หลายคนคงคิดว่า การกินผักเยอะ จะดีทั้งแม่และลูก แต่ความจริงแล้ว หากบริโภคผิดก็อาจจะส่งผลเสียให้กับเด็กทารกที่อยู่ในท้องได้เช่นกัน เนื่องจากเมื่อตั้งครรภ์ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอ และติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย เมื่อกินอาหารดิบ ๆ ล่าสุด ประเทศจีน ทารกแรกเกิด 2 วัน มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เพราะแม่กินผักดิบมากเกินไป และไม่ได้ล้างอย่างถูกวิธี
แม่ท้องกินสลัดผักกาดมากเกินไป ทำให้ ทารกแรกเกิด 2 วัน ติดเชื้อแบคทีเรีย
ตามที่ Sohu แพทย์ Huang Junbin ที่ทำงานในระบบโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า แม่วัย 32 ปี เพิ่งคลอดทารก เมื่อ 2 วันก่อน เมื่อทารกแรกเกิดของเธอได้เข้าตรวจร่างกาย เธอก็ได้รับวินิจฉัยว่า เป็นแบคทีเรีย Listeria monocytogenes ซึ่งเป็นสาเหตุที่เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
หมอได้กล่าวอีกว่า หลังคลอดรู้สึกว่า ลูกอ่อนแรง แพทย์จึงได้ตรวจสอบว่า และพบว่า ทารกมีภาวะขาดออกซิเจนในเลือดบ่อยครั้ง จึงพาไปที่ห้องเฝ้าสังเกตอาการของทารกแรกเกิด เพื่อรับการรักษา เพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อในเด็กแรกเกิด
หมอจึงถามเธอ เพราะรู้ว่าเธอชอบกินผักสด โดยเฉพาะผักกาดหอม น้ำสลัด เพราะเธอเองหวังว่ากินแล้วลูกจะฉลาด ซึ่งหมอได้บอกเธอว่า การที่เธอกินผักกาดในสลัดนั้นเธอไม่ได้ล้างทำความสะอาดที่ถูกต้อง ทำให้ยังมีแบคทีเรียเข้าไปสู่ร่างกาย และส่งผลเสียกับลูกของเธอ
หลังจากที่แม่ติดเชื้อแบคทีเรียแล้ว แบคทีเรียพวกนี้ จะถูกส่งไปยังทารกในครรภ์ ทางเลือดหรืออุจจาระ ซึ่งสามารถเป็นพาหะของแบคทีเรียได้ หลังจากที่ถูกขับออกมาแล้ว โครงสร้างของร่างกายผู้ที่ตั้งครรภ์นั้นจะถ่ายโอนไปยังช่องคลอด และทารกในครรภ์ ทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อได้
แบคทีเรียชนิดนี้รุนแรง อาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด แพทย์จึงเน้นย้ำว่า สตรีมีครรภ์มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารดิบ อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรือ ล้างให้สะอาด เพราะเมื่อเชื้อแบคทีเรียพวกนี้เข้าสู่ร่างกายแม่ ก็จะทำให้ทารกในครรภ์ติดเชื้อได้เช่นกัน และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
วิธีป้องกันแบคทีเรีย Listeria ระหว่างตั้งครรภ์
Listeria monocytogenes ส่วนใหญ่จะเจอในอาหารแช่แข็ง ผักสด และปลาดิบ แบคทีเรีย จะแข็งแรงมากในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน พวกแบคทีเรียสามารถอยู่รอดได้ใน อุณหภูมิ -4 องศาเซลเซียส จำพวก สลัด ผักกาดหอม ปลาดิบในสลัด ซาซิมิล้วน พวกนี้ มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นแม่ ๆ อาจจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกนี้
การรับประทานผักดิบที่ปลอดภัย และสตรีมีครรภ์ ควรเลือกซื้อผักสด ที่สะอาด ถูกหลักอนามัย ควรล้างให้สะอาด ผักกาดควรแยกใบ โดยล้างทีละใบให้สะอาด เปิดน้ำไหลผ่าน และควรล้าง 2 – 3 ครั้ง และนอกจากปลาดิบแล้ว สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินเนื้อสัตว์หายาก ตับสัตว์ นมไม่พาสเตอร์ไรส์ กวยจั๊บ ไขดิบ เพราะสามารถพบเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
วิธีการเลือกซื้อผักและผลไม้ให้ปลอดภัยไร้สารเคมี
- เลือกซื้อผักและผลไม้ที่สีสันไม่ฉูดฉาด ไม่มีคราบดิน หรือคราบสีขาวของสารเคมีกำจัดพืช ไม่มีจุดดำ ๆ หรือเชื้อรา หรือกลิ่นที่ผิดปกติ
- เลือกซื้อผัก ที่มีรูเจาะ หรือรอยแทะของหนอนอยู่บ้าง เช่น มด เพลี้ย
- ถ้าเป็นผักและผลไม้ในห้อง ควรเลือกที่มีฉลากถูกต้อง เพื่อสามารถตรวจสอบ ที่มาของผัก และผลไม้ได้ เช่น การตรวจสอบเลขสถานที่ผลิต หรือสถานที่นำเข้าของผัก และผลไม้
- เลือกซื้อผักและผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากผักที่เกิดตามฤดูกาลจะเจริญเติบโตได้ดีกว่านอกฤดูกาล ทำให้ปุ๋ยและการใช้สารเคมีลดลง
- เลือกซื้อผักพื้นบ้าน ตามที่อยู่ หรือผักที่ปลูกเองได้ง่าย ๆ
- ไม่ซื้อผักชนิดเดิมมากินประจำ ควรกินหลากหลายสลับกัน เพื่อคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ผักผลไม้ 5 สี กินแล้วดีอย่างไร? เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี ประโยชน์เพียบ!!
วิธีล้างผักและผลไม้เพื่อลดสารตกค้างของสารเคมี และยาฆ่าแมลง
1. ใช้ผงฟู
- ใช้ผงฟู Baking Soda ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำอุณหภูมิปกติ 1 กะละมัง หรือ ปริมาตร 20 ลิตร
- แช่ทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีนี้จะช่วยลดสารเคมีตกค้างได้ถึง 80 – 95 %
2. การใช้น้ำไหลผ่าน
- เด็ดผักออกเป็นใบ ๆ ล้างออกด้วยน้ำสะอาดไหลผ่านต่อเนื่อง และใช้มือถูเบา ๆ
วิธีนี้จะช่วยลดสารเคมีตกค้างได้ถึง 54 – 63 %
3. ใช้ด่างทับทิม
- ใช้ด่างทับทิมประมาณ 20 – 30 เกล็ด ละลายในน้ำอุณหภูมิปกติ ประมาณ 4 ลิตร
- แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ ประมาณ 10 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีนี้จะช่วยลดสารเคมีตกค้างได้ 35 – 45 %
4. ใช้น้ำส้มสายชู 4
- ใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำประมาณ 4 ลิตร
- แช่ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีนี้ช่วยลดสารเคมีถึง 29 – 38 %
5. ใช้เกลือ
- ใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ละลายในน้ำประมาณ 4 ลิตร
- แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีนี้ช่วยลดสารเคมีถึง 27 – 38 %
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
6 ผักเพื่อสุขภาพ กินผักอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด และควรกินเท่าไหร่ถึงจะดีต่อสุขภาพ?
ท้องกินหอยดอง เสี่ยงท้องเสีย อันตรายของดิบ ของดอง คนท้องติดเชื้อเสี่ยงเสียชีวิต
วิธีเก็บรักษาผักสด วิธียืดอายุผักสด ลดปัญหาผักเน่าเสีย จะทิ้งก็เสียดาย!
ที่มา : webtretho