วิธีทำโทษลูก พ่อแม่ควรใช้วิธีไหนดี ? เป็นคำถามที่พ่อแม่เฝ้าถามตัวเอง เวลาที่ต้องการทำโทษลูก ถ้านึกย้อนไปถึงตัวเองสมัยเด็ก ๆ พ่อแม่หลายคนคงผ่านการดุด่าและถูกตีมาไม่น้อย ซึ่งนั้นอาจกลายเป็นบาดแผลฝังลึกในใจของพ่อแม่จนโต จนพอมาถึงลูกตัวเองก็ไม่กล้าที่ทำโทษ ยอมลูกตลอด เพราะกลัวว่าลูกจะเป็นเหมือนตัวเอง บทความนี้จะพาไปดูวิธีทำโทษลูกโดยไม่ทำให้ลูกเจ็บปวดค่ะ
การทำโทษลูก ส่งผลเสียอย่างไร ?
การศึกษาของมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UM) ของสหรัฐอเมริกาได้เผยว่า การลงโทษอย่างการตีหรือการใช้ความรุนแรง ส่งผลให้เด็กมีประสบการณ์ที่เลวร้ายในวัยเด็ก ทำให้ลูกแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ขาดการควบคุม ซึ่งเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี และมีประสบการณ์เลวร้ายจากการลงโทษอย่างรุนแรงนั้น จะส่งผลต่อร่างกาย จิตใจ เมื่อเด็กโตไปก็จะมีพฤติกรรมที่รุนแรง ยิ่งหากไม่ได้รับการใส่ใจจากพ่อแม่ หรือพ่อแม่เสียชีวิต ก็ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่รุนแรงมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม การลงโทษด้วย “การตีลูก” หรือ “การใช้ความรุนแรง” กับเด็กนั้น ยังส่งผลเสียต่อตัวเด็ก ดังต่อไปนี้
- สภาพจิตใจย่ำแย่
- เลียนแบบพฤติกรรมที่รุนแรง
- มีพฤติกรรมก้าวร้าว เจ้าอารมณ์
- ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือคุณครู
- ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว
- ทำให้ลูกเกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีในวัยเด็ก
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลงโทษลูกน้อย อย่างไรให้ลูกหายดื้อ ทำไม ยิ่งทำโทษลูกยิ่งดื้อ!
ถ้าลูกยังเล็กอยู่ควรลงโทษลูกอย่างไร ?
สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกอายุ 1-3 ขวบ อาจสงสัยว่าควรลงโทษลูกอย่างไรดี อย่างไรก็ตาม การลงโทษลูกในวัยนี้อาจไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่พ่อแม่ควรทำ เพราะลูกในวัยเตาะแตะมีโอกาสทำผิดน้อย และเด็กยังไม่ได้เรียนรู้ว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่าการลงโทษลูกเล็กนั้น อาจทำในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งวิธีการลงโทษลูกวัยเด็กนั้น อาจใช้วิธีการดังต่อไปนี้
- บอกลูกว่าอะไรเป็นพฤติกรรมที่ดีและไม่ดี ควรบอกลูกเมื่อเขาทำผิดทันที อย่ารอเวลา ไม่เช่นนั้นลูกจะไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำผิดและทำไมตัวเองจึงถูกทำโทษ
- อย่าขู่ลูกเด็ดขาดและอย่าเดินทิ้งลูกไป เพราะนอกจากจะทำให้ลูกร้องไห้ อึดอัด หรือไม่เข้าใจแล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจของเด็กอีกด้วย
- อย่าลงโทษลูกอย่างรุนแรงมากเกินไป เพราะเด็กวัยนี้ต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ หากพ่อแม่เผลอลงโทษลูกอย่างรุนแรง ก็จะทำให้เขากลัวพ่อแม่และเกิดปมในใจ
วิธีทำโทษลูก ไม่ให้ลูกเจ็บปวด
สำหรับพ่อแม่ที่ต้องการจะทำโทษลูก อยากจะให้ลูกรู้จักว่าอะไรผิด อะไรถูก แต่ไม่อยากใช้วิธีการลงโทษที่รุนแรง วันนี้เรามีข้อแนะนำสำหรับพ่อแม่ ดังต่อไปนี้
1. ฟังก่อนคิด
ก่อนที่พ่อแม่จะตัดสินใจว่าลูกผิดหรือถูก ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน ในระหว่างนั้นควรดูสีหน้า อาการ ท่าทาง น้ำเสียงของลูกด้วย ดูว่า ลูกมีความรู้สึกต่อเหตุการณ์นั้น ๆ อย่างไร โดยที่พ่อแม่ต้องแสดงให้ลูกรู้สึกว่าคุณสนใจและเข้าใจในสิ่งที่ลูกพูดอยู่ เพื่อที่ลูกน้อยจะได้รับรู้ว่าเรื่องที่ได้พูดหรือเหตุการณ์ที่เขาได้กระทำไป มีคนคอยรับฟังและเข้าใจตัวเขาอยู่
2. ตัดสินด้วยเหตุผล
หลังจากที่ลูกน้อย ได้อธิบายความรู้สึกของตัวเองให้พ่อแม่ฟังแล้ว และตัวน้องเริ่มมีการอาการที่สงบลง ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าการกระทำที่ลูกได้ทำไปนั้น มันผิดอย่างไร ทำไมพ่อแม่ถึงต้องลงโทษ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกดื้ออย่าเพิ่งดุ อย่าเพิ่งด่า วิจัยบอกว่า เด็กดื้อจะประสบความสำเร็จ
3. ส่งสัญญาณก่อนลงโทษ
ถ้าพ่อแม่เห็นว่าลูกยังทำผิด แม้ว่าจะพูดคุยกันด้วยเหตุผลแล้วก็ตาม สิ่งที่พ่อแม่ควรทำควรส่งสัญญาณให้เขารู้ก่อนลงโทษ ไม่ใช่ลงมือทำโทษลูกทันที โดยพ่อแม่อาจใช้น้ำเสียงที่เข้มขึ้น โดยในที่นี้อาจไม่ใช่การดุด่าว่าลูก แต่เป็นการบอกลูกให้หยุดและให้รีบแก้ตัว ก่อนจะถูกลงโทษ
4. ลงโทษอย่างเข้าใจ
เมื่อพ่อแม่บอกถึงสาเหตุที่ต้องลงโทษลูกไปแล้ว และได้บอกว่าทำไมถึงต้องทำโทษลูก ขั้นตอนต่อมา คือการเลือกวิธีลงโทษให้กับลูก ซึ่งวิธีนั้นจะต้องไม่สร้างบาดแผลในวัยเด็กให้กับตัวลูกน้อยในอนาคต โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
- เริ่มจากการตัดสิทธิ์ที่จะให้ลูกทำสิ่งที่ชอบ เช่น ดูทีวี เล่นเกม กินขนม หรืออดไปเล่นกับเพื่อน
- หากลูกไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนเกิดกระทำผิดขึ้นมา ก็ควรให้หยุดทำกิจกรรมนั้น แล้วปล่อยให้เขาสงบอารมณ์ตัวเอง โดยอาจปล่อยให้ลูกได้อยู่ในมุมสงบที่ปลอดภัย ไม่มีสิ่งรบกวน
- ให้ลูกได้ลองทำงานบ้าน เพื่อเป็นการชดเชยความผิด เช่น ให้ลูกล้างจานหรือให้รดน้ำต้นไม้ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เป็นต้น
- ขอเวลานอก โดยลองเพิกเฉยลูกเมื่อเข้ามีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ แต่หากลูกมีพฤติกรรมที่ดีขึ้นก็ลองให้คำชมเขา สิ่งนี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตีลูกดีไหม ลงโทษลูกอย่างไร ให้ลูกได้บทเรียน แต่แม่ไม่ปวดใจ
5. ชวนคิดแก้ปัญหา
หลังจากที่พ่อแม่ลงโทษลูกน้อยเสร็จแล้ว ก็ควรพาลูกมาทำความเข้าใจอีกครั้ง โดยเริ่มที่ประโยคว่า “ครั้งหน้าเราจะทำอย่างไรดี ?” ชวนลูกคิดและหาวิธีแก้ปัญหาว่า ถ้าครั้งหน้าเกิดเหตุการณ์ที่อาจทำให้ลูกทำความผิดอีก เราจะใช้วิธีไหนดี โดยพ่อแม่ต้องฟังและคอยชี้แนะเหมือนเป็น “เพื่อนช่วยคิด”
การทำโทษลูกอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง พ่อแม่ควรอธิบายให้ลูกฟังก่อนว่าการกระทำที่ลูกได้ทำไปนั้น มันผิดอย่างไร ทำไม่พ่อแม่ถึงต้องลงโทษ แต่หากลูกยังดื้อรั้นและยังทำผิดอยู่ซ้ำ ๆ พ่อแม่อาจลงโทษเขาโดยเริ่มจากวิธีเบาก่อน ๆ ไม่ลงโทษลูกด้วยความรุนแรง เพราะนั่นอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
บทสวดแก้ลูกดื้อ ลูกซน ลูกไม่ยอมฟัง พ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไร ลองใช้วิธีนี้ !
สยบ ! ลูกดื้อ เอาแต่ใจ ด้วย Positive Parenting เทรนด์ใหม่ของการเลี้ยงลูก
5 วิธีปราบลูกดื้อ ทำยังไงดีเมื่อลูกดื้อ วิธีปราบลูกอย่างสร้างสรรค์ ทำอย่างไร ?
ที่มา : healthychildren, Facebook: สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์, neurobalanceasia, sanook, happymom
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!