หลังมีลูก ความสัมพันธ์กับคู่รักและคนใกล้ชิดมักเปลี่ยนไป คุณแม่หลายคนเผชิญความท้าทายในการปรับตัว ความเหนื่อยล้าจากการลูกเลี้ยง ทำให้ความใกล้ชิดลดลง สถิติเผยว่าพ่อแม่มือใหม่กว่า 67% พึงพอใจในความสัมพันธ์น้อยลงในช่วง 3 ปีแรกหลังคลอด บทความนี้จึงมีวิธีรับมือ ชีวิตคู่เปลี่ยนไปหลังมีลูก กระชับสัมพันธ์ให้ราบรื่นด้วยความเข้าใจมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
5 ปัจจัยที่ทำให้ ชีวิตคู่เปลี่ยนไปหลังมีลูก
เมื่อมีสมาชิกใหม่ตัวน้อยเข้ามาในครอบครัว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดคือเรื่องของเวลาและความสนใจ จากที่เคยมีเวลาส่วนตัว หรือเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันสองคนอย่างเต็มที่ กลับกลายเป็นว่าเวลาเหล่านั้นลดน้อยลงไปอย่างมาก ความสนใจหลักของทั้งคุณพ่อคุณแม่ต่างก็มุ่งตรงไปที่ลูกน้อยเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงดูลูกน้อยก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ทำให้พลังงานและความพร้อมที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันลดน้อยลงตามไปด้วย
-
การแบ่งความรับผิดชอบที่ไม่สมดุลกัน
เมื่อมีลูกน้อย บทบาทใหม่ของการเป็นพ่อและแม่ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มตัว ซึ่งนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการแบ่งความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูกที่ไม่สมดุล และกลายเป็นสาเหตุของความขัดแย้งได้ นอกจากนี้ ความคาดหวังที่แต่ละคนมีต่อบทบาทของอีกฝ่ายก็อาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความไม่พอใจได้ง่ายขึ้น
ความเหนื่อยล้าสะสมจากการเลี้ยงดูบุตร รวมถึงความเครียดที่อาจเกิดขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อความต้องการและความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ เวลาและโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกันอย่างเป็นส่วนตัวก็ลดน้อยลงไปอย่างมาก เนื่องจากต้องทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการดูแลลูกน้อย อีกทั้งความรู้สึกทางอารมณ์ของแต่ละคนก็อาจเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความใกล้ชิดที่มีต่อกัน
-
การสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน
รูปแบบการพูดคุยของคู่รักหลังมีลูกมักจะเปลี่ยนแปลงไป โดยส่วนใหญ่เนื้อหาจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องราวของลูกน้อย การเลี้ยงดู และความกังวลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หลายคู่มักละเลยที่จะพูดคุยถึงความรู้สึกส่วนตัวของกันและกัน มองข้ามความต้องการทางด้านจิตใจของอีกฝ่ายไป ทำให้เกิดช่องว่างในความสัมพันธ์โดยไม่รู้ตัว

6 วิธีรับมือเมื่อ ชีวิตคู่เปลี่ยนไปหลังมีลูก
อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ค่อยๆ ห่างเหินออกไป ลองทำตามแนวทางต่อไปนี้ เพื่อกระชับสัมพันธ์ให้ราบรื่นด้วยความเข้าใจ
1. เข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง
สิ่งแรกที่เราต้องทำความเข้าใจเลยก็คือ ชีวิตคู่ของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลังจากมีลูก และนี่คือเรื่อง ปกติมากๆ เลยค่ะ ไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่เป็นแบบนี้ คุณแม่หลายๆ คู่ก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงคล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวล หรือโทษตัวเองนะคะ
การเปิดใจคุยกัน ชวนคุณพ่อมานั่งคุยกันสบายๆ ถึงความรู้สึกของเราทั้งคู่ ว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง เล่าให้กันฟังถึงความเหนื่อย ความกังวล หรือแม้แต่ความสุขที่เราได้รับจากการเลี้ยงลูก การพูดคุยกันด้วยความเข้าใจ จะช่วยให้เราทั้งคู่มองเห็นและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันค่ะ
2. หาเวลาเติมความหวานให้แก่กัน
ถึงแม้ว่าตอนนี้เวลาของเราจะถูกแบ่งให้กับเจ้าตัวน้อยไปเยอะมาก แต่ก็ อย่าลืมหาเวลาดีๆ ให้กับคุณพ่อบ้างนะคะ แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราทั้งคู่ได้ทำอะไรร่วมกันที่ชอบ อาจจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง กินข้าวอร่อยๆ หรือแค่ได้นั่งคุยกันเงียบๆ ก็ยังดีค่ะ ที่สำคัญคือ ให้ความสำคัญกับ “เดทกลางคืน” หรือช่วงเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันสองคนโดยไม่มีเรื่องลูก มาเป็นตัวกลาง ลองหาโอกาสฝากลูกไว้กับคุณปู่คุณย่า หรือญาติสนิทสักพัก แล้วออกไปทานข้าวนอกบ้าน ไปเดินเล่น หรือทำกิจกรรมที่เคยชอบด้วยกัน มันจะช่วยเติมความหวานและกระชับความสัมพันธ์ของเราสองคนให้แน่นแฟ้นขึ้นได้มากเลยค่ะ
3. แบ่งความรับผิดชอบอย่างยุติธรรม
ลองชวนคุณพ่อมานั่งคุยกันอย่างจริงจัง ว่าใครจะดูแลเรื่องอะไรบ้างในการเลี้ยงลูก และงานบ้านต่างๆ ตกลงกันให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกว่าต้องแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว การที่เราช่วยกัน จะทำให้เหนื่อยน้อยลง และยังรู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกันอีกด้วย และที่สำคัญไม่แพ้กัน ในบทบาทของการเป็นพ่อแม่ อาจจะมีวันที่เราเหนื่อยล้า ท้อแท้ หรือรู้สึกว่าทำได้ไม่ดี การที่อีกฝ่ายคอยให้กำลังใจ ชื่นชมในสิ่งที่เราทำ จะเป็นพลังใจที่สำคัญมากๆ เลยค่ะ

4. สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา
ลองฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี ตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณพ่อพูด และพยายามทำความเข้าใจในมุมมองของเขา แสดงให้เขาเห็นว่าเราเข้าใจความรู้สึกของคุณพ่อจริงๆ ในขณะเดียวกัน เราเองก็ต้องบอกถึงความต้องการและความรู้สึกของเรา ให้คุณพ่อได้รับรู้ด้วยนะคะ แต่ขอให้เป็นการพูดคุยกันด้วย ถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาแต่สุภาพ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเสียงตำหนิ หรือกล่าวโทษกัน เพราะนั่นจะยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อกัน ลองเปลี่ยนเป็นการพูดคุยด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกันนะคะ
5. แสดงความรักต่อกันอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าจะมีลูกน้อยมาเป็นศูนย์กลางของบ้าน แต่ก็ อย่าลืมที่จะเติมความรักและความห่วงใยให้กันและกันอย่างสม่ำเสมอนะคะ การแสดงออกง่ายๆ อย่าง การกอด การสัมผัส หรือการพูดคุยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ก็ช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นได้ค่ะ และเมื่อมีโอกาสเหมาะๆ ก็ อย่ามองข้ามความใกล้ชิดทางกาย นะคะ ถึงแม้จะไม่บ่อยเหมือนเมื่อก่อน แต่การได้ใกล้ชิดกันทางร่างกายก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความผูกพันและความรู้สึกดีๆ ต่อกันได้ค่ะ
6. อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ
อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกว่าเราทั้งคู่รับมือกับสถานการณ์ไม่ไหวแล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการขอความช่วยเหลือจาก ครอบครัว ญาติสนิท หรือเพื่อนที่เราไว้ใจ ให้เขามาช่วยดูแลลูกบ้าง หรือให้คำปรึกษา หากรู้สึกว่าปัญหาในความสัมพันธ์มันหนักหนาเกินกว่าจะจัดการกันเอง การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาและหาทางออกได้อย่างถูกต้อง เพราะการที่เราดูแลสุขภาพจิตใจของเราและรักษาความสัมพันธ์ให้ดี ก็เป็นสิ่งสำคัญต่อการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยให้เติบโตอย่างมีความสุขเช่นกันค่ะ
ชีวิตคู่เปลี่ยนไปหลังมีลูก การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นโอกาสในการเติบโตของครอบครัวและความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หากมีการปรับตัวและความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะสามารถประคองความรักและความสัมพันธ์ให้ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและยาวนานได้แน่นอนค่ะ
ที่มา : nct
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
10 สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรปฏิบัติต่อกัน พ่อแม่แบบไหนที่ลูกไม่ชอบ
เลี้ยงลูกเหนื่อยจนร้องไห้ 12 สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลัง Burn out หมดไฟในการเลี้ยงลูก
10 ข้อดีเมื่อพ่อช่วยเลี้ยงลูก อุ้ม กอด เล่นซน เติมเต็มพัฒนาการในสไตล์คุณพ่อ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!