ตีลูก เป็นทางออกปัญหาจริงหรือไม่? ทำไมพ่อแม่ถึงไม่ควรตีลูก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตีลูก อาจเป็นการสร้างบาดแผลในใจให้กับเด็ก ๆ หรือส่งผลถึงปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย เรามาดูกันดีกว่าการลงโทษลูก หรือการฝึกวินัยของลูกด้วยการตีนั้นมีประโยชน์จริงหรือไม่ และทำไมคุณพ่อคุณแม่ หรือแม้แต่ผู้ดูแลถึงไม่ควรที่จะตีเด็ก ๆ เพื่อลงโทษ ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

 

ทำไมพ่อแม่บางคนถึงตีลูก?

สำหรับบางครอบครัวที่พ่อแม่มีพฤติกรรมที่ชอบตบตีลูก ส่วนใหญ่มักจะมองว่าการตบตีลูกนั้นเป็นเครื่องมือที่แสดงออกถึงการมีอำนาจที่จะสามารถบังคับ หรือการกระทำนั้นสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกได้ และในบางคนมักจะคิดว่า การลงโทษด้วยการทำร้ายร่างกายนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่มีคุณธรรม ไม่ได้เป็นการทำผิดแต่อย่างใด ทั้งนี้การตีลูกไม่ได้เป็นการสอนลูก ๆ ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นผิด หรือเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ควรทำในครั้งต่อไป แต่มันเป็นการสอนให้เด็ก ๆ รู้จักวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการถูกตีแทนที่จะช่วยให้พวกเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : เลี้ยงลูกแบบไม่ดุ ได้ผลดีกว่า ทำไมการเลี้ยงลูกแบบเข้าใจถึงเป็นทางที่ดีกว่า

 

8 เหตุผลที่ทำไมพ่อแม่ไม่ควรตีลูก

สังคมเราในปัจจุบันยังมีการถกเถียงกันอยู่เสมอว่าในความจริงแล้วผู้ปกครองควรที่จะลงโทษลูกด้วยการตีหรือไม่ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าเหตุผลใดบ้างที่ผู้ปกครองไม่ควรตีลูกของตัวเองเพื่อเป็นการฝึกวินัย หรือการทำโทษ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

วิดีโอจาก : Felix Day

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. การใช้ความรุนแรงกับลูกผิดกฎหมาย

ในทางกฎหมายแล้ว การลงโทษหรือการฝึกวินัยของลูกด้วยการตีนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่จะต้องอยู่ในกฎข้อบังคับ เพราะว่าทางกฎหมายได้กำหนดสิทธิให้ผู้ปกครองมีอำนาจในการทำโทษบุตรตามสมควร แต่ถ้าหากผู้ปกครองทำโทษลูกโดยไม่สมควรแก่เหตุ หรือมีการลงโทษด้วยการใช้ความรุนแรงมากเกินไปก็อาจมีความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา

 

2. การตีทำให้ลูกหมดความมั่นใจในตนเอง

การตีก้นลูกนั้นสามารถทำให้เด็กรู้สึกเหมือนถูกทำลายความภาคภูมิใจของตนเอง และหมดความมั่นใจในตัวเองในที่สุด บางครั้งการที่คุณตีพวกเขาเพื่อเป็นการลงโทษนั้น อาจเป็นสิ่งที่พวกเขามั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง และเขาภาคภูมิใจกับสิ่งนั้นมาก ๆ แต่คุณกลับไม่เห็นคุณค่า และเลือกที่จะลงโทษในสิ่งที่พวกเขามากกว่าชื่นชมยินดี

 

3. ทำให้พวกเขามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว

คุณอาจจะยังไม่ทราบว่าการตีลูกนั้นทำให้ลูกของคุณมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งพฤติกรรมก้าวร้าวนี้จะไม่ได้ถูกปฏิบัติกับคุณ เพราะว่าเขากลัวที่จะถูกตีอีก แต่เขาจะเลือกใช้วิธีเดียวกับคุณในการรังแกเด็กคนอื่น หรือผู้ที่อ่อนแอกว่า เพราะว่าเขาได้ถูกสอนให้เรียนรู้วิธีการจัดการกับปัญหาด้วยการตี หรือการขู่ว่าจะตีนั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. การตีลูกนำไปสู่พฤติกรรมที่เหมาะสมมากขึ้น

ในบางครั้งคุณเลือกที่จะตีลูก หรือทำโทษลูกด้วยวิธีการตีเพราะว่าพวกเขามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเมื่อพวกเขาถูกตีพวกเขาจะหยุดมันในทันที ถ้าพวกเขารู้สึกว่าพฤติกรรมของพวกเขามันไม่เหมาะสมจริง ๆ แต่ถ้าพวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นถูกต้องแล้ว การตีของคุณอาจส่งผลทำให้พวกเขามีพฤติกรรมที่เหมาะสมเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องและเหมาะสม ไม่ควรที่จะถูกตี

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. ทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว

ผู้ปกครอง หรือพ่อแม่เปรียบเสมือนผู้คุมอำนาจ หรือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาที่ เมื่อพวกเขามีปัญหา หรือต้องการการปกป้องพวกเขาจะคิดถึงคุณเสมอ แต่การที่คุณเริ่มตีพวกเขานั้นจะทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าพวกคุณนั้นไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเขาอีกต่อไป และอาจทำให้เขาไม่เชื่อฟังคุณอีกด้วย

 

6. คุณจะรู้สึกผิด

หลายครั้งที่คุณเริ่มที่จะลงโทษลูกด้วยการตี มักจะจบลงด้วยการที่รู้สึกผิดเสมอ การที่คุณใช้อารมณ์นำทุกสิ่งทุกอย่างและพลั้งมือตีลูกไป หลังจากนั้นเป็นคุณเองที่จะต้องมานั่งเสียใจ และรู้สึกผิดกับสิ่งที่เพิ่งทำ ทั้งที่คุณอาจมีวิธีทางแก้ไขปัญหา หรือวิธีลงโทษอื่นที่ดีกว่านี้

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ร้องไห้ แต่ไม่อยากให้ลูกเห็นและเครียดตามไปด้วย ควรจัดการอย่างไร?

 

7. ส่งผลต่อสุขภาพทางร่างกาย

แรงตีปานกลาง หรือแรงตีที่คุณตีลูกอย่างรุนแรงอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายของพวกเขาได้ เพราะการตีเข้าไปที่ก้นของเด็กนั้นจะได้รับการกระแทกที่ปลายกระดูกสันหลังส่วนล่าง และแรงกระแทกไปตามความยาวของกระดูกสันหลัง ซึ่งนั่นส่งผลอันตรายต่อร่างกายของเด็ก เด็กบางคนอาจเป็นอัมพาตเนื่องจากเส้นประสาทถูกทำลายจากการตี และบางคนเสียชีวิตการภาวะแทรกซ้อน

 

8. ตีลูก อาจนำไปสู่อาการทางจิต

การที่คุณตีลูกเพื่อเป็นการลงโทษอาจสร้างบาดแผลทางใจให้กับเด็ก ๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาอาจไม่มีพฤติกรรมต่อต้าน หรือต่อต้านคุณมากยิ่งขึ้น แต่กลับกลายเป็นการฝังใจ และทำให้พวกเขานั้นประสบปัญหาทางสุขภาพจิตได้ โดยในเด็กบางคน การถูกตีนั้นอาจเป็นผลกระทบระยะยาวต่อพวกเขาเลยก็เป็นได้

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วิธีฝึกวินัยลูก โดยไม่ต้องตี ทำอย่างไรได้บ้าง

ไม่ว่าลูกน้อยของคุณจะอายุเท่าไหร่ การฝึกให้พวกเขาอยู่ในวินัยเป็นเรื่องที่สำคัญ หากผู้ปกครองไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์อะไรมากจนเกินไป ลูกของคุณก็จะไม่เป็นเหมือนคุณเช่นกัน มาดูกันดีกว่าค่ะว่า การฝึกเด็กในแต่ละช่วงวัยให้อยู่ในกฎระเบียบ โดยที่ไม่ต้องตีลูก ทำอย่างไรได้บ้าง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีสร้างวินัยให้กับลูก ง่าย ๆ ด้วยงานบ้าน สร้างวินัยแถมเสริมความมั่นใจอีกด้วย

 

  • ทารกแรกเกิด ถึงอายุ 2 ขวบ

ทารกและเด็กเล็กมีความอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงควรกำจัดสิ่งล่อใจ และสิ่งที่ไม่ควรทำตั้งแต่แรก อาทิ โทรทัศน์ เกม มือถือ เครื่องประดับ และโดยเฉพาะอุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีสารโซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือโซดาไฟและยาควรเก็บให้ห่างมือ นอกจากนี้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่าง เช่น ขว้างปาสิ่งของ ปาอาหาร ตี กัด และปีนป่าย เป็นต้น คุณจะต้องสอนให้พวกเรารู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ โดยใช้ว่าคำว่า ไม่ แทนการตี

 

  • เด็กวัยหัดเดิน อายุ 3-5 ปี

วัยแห่งการเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่าง ๆ บางครั้งพวกเขาอาจมีจินตนาการที่มากจนเกินไป หรือใช้พลังงานทั้งหมดที่มีไปกับการเสริมสร้างทักษะทางร่างกายในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเล่น การวาดภาพระบายสี เป็นต้น เหตุการณ์ที่อาจพบได้กับทุกบ้านคือการเริ่มขีดเขียนกำแพง หรือวิ่งเล่นจนลืมกินข้าว หรือไม่อยากเลิกเล่น การลงโทษเขาด้วยการตีไม่ใช่ทางออกที่ดี คุณควรที่จะตั้งกฎเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องของการเล่น หรือบอกเหตุผลกับสิ่งที่เขาได้ทำผิดไป และแก้ไขด้วยวิธีอื่นแทน เพราะในวัยนี้พวกเขาจะเริ่มพูดรู้เรื่อง และสามารถทำตามได้โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง

 

  • เด็กอายุ 6-8 ปี

ช่วงวัยที่คุณไม่สามารถใช้กลยุทธ์หรือการให้พวกเขาทำตามสิ่งที่พวกเขาต้องการเมื่อเขาทำผิด หรือไม่เหมาะสมได้อีกต่อไป เพราะว่าพวกเขาจะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยการพูดคุยเป็นเรื่องที่สำคัญ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รับฟังคุณก็ตาม แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วเขาจะทราบเป็นอย่างดีว่าสิ่งนั้นไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ระวังอย่าขู่พวกเขามากจนเกินไป อาทิ ถ้าหากไม่เลิกดูทีวี จะไม่ได้ดูอีก ซึ่งการกระทำและคำพูดเช่นนี้อาจทำให้พวกเขาเกิดการต่อต้านได้

 

 

  • เด็กโตอายุ 9-12 ปี

เด็กในช่วงวัยนี้เป็นเหมือนกับเด็กทุกช่วงที่ผ่านมา คุณสามารถลงโทษพวกเขา หรือตักเตือนพวกเขาได้ตามธรรมชาติ แต่เมื่อพวกเขาเริ่มเติบโตเต็มที่แล้ว พวกเขาจะเรียกร้องขอความเป็นอิสระและความรับผิดชอบมากขึ้น การสอนให้พวกเขาจัดการกับผลที่ตามมาจากพฤติกรรมของพวกเขาเป็นวิธีการฝึกฝนวินัยที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กวัยนี้

 

  • เด็กที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นอายุ 13 ปีขึ้น

ลูกของคุณกำลังเข้าสู่วัยรุ่น การได้เป็นอิสระทางความคิดและพฤติกรรมนั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ ดังนั้นการที่คุณบังคับเขามากจนเกินก็อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกนั้นแย่ลงได้ ดังนั้นคุณอาจจะต้องคอยดูแลอยู่ห่าง และดึงเขากลับมาในลู่ทางที่เหมาะสมเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มมีพฤติกรรมที่เหมาะสม หรือกำลังจะทำให้เกิดพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการเรียน และสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขา

 

ถึงแม้ว่าหลายคนยังคิดว่าการตีลูกนั้นเป็นเรื่องที่ถูกและดี เพราะลูกของคุณจะได้อยู่ในกฎระเบียบ หรืออยู่ในขอบเขตที่คุณกำหนดไว้ แต่ในบางครั้งก็อาจกลายเป็นว่าคุณกำลังทำร้ายลูกของตัวเองโดยที่คุณยังไม่รู้ตัว สุดท้ายแล้วทุกอย่างล้วนมีทางออกอื่นเสมอ และความรุนแรงก็ไม่ได้เป็นทางออกสำหรับปัญหาเสมอไป

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

พฤติกรรมเลียนแบบของลูก ตัวอย่างที่ดีที่สุดของลูกคือพ่อแม่

เด็กดื้อต้องถูกทำโทษ ลงโทษอย่างไรให้ลูกหายดื้อ แต่ทำไมยิ่งทำโทษลูกยิ่งดื้อ!?!

สอนลูกอย่างไรให้เป็นเด็กที่เคารพตนเอง และยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น

ที่มาข้อมูล : verywellfamily, calm4kids, naturalchild, kidshealth

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team