การเตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ความกังวลใจเรื่องพี่คนโต ก็หนักหนาไม่แพ้กันใช่ไหมคะ อาการ พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก เมื่อกำลังจะมีน้อง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแทบทุกบ้านค่ะ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะเรามีวิธีรับมือที่อบอุ่นและได้ผลจริงมาฝาก
เจาะลึกหัวใจ (ว่าที่) พี่คนโต
วินาทีที่พี่คนโตรู้ว่า “กำลังจะมีน้อง” โลกทั้งใบของเขากำลังสั่นสะเทือนค่ะ พฤติกรรมของลูกอาจเปลี่ยนไป จากเด็กที่น่ารัก กลายเป็นเด็กขี้อ้อนเอาแต่ใจ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นเด็กนิสัยไม่ดี หรือไม่รักน้อง แต่ความรู้สึกที่เขากำลังเผชิญอยู่ คือ ความกลัว กลัวว่าน้องจะขโมยพ่อแม่ไป กลัวว่าพ่อแม่จะไม่รักเขาเท่าเดิม กลัวว่าเขาจะต้องโดดเดี่ยว
ในทางจิตวิทยา นี่คือปรากฏการณ์ที่เรียกว่า การถูกปลดจากบัลลังก์ ตามทฤษฎีของ อัลเฟรด แอดเลอร์ (Alfred Adler) นักจิตวิทยาชื่อดังค่ะ
ลูกคนโตของเราเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เป็นหนึ่งเดียวที่ได้รับความรัก ความสนใจ และเวลาทั้งหมดจากพ่อแม่ แต่การมาถึงของน้องใหม่ ทำให้เขาต้องแบ่งปันทุกอย่างให้กับเด็กตัวเล็กๆ ที่ร้องไห้ตลอดเวลา
ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่พี่คนโตจะรู้สึกไม่มั่นคง สับสน และเกิดความรู้สึก พี่คนโตน้อยใจ ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นปฏิกิริยาปกติของเด็กที่กำลังพยายามปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตค่ะ

พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป คือสัญญาณเตือนที่ห้ามปล่อยผ่าน
เมื่อความกลัวและความกังวลเข้าครอบงำ เด็กๆ มักแสดงออกผ่านพฤติกรรมค่ะ
- จากเด็กที่ร่าเริงและมั่นใจในตัวเองกลับน้อยใจและร้องไห้ง่าย
- อะไรเคยทำได้เอง กลับไม่ยอมทำเอง และขอให้พ่อแม่ช่วย
- จากที่ไม่ยอมให้ใครอุ้ม กลับอ้อนขอให้พ่อแม่อุ้มบ่อยขึ้น
- ติดแม่มากกว่าเก่า พอแม่เล่นด้วยไม่ได้ทันที ก็จะร้องไห้งอแง
อาการเหล่านี้ทางการแพทย์เรียกว่า “พฤติกรรมถดถอย” ซึ่งไม่ใช่การแกล้งทำ หรือ เรียกร้องความสนใจ แบบไม่มีเหตุผลนะคะ แต่คือการทำงานของจิตใต้สำนึกที่เชื่อมโยงกับ ทฤษฎีความผูกพัน (Attachment Theory) ของ จอห์น โบว์ลบี (John Bowlby)
ทฤษฎีนี้อธิบายว่า เด็กต้องการความรู้สึก “มั่นคงปลอดภัย” (Secure Base) จากผู้เลี้ยงดูหลัก ซึ่งก็คือพ่อแม่ เมื่อเด็กรู้สึกว่าความมั่นคงนั้นกำลังถูกสั่นคลอน เพราะน้องกำลังจะมาแย่งแม่ไป เขาจะทดสอบความรักของแม่ทันที
การที่เขากลับไปทำตัวเหมือนเบบี๋อีกครั้ง เช่น อ้อนอุ้ม ไม่ยอมกินข้าวเอง คือคำถามที่ซ่อนอยู่ว่า… “ถ้าหนูกลับไปเป็นเด็กเล็กๆ เหมือนน้อง แม่จะยังรักและดูแลหนูเหมือนเดิมไหม?”
ดังนั้น การที่ พี่คนโตน้อยใจ และแสดงพฤติกรรมถดถอย จึงเป็นสัญญาณว่าเขากำลัง “เช็กความมั่นคงทางใจ” และต้องการความมั่นใจจากพ่อแม่อย่างเร่งด่วนที่สุดค่ะ

4 วิธีรับมือ พี่คนโตน้อยใจ กลัวแม่ไม่รัก
เมื่อเราเข้าใจสาเหตุ และอาการแล้ว ก็ถึงเวลารับมือค่ะ theAsianparent ขอนำ 4 วิธีรับมือในเชิงจิตวิทยา เพื่อให้คุณแม่เห็นภาพชัดเจนว่าทำไมวิธีเหล่านี้ถึงได้ผล ดังนี้
1. สำคัญไม่เปลี่ยน
เด็กต้องการความสม่ำเสมอค่ะ การที่พ่อแม่ยังคงทักทาย กอด และให้ความสำคัญเขาก่อน เช่น กลับถึงบ้าน ทักพี่คนโตก่อนทักน้องในเปล เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ลำดับความสำคัญของหนูยังอยู่เหมือนเดิม ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกมั่นคง และลดอาการ พี่คนโตน้อยใจ ได้อย่างดีเยี่ยม
2. ไม่เปรียบเทียบ
การเปรียบเทียบคือเชื้อเพลิงชั้นดีที่สุมไฟความอิจฉาริษยาระหว่างพี่น้อง ตอกย้ำให้พี่คนโตรู้สึกว่าเขาต้อง แข่งขันกับน้อง เพื่อแย่งชิงความรักจากพ่อแม่ และบั่นทอน ความภาคภูมิใจในตนเอง (Self-Esteem) ของลูกอย่างรุนแรง (อ้างอิงแนวคิดจาก Adele Faber และ Elaine Mazlish ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารกับลูก) แค่หยุดเปรียบเทียบ อาการ พี่คนโตน้อยใจ ก็ลดลงไปกว่าครึ่งแล้วค่ะ
3. เวลาทอง สองต่อสอง
คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณค่ะ คุณแม่ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ต้องดูแลน้องตลอดเวลา แค่มีเวลาคุณภาพวันละ 10-15 นาที ที่เป็นเวลาของ แม่กับหนูสองคนเท่านั้น โดยไม่มีน้องมาขวางกั้น อาจเป็นตอนน้องหลับ หรือคุณพ่ออุ้มน้องก็ได้
เวลานี้ใช้ทำกิจกรรมง่ายๆ เช่น อ่านนิทานก่อนนอน, คุยกันเรื่องที่โรงเรียน, หรือแค่กอดกันเฉยๆ ก็ทำให้พี่คนโตรู้สึกว่าเขายังเป็นคนพิเศษของแม่
4. เลื่อนขั้นเป็น ผู้ช่วยคนสำคัญ
การให้พี่คนโตเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ ทำหน้าที่เลือกของเล่น และของใช้ให้น้อง รวมถึงตั้งชื่อเล่นให้น้องด้วย วิธีนี้สอดคล้องกับทฤษฎีพัฒนาการทางจิตสังคมของ Erik Erikson ค่ะ ในช่วงวัยอนุบาล (ประมาณ 3-6 ปี) เด็กจะอยู่ในขั้น “การคิดริเริ่ม ปะทะ ความรู้สึกผิด” (Initiative vs. Guilt)
- Guilt (ความรู้สึกผิด): เกิดขึ้นเมื่อเขารู้สึกว่าตัวเอง “ไร้ค่า” “ถูกทิ้ง” “เป็นส่วนเกิน” (ซึ่งนี่คือความรู้สึกของ พี่คนโตน้อยใจ)
- Initiative (การคิดริเริ่ม): เกิดขึ้นเมื่อเขารู้สึกว่าตัวเอง “มีความสามารถ” “มีหน้าที่” และ “ทำประโยชน์ได้”
การเลื่อนขั้นให้พี่คนโตเป็น ผู้ช่วยคนสำคัญ คือการดึงเขาจากฝั่ง “Guilt” มาสู่ฝั่ง “Initiative” ทันที เขาจะเปลี่ยนบทบาทจาก ผู้สูญเสีย ที่ถูกแย่งแม่ไป กลายเป็น ผู้มีอำนาจและความสามารถ ที่ช่วยแม่ดูแลน้องได้ นี่คือวิธีเปลี่ยนความน้อยใจให้เป็นความภาคภูมิใจที่ดีที่สุดค่ะ
ด้วยความรักที่สม่ำเสมอ การสื่อสารที่จริงใจ การให้เวลาคุณภาพ (แม้จะสั้นๆ) และที่สำคัญที่สุด คือการ มอบบทบาทใหม่ ที่น่าภาคภูมิใจให้เขา ลูกน้อยของเราจะค่อยๆ ก้าวข้ามความกลัวและความโดดเดี่ยว เปลี่ยนจาก พี่คนโตขี้กลัว กลายเป็น พี่คนโตผู้เป็นผู้ช่วยคนสำคัญของพ่อแม่ และดีใจที่มีน้องมาเป็นเพื่อนเล่นคนใหม่ในที่สุดค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เคล็ดลับ เตรียมลูกคนโตให้พร้อมมีน้อง สร้างสัมพันธ์พี่น้อง รักกัน ไม่อิจฉากัน
10 เคล็ดลับในการรับมือ พี่น้องแย่งของเล่น ปัญหาที่ทำให้คุณแม่ปวดหัว !
ที่มา
Psychowellness Center. (n.d.). Pressure That the Eldest Child Faces: Adler’s First Order. https://www.psychowellnesscenter.com/Blog/pressure-that-the-eldest-child-faces-adlers-first-order/
McLeod, S. (2024). John Bowlby’s Attachment Theory. Simply Psychology. https://www.simplypsychology.org/bowlby.html
Cherry, K. (2023). Initiative vs. Guilt: Stage 3 of Psychosocial Development. Verywell Mind. https://www.verywellmind.com/initiative-versus-guilt-2795737
Child Mind Institute. (n.d.). Preparing Your Child for a New Sibling. https://childmind.org/article/preparing-child-new-sibling/
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!