยังมีปัญหาด้านการควบคุมตนเองจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ตามหลักพัฒนาการ ไม่ใช่ความผิดของเขาหรือของคุณแม่เลยค่ะ

 

4 สาเหตุหลัก ที่ทำให้ลูก “เบรกตัวเอง” ไม่ทัน

เมื่อเข้าใจเรื่องสมองแล้ว เรามาดูกันค่ะว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้การ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง เป็นเรื่องท้าทาย

  1. EF ยังเติบโตไม่เต็มที่

นี่คือเหตุผลหลักตามธรรมชาติ พัฒนาการ EF ของเด็กแต่ละคนมีจังหวะของตัวเอง เหมือนกับที่เด็กบางคนเดินเร็วกว่าเพื่อน บางคนพูดเร็วกว่าเพื่อน การที่ลูกควบคุมตัวเองได้ไม่ดีเท่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน อาจเป็นเพียงเพราะสมองของเขายังต้องการเวลาอีกสักหน่อย

  1. ระบบประสาทไวต่อสิ่งเร้าเป็นพิเศษ

เด็กบางคน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแนวโน้มภาวะสมาธิสั้น (ADHD) จะมีระบบประสาทที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นรอบตัว ทั้งภาพ เสียง หรือสัมผัส ส่งผลให้วอกแวกง่ายและพลังในการเบรกตัวเองน้อยกว่าเด็กคนอื่น ข้อมูลจาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า อาการหุนหันพลันแล่น (Impulsivity) หรือการทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด เป็น 1 ใน 3 อาการหลักของ ADHD

 

ฝึกลูกควบคุมตัวเอง

 

  1. สมองส่วนอารมณ์ทำงานหนัก

เมื่อลูกมีความเครียด ความกังวลสะสมจากการถูกดุบ่อยๆ การถูกเปรียบเทียบ หรือมีเรื่องไม่สบายใจที่โรงเรียน สมองส่วนอารมณ์ (Amygdala) จะทำงานอย่างหนัก จนไปรบกวนการทำงานของ EF ทำให้เด็กควบคุมตัวเองได้ยากยิ่งขึ้น

  1. ขาดชั่วโมงบินในการฝึกฝน

การควบคุมตนเองเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนเหมือนการปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำ หากลูกไม่ค่อยมีโอกาสได้ฝึก “รอ-หยุด-คิด” อย่างสม่ำเสมอในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย กล้ามเนื้อสมองส่วนนี้ก็ย่อมไม่แข็งแรงเป็นธรรมดา การ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง จึงต้องอาศัยการทำซ้ำๆ อย่างเข้าใจ

 

6 เคล็ดลับปั้น EF ฝึกลูกควบคุมตัวเอง ทำได้ทุกวัน

EF เป็นทักษะที่ฝึกฝนและพัฒนาได้! การ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเครียดหรือน่าเบื่อ แต่เราสามารถสอดแทรกการฝึกฝนนี้เข้าไปในกิจวัตรประจำวันและการเล่นได้อย่างสนุกสนาน

1. สื่อสารให้สั้น-ชัด-ทันเวลา

เวลาที่ลูกกำลังจะวิ่ง หรือกำลังจะพูดแทรก สมองของเขากำลังพุ่งไปข้างหน้า ไม่มีประโยชน์ที่จะเทศนาหรืออธิบายเหตุผลยืดยาว 

  • เปลี่ยนจาก: “หนูวิ่งอีกแล้วนะลูก แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าในบ้านห้ามวิ่ง เดี๋ยวก็หกล้มหัวแตกหรอก แล้วพื้นก็เพิ่งถูมาด้วยนะ!”
  • เป็น: “หยุด” (พูดด้วยน้ำเสียงสงบแต่หนักแน่น) พร้อมกับยื่นมือไปข้างหน้าเป็นสัญญาณ หรือเดินเข้าไปแตะตัวเขาเบาๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายเขาหยุดจริงๆ เมื่อเขาหยุดได้แล้ว ค่อยอธิบายเหตุผลสั้นๆ ว่า “เราเดินในบ้านกันนะลูก”

2. สร้าง “ปุ่มหยุดคิด” ให้สมอง

สอนเทคนิคง่ายๆ ให้ลูกรู้จักสร้างช่องว่างระหว่าง “สิ่งเร้า” กับ “การตอบสนอง”

  • นับ 1-3: ก่อนที่ลูกจะตอบคำถามคุณครู หรือก่อนจะหยิบของเล่นที่เพื่อนกำลังจะหยิบ ให้ฝึกนับ 1-3 ช้าๆ ในใจ นี่คือเวลาทองที่ EF จะได้เข้ามาทำงาน
  • ลมหายใจมังกร: สอนให้ลูกสูดหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก (ท้องป่อง) แล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกทางปากยาวๆ (เหมือนมังกรพ่นไฟเบาๆ) เมื่อรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิด แค่ 1-2 ครั้งก็ช่วยให้สมองสงบลงได้

3. เปลี่ยนการฝึกเป็นการเล่นสนุก

องค์การอนามัยโลก (WHO) และ UNICEF เน้นย้ำเสมอว่า การเล่นคือวิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับเด็กปฐมวัย เกมเหล่านี้คือวิธี ฝึกลูกควบคุมตัวเอง ที่สนุกและได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ

  • เกมฝึกพลังเบรก (Inhibitory Control): เกม “สัญญาณไฟจราจร” (เขียว=เดิน/วิ่ง, เหลือง=ชะลอ, แดง=หยุดนิ่งเป็นหุ่น), เกม “ไซมอนด์เซย์” ที่ต้องทำตามคำสั่งที่มีคำว่า “Simon Says” เท่านั้น
  • เกมฝึกการรอคอย: การเล่นบอร์ดเกมที่ต้องรอให้ถึงตาของตัวเอง, การผลัดกันต่อบล็อกไม้คนละชิ้นสูงๆ, การเล่นทำอาหารที่ต้องรอขนมในเตาอบสุก
  • เกมฝึกความจำ (Working Memory): เกมเปิดป้ายจับคู่, เกมทายของในถุง, หรือแค่การวานให้ลูกช่วยหยิบของ 2-3 อย่างในครัว

ฝึกลูกควบคุมตัวเอง

 

4. เป็น “นักจับถูก” ไม่ใช่ “นักจับผิด”

หัวใจสำคัญของการเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดี คือการเติมพลังบวกเมื่อลูกทำได้ แม้จะเล็กน้อยก็ตาม ไม่ต้องรอให้เขาทำสำเร็จ 100%

  • แทนที่จะพูดว่า: “ก็แค่นี้ทำไมทำไม่ได้”
  • ลองพูดว่า: “แม่เห็นนะว่าเมื่อกี้หนูอยากจะพูดแทรก แต่หนูพยายามเม้มปากรอ…เก่งมากเลยลูกที่พยายาม!” การชมที่ “ความพยายาม” จะทำให้ลูกรู้สึกดีกับตัวเองและอยากทำอีก นี่คือการ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง ที่ได้ผลทางใจอย่างมหาศาล

5. ลดคำตำหนิ เพิ่มการสะท้อนความรู้สึก

เมื่อลูกทำพลาดอีก (ซึ่งจะเกิดขึ้นแน่นอนในระหว่างการฝึก) ให้เปลี่ยนจากการดุหรือลงโทษ มาเป็นการช่วยให้ลูกเข้าใจตัวเอง

  • แทนที่จะพูดว่า: “อีกแล้วนะ! บอกแล้วทำไมไม่เคยจำเลย!”
  • ลองนั่งลงในระดับสายตาเดียวกับเขาแล้วพูดว่า: “ดูเหมือนเมื่อกี้หนูจะเบรกตัวเองไม่ทันใช่ไหมลูก? ไม่เป็นไรนะ เรามาลองกันใหม่ คราวหน้าพอรู้สึกอยากวิ่งปุ๊บ เรามาลองใช้ลมหายใจมังกรกันดีไหม?” ประโยคแบบนี้ช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดี และทำให้ลูกมองว่าเราคือทีมเดียวกัน

6. เริ่มจากสนามซ้อมเล็กๆ ก่อนลงสนามจริง

อย่าคาดหวังให้ลูกควบคุมตัวเองได้ดีในสถานการณ์ที่ยากและท้าทายทันที หัวใจสำคัญของการ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง คือการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ที่เขาทำสำเร็จได้ง่าย

ฝึกทีละด่าน: เริ่มฝึกการรอคอยของเล่นชิ้นโปรดที่บ้าน (สถานการณ์ง่าย) ก่อนจะไปฝึกการรอคิวซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ (สถานการณ์ยากขึ้น) หรือฝึกการควบคุมเสียงในห้องสมุด (สถานการณ์ยากมาก)

การฝึกลูกควบคุมตัวเอง นี้ต้องอาศัยเวลาและความสม่ำเสมอ เด็กที่ “รู้แต่ยังทำไม่ได้” ไม่ได้ดื้อ แต่สมองของเขายังต้องการเวลาและการฝึกฝน คุณแม่ต้องคอยเป็นกองเชียร์ ที่ส่งเสียงดีใจเมื่อเปลี่ยนคำดุเป็นคำแนะนำ เปลี่ยนการลงโทษเป็นการฝึกฝน นั่นคือคุณแม่กำลังช่วยลูกสร้างรากฐานของทักษะสมอง EF ที่แข็งแกร่งที่จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิตค่ะ

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Self-control ทักษะควบคุมตัวเอง ฝึกง่ายๆ ตั้งแต่เด็ก โตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ

8 วิธีฝึกลูกจัดการความโกรธ สยบอารมณ์ขุ่นมัวอย่างสร้างสรรค์

วิธีฝึกลูกให้ขอโทษและให้อภัย จุดเริ่มต้นของทักษะทางสังคมที่พ่อแม่สร้างได้

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 6 เคล็ดลับ ฝึกลูกควบคุมตัวเอง รับมือเมื่อลูกทำผิดซ้ำซาก รู้ว่าไม่ควรทำ แต่ก็ยังทำ
แชร์ :
  • 10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

    10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

  • 10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

    10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

  • วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

    วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

  • 10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

    10 สัญญาณเตือน "ภาวะซึมเศร้าในเด็ก" เช็กด่วน! ลูกเราเสี่ยงซึมเศร้าหรือเปล่า?

  • 10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

    10 ข้อคิดเลี้ยงลูก ฉบับหมอแม่ "เราอยากมีแม่แบบไหน เราต้องเป็นแม่แบบนั้น"

  • วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

    วิธีรับมือ (ว่าที่) พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว