อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายเป็นหนทางสู่การมีหุ่นที่ดูดี สุขภาพแข็งแรง และ ยังเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่เห็นผลจริง ! ถ้าออกกำลังอย่างถูกต้อง ถูกวิธี และ ออกกำลังเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการออกกำลังกายก็มีหลากหลายรูปแบบ มีหลายกิจกรรมให้ได้เลือกทำตามความชอบ ความถนัด ความสนใจของแต่ละคน อาทิ เช่น การเต้นแอโรบิก การเวทเทรนนิ่ง บอดี้เวท โยคะ เดิน การเล่นกีฬา เช่น การตีแบดมินตัน หรือ การวิ่ง ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แต่จะ วิ่ง ลดน้ำหนัก ยังไงให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ วิ่งยังไงให้ผอมเร็ว น้ำหนักลดลงทันใจ ! เพราะถ้าวิ่งผิดวิธีการที่จะมีหุ่นดี น้ำหนักลด อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่ใจหวัง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาบอกต่อวิธี วิ่ง ยังไงให้น้ำหนักลด เตรียมจดเคล็ดลับแล้วทำตามได้เลย !
บอกต่อ ! 9 เคล็ดลับ วิ่ง ลดน้ำหนัก ยังไงให้เห็นผล
1. วิ่ง ลดน้ำหนัก วิ่งอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายทุกอย่างควรทำอย่างสม่ำเสมอมีตารางการออกกำลังให้เป็นกิจวัตร อย่างเช่น กำหนดการวิ่งอาทิตย์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์ ก็ควรทำตามตารางที่วางไว้ให้ได้ เพื่อที่ร่างกายจะได้ปรับตัวและเป็นการกำหนดให้รู้ว่าวันนั้น ๆ ตัวเราต้องออกกำลังกาย จะได้ไม่มีข้ออ้างในการออกกำลัง เพื่อให้วิ่งได้อย่างยั่งยืน และ เห็นผลในการลดน้ำหนักได้อย่างตั้งใจ
2. เลือกชุดวิ่งที่เหมาะสม
การเลือกใส่เสื้อผ้าชุดออกกำลังกายมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้ด้วย ! เพราะการเลือกชุดที่มีความพอดีกับรูปร่างอย่างเหมาะสม มีความยืดหยุ่น กระชับ ซัพพอร์ตสรีระร่างกาย ไม่แน่น ไม่รัด หรือ หลวมจนเกินไป จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น เพราะปกติร่างกายของคนเราจะเผาผลาญไขมันได้ดีเมื่ออุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น 1 – 2 องศา ดังนั้นการเลือกชุดออกกำลังกายที่มีการระบายความร้อนได้ดี ไม่ดูดซับเหงื่อจึงมีผลต่อการเบิร์นไขมันด้วยนั่นเอง
3. กำหนดเวลาวิ่งให้พอเหมาะ
การกำหนดเวลาเพื่อให้มีจุดมุ่งหมาย และ เป้าหมายที่จะต้องทำให้ได้ในแต่ละวัน เป็นการบังคับตัวเองว่าต้องทำตามเป้าที่ตั้งไว้ให้ได้ ! สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มวิ่ง ควรเริ่มในระยะเวลาที่ไม่มากจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อน ไม่ควรหักโหม เพราะจะทำให้เหนื่อย ร่างกายปรับสมดุลไม่ได้ จนอาจมีอาการบาดเจ็บ เช่น ปวดข้อเท้า ปวดเข่า เจ็บส้นเท้า ทำให้ท้อไม่อยากวิ่งออกกำลังกายต่อนั่นเอง
Tips : สำหรับมือใหม่ควรเริ่มต้นที่วันละ 15 – 20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว อาจจะวิ่งวันเว้นวัน หรือ อย่างน้อยควรวิ่งให้ได้สัปดาห์ละ 3 – 4 วัน เพื่อให้ร่างกายเกิดความเคยชิน ลดอาการล้าตอนกลับมาวิ่งใหม่ หลังจากนั้นให้ค่อย ๆ ลองเพิ่มเวลาได้ตามที่ร่างกายไหว
4. วิ่ง ลดน้ำหนัก วิ่งด้วยความเร็วที่ร่างกายรับไหว
จริงอยู่ที่ว่าการวิ่งด้วยความเร็วจัดจะทำให้ร่างกายเหนื่อย เหงื่อออก และ เบิร์นไขมันได้ไว ! แต่.. ร่างกายอาจจะรับไม่ไหวจนเกิดอาการเหนื่อย หอบ หน้ามืด หรือ บางคนออกซิเจนไม่เพียงพออาจเกิดอาการวูบหมดสติได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องทำอย่างพอดี เพื่อไม่ให้เป็นการฝืนร่างกายจนเกินไป
Tips : เมื่อมีความชำนาญในการวิ่งแล้วควรวิ่งให้ได้วันละ 30 นาที – 45 นาที ด้วยความเร็วที่เหมาะสม เพราะการวิ่งระยะสั้นแบบนี้ ร่างกายจะดึงน้ำตาลในเลือดออกมาใช้เป็นพลังงาน เพราะน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ดีกว่าไขมัน ทำให้เผาผลาญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : เหตุผลที่ผู้หญิงคนนี้วิ่งวันละ 20 กิโลเมตร จะทำให้คุณน้ำตาซึม
5. ท่าวิ่งก็สำคัญ
บางคนอาจจะมีอาการหลังวิ่งแล้วรู้สึกปวดข้อเท้า ปวดข้อเข่า เจ็บน่อง เจ็บส้นเท้าจี๊ด ๆ ปวดลูกสะบ้า สาเหตุอาจมาจากการวิ่งในท่าที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคนอ้วนจะมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ง่ายกว่า เพราะรูปร่าง และ น้ำหนัก ทำให้ช่วงล่างได้รับแรงกระแทกค่อนข้างสูงขณะวิ่ง แต่ถึงแม้จะผอม หรือ รูปร่างปกติ แต่ถ้าวิ่งไม่ถูกท่าก็มีโอกาสบาดเจ็บได้เหมือนกันทั้งนั้น
ท่าวิ่งที่ถูกต้องควรวิ่งอย่างไร ?
- ควรวิ่งให้เต็มฝ่าเท้า
- ลงน้ำหนักบริเวณกลางฝ่าเท้าและส้นเท้า
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อไหล่และแขน
- พยายามทำลำตัวให้ตรง
- แกว่งแขนตามจังหวะ
ในขณะที่วิ่งไม่ควรทำอย่างนี้ !
- ก้าวเท้ายาว และ เร็วจนเกินไป
- ก้มหน้าต่ำ หรือ เงยหน้าสูง ควรมองไปข้างหน้าในระยะสายตา
- ไม่เกร็งช่วงบนของร่างกาย ปล่อยสบาย ๆ ตามธรรมชาติ
6. เพิ่มความท้าทายด้วยความเร็ว และ ระยะเวลา
สำหรับคนที่วิ่งเป็นประจำจนร่างกายเคยชินต้องลองเพิ่มความท้าทายให้กับการวิ่ง เพิ่มสีสัน เพิ่มความสนุกให้รู้สึกอยากวิ่งบ่อย ๆ ด้วยการเพิ่มระยะเวลาในการวิ่ง รวมถึงความเร็วที่มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้เพิ่มความอึด เพิ่มการเบิร์นให้มากขึ้น สำหรับมือใหม่ก็สามารถใช้วิธีนี้ท้าทายตัวเองได้เช่นกัน อาจจะเพิ่มเวลาอาทิตย์ละ 5 นาที เพื่อให้การวิ่งช่วยลดน้ำหนักได้ดี และ เห็นผลได้เร็วทันใจ
7. เวทเทรนนิ่งควบคู่เพิ่มความปัง
การออกกำลังกายถ้าหากทำซ้ำ ๆ ออกกำลังกายแบบเดิม ๆ ทุกวัน กล้ามเนื้อจะเกิดความเคยชินจนไม่พัฒนา ต้องสลับมาออกกำลังกายแบบอื่นร่วมด้วย เพื่อให้กล้ามเนื้อ และ อวัยวะทุกส่วนได้ถูกใช้ง่ายอย่างเท่า ๆ กัน การเวทเทรนนิ่งก็เป็นอีกวิธีที่สามารถทำควบคู่ไปกับการวิ่งได้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ชัดขึ้น เห็นสัดส่วนได้ง่ายขึ้น หุ่นลีน ช่วยรีดไขมันให้ลดลงได้อย่างรวดเร็ว ถ้าอยากมีร่อง 11 หรือ ซิกแพคชัด ๆ บอกเลยว่าทำ 2 โปรแกรมนี้ วิ่ง สลับกับ เวทเทรนนิ่ง หุ่นดี น้ำหนักลงไว ได้หุ่นปังเร็วอย่างแน่นอน !
8. วิ่ง ลดน้ำหนัก และควบคุมอาหารร่วมด้วย
เบิร์นออกเยอะแต่ก็เอาเข้าเยอะเหมือนกันอาจจะทำให้ลดน้ำหนักได้ช้า หรือ เห็นผลช้า เพราะต่อให้วิ่งเผาผลาญเอาไขมันส่วนเกินออก แต่ถ้ายังรับประทานมาก และ เยอะเหมือนเดิม สารอาหารก็เข้าไปทดแทนส่วนที่เอาออกไปอยู่ดี ดังนั้นควรควบคุมอาหารควบคู่กับการวิ่งไปด้วย เพื่อการลดน้ำหนักที่เห็นผลไว และ ได้ผลจริงตามที่ใจหวัง
9. นอนให้เพียงพอจำเป็นต่อร่างกาย
อย่างไรก็ดี.. ทุกเรื่องที่กล่าวมาจะเห็นผลช้า หรือ เร็ว ก็ขึ้นอยู่กับการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วย เพราะร่างกายหลังจากที่ออกกำลังกายต้องได้รับการฟื้นฟู เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้กลับมาแข็งแรง ให้กล้ามเนื้อได้รับการพัก การนอนอย่างเพียงพอจึงจำเป็นต่อร่างกายด้วยนั่นเอง
สำหรับใครที่กำลังสนใจการออกกำลังกายโดยการ วิ่ง ลดน้ำหนัก อย่างให้เห็นผลไว ได้ผลจริง ผอมเร็ว น้ำหนักลดลงทันใจ ลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ดู รับรองว่าสุขภาพแข็งแรง หุ่นดี น้ำหนักลดลงแน่นอน !
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 รองเท้าวิ่ง สำหรับผู้หญิง ราคาประหยัด งบไม่เกิน 1000 บาท
วิ่งผลัด ดีอย่างไร ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านไหนบ้าง ?
ไขข้อสงสัย คนท้องวิ่งได้ไหม คนท้องออกกำลังกายได้ไหม วิ่งแล้วเป็นอะไรไหม?