คุณแม่รู้ไหม เลือดฝาด ที่อยู่บนหน้าเรา บอกอะไรกับเราได้บ้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่เคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไมแก้มเราหรือแก้มลูก ถึงมีสีอมชมพูระเรื่อ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้แต่งหน้า หลาย ๆ คนเรียกสิ่งนี้ว่า เลือดฝาด อย่างไรก็ตาม บางครั้งการที่แก้มหรือบริเวณใดบริเวณหนึ่งบนหน้าเราเกิดเลือดฝาด อาจไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไป วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง ว่าเลือดฝาดบนหน้าหรือรอยแดงที่แก้ม บ่งบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของเราได้บ้าง

 

เลือดฝาด คืออะไร

เลือดฝาด คือ รอยบนผิวหนังที่มีสีชมพูอ่อน ๆ ค่อนไปทางสีแดง มักจะเกิดขึ้นที่แก้ม หรือบริเวณหนึ่ง ๆ ของใบหน้า เป็นผลมาจากการที่เส้นเลือดบริเวณใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว อันเนื่องมาจากสาเหตุหลาย ๆ ประการ เช่น โรคผิวหนัง อาหารการกิน สภาพอากาศ เป็นต้น และแม้ว่าเลือดฝาดจะเกิดขึ้นได้ทั่ว ๆ ไป แต่บางทีก็เป็นสัญญาณบ่งบอกเกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่ ดังนั้น การหมั่นสังเกตเลือดฝาดบนใบหน้าและอาการของตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญ หากว่าเป็นโรคใดโรคหนึ่งขึ้นมาจริง ๆ ก็จะได้รักษาให้หายได้ทันเวลา

 

เลือดฝาดเกิดจากอะไร

เลือดฝาดเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งจำแนกออกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

 

1. สิวที่หน้า

สิวที่หน้า อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เรามีเลือดฝาด เมื่อเป็นสิว ผิวหนังจะเกิดการอุดตันและอักเสบ ส่งผลให้เกิดรอยแดงบริเวณนั้น ๆ หากต้องการให้สิวหายไว ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า หมั่นล้างหน้าให้สะอาด และใช้สบู่หรือแชมพูที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อไม่ให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองนะคะ

 

2. ร่างกายไวต่ออาหารที่รับประทาน

การกินอาหารที่รสเผ็ดจัด สามารถทำให้หน้าแดงได้ เพราะสารที่อยู่ในพริก จะไปกระตุ้นให้หลอดเลือดในผิวหนังขยายออก จนรู้สึกร้อนที่หน้าและมีเหงื่อออก ส่งผลให้หน้าแดงในที่สุด หากไม่อยากให้หน้าแดงบ่อย ๆ แนะนำว่าไม่ควรทานอาหารที่รสเผ็ดจัดจนเกินไปค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

3. การรับประทานยาบางชนิด

การทานยาบางชนิด อาจทำให้หน้าแดงหรือมีเลือดฝาดได้เช่นเดียวกัน ซึ่งอาการหน้าแดงจากการทานยานั้น เกิดมาจากสารฮิสตามีนที่ร่างกายหลั่งออกมา เพื่อทำปฏิกิริยากับยาที่กินเข้าไป ซึ่งยาเหล่านั้น ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน ไนอาซิ ไนโตรกลีเซอรีนเอมิล ไนไตรต์ บิวทิลไนไตรต์ ซิลเดนาฟิล ไวอากร้า ไตรแอมซิโนโลน และไรแฟมพิน

บทความที่เกี่ยวข้อง : ปัญหาผิวหนัง 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 90

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. อาการร้อนวูบวาบ

อาการร้อนวูบวาบนี้ มักเกิดขึ้นกับวัยประจำเดือนหมดหรือวัยทอง ในช่วงนี้ ฮอร์โมนเอสโตเจนจะเกิดการเปลี่ยนแปลง จนกระทบต่อความร้อนภายในร่างกายคนเรา ส่งผลให้รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าประมาณ 30 วินาทีถึง 10 นาที และจากนั้น หน้าอาจจะเริ่มแดงหรือเป็นสีชมพูอ่อน ๆ หากไม่ต้องการให้หน้าแดง ให้หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น ไม่ควรอยู่ในที่ที่อากาศร้อน งดดื่มแอลกอฮอล์ อาหารเผ็ดร้อน หรือเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน อย่างไรก็ตาม หากลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้วยังไม่ได้ผล ให้เข้าปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดนะคะ

 

5.โรคผิวหนังอักเสบ

โรคผิวหนังอักเสบ หรือ Rosacea เป็นอีกหนึ่งในสาเหตุ ที่ทำให้หน้าหรือแก้มมีเลือดฝาดหรือเป็นสีแดง คนที่เป็นโรคนี้ มักจะมีตุ่มสีแดงเล็ก ๆ คล้ายสิวที่หน้า แต่คนมักไม่เอะใจ และคิดว่าตุ่มแดงเหล่านั้น เป็นแค่สิวเม็ดธรรมดา หากปล่อยไว้นาน อาการของโรคอาจรุนแรงขึ้นจนใช้ชีวิตได้ลำบาก ดังนั้น คุณแม่ต้องหมั่นสังเกตให้ดี ว่าเลือดฝาดบนหน้าเราหรือลูกของเรา มีลักษณะที่ผิดปกติตามนี้หรือไม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

6. โรคภูมิแพ้ตัวเอง

โรคภูมิแพ้ตัวเองหรือโรคพุ่มพวง เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ก็เป็นโรคที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย รวมทั้งผิวหนังด้วย คนที่เป็นโรคนี้ จะเริ่มมีผื่นสีน้ำตาลแดงขึ้นที่แก้มและบริเวณสันจมูกก่อน โดยบริเวณนั้น ๆ อาจดูเหมือนรอยไหม้จากแสงแดด

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) โรคพุ่มพวงที่ผู้หญิงไม่อยากเป็น

 

 

7. โรคกลาก

โรคนี้ก็เป็นโรคผิวหนังอีกหนึ่งชนิด ที่อาจทำให้แก้มหรือหน้ามีสีแดงเป็นเลือดฝาด ผู้ป่วยโรคนี้ มักจะมีผิวหนังแดง และคันบริเวณผิวหนัง เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีเป็นกันได้

 

8. ผิวหนังไหม้จากแสงแดด

หากเราอาศัยอยู่ในที่ที่มีแสงแดดเยอะ หรือมีแดดจัด อาจผิวหนังไหม้จนหน้าแดง หากผิวหนังไหม้ แนะนำให้อาบน้ำเย็น เพื่อทำให้ร่างกายเย็นขึ้น ดื่มน้ำเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และทาผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีน้ำมันผสม

 

9. แอลกอฮอล์

หลายคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ มักจะหน้าแดงกัน ซึ่งอาการหน้าแดงดังกล่าวนี้ มักเกิดจากสารที่เรียกว่าอะซีตัลดีไฮด์ ที่ร่างกายผลิตออกมาหลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตอนนี้ก็จะเห็นกันแล้วว่า อาการเลือดฝาดที่หน้า เกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งโรคด้านสุขภาพและสิ่งเร้าภายนอก แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่าคนมีเลือดฝาดที่หน้าทุกคน จะป่วยเป็นโรคต่าง ๆ เหล่านี้กันหมด หากไม่ได้มีอาการผิดปกติใด ๆ ตามที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ก็ไม่ต้องกังวลใจ แต่ถ้าหากรู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ก็แนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : นิสัยสร้าง ผิวดี คืออะไร? อยากมีผิวใส ผิวสวย ผิวปัง ห้ามพลาด!

 

 

ผลไม้บำรุงเลือด ช่วยให้หน้าเปล่งปลั่ง ดูมีเลือดฝาด

หากคุณแม่อยากหน้าใสอมชมพู มีเลือดฝาดอ่อน ๆ ก็สามารถทานผลไม้อร่อย ๆ อย่างทับทิม แตงโม ฝรั่ง แก้วมังกร และสตรอว์เบอร์รีได้ เพราะผลไม้เหล่านี้ ช่วยบำรุงเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง และบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส แถมยังให้วิตามินซีสูง และช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

 

เลือดฝาดบนใบหน้าอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งสาเหตุที่ดีและสาเหตุที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ทางที่ดีคุณแม่ควรหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง และรับประทานผลไม้ที่ช่วยบำรุงเลือดเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส พร้อมมีเลือดฝาดแบบสุขภาพดีแล้วค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เคล็ดลับ! สยบปัญหาผิวระหว่างตั้งครรภ์ ทำอย่างไรดี?

คนท้องขัดผิวได้ไหม? การขัดผิวปลอดภัยต่อแม่ตั้งครรภ์หรือเปล่า

คนท้องทำไมรักแร้ดำ ผิวเป็นหนังไก่ ทำอย่างไรให้รักแร้ขาวเรียบเนียน

แชร์ประสบการณ์หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเลือดฝาดบนหน้าคนท้อง ได้ที่นี่!

เลือดฝาด ที่อยู่บนหน้าเกิดจากอะไรคะ เป็นอันตรายไหมคะ

ที่มา : TrueID, Medical News Today

บทความโดย

Kanokwan Suparat