เมื่อแม่ท้องอยากป้องกันตนเองจาก Covid – 19 คนท้องกินกระชายได้ไหม กระชายเป็นสมุนไพรยอดฮิตที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในมื้ออาหาร และยา โดยคุณแม่อาจไม่รู้เลยว่า อาจทำให้มีความเสี่ยงภาวะอันตรายต่าง ๆ ได้ การทานกระชายจึงต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ทานบ่อยจนเกินไปสำหรับมื้ออาหาร หรืองดไปก่อนได้หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
มาทำความรู้จักกระชายกันก่อน
กระชาย (Fingerroot) เป็นไม้ล้มลุก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในพื้นที่เขตร้อนบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จึงมักถูกนำมาเป็นส่วนประกอบการทำอาหารประเภทแกง และใช้เป็นยาช่วยบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ ได้ กระชาย มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ กระชายเหลือง (กระชายขาว), กระชายดำ และกระชายแดง ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายนี้เอง อาจทำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทานกระชายไปในมื้ออาหารโดยไม่รู้ตัว แล้วกระชายปลอดภัยสำหรับคนท้องหรือไม่
บทความที่เกี่ยวข้อง : 11 สมุนไพรอันตราย ยามตั้งครรภ์ห้ามใช้เด็ดขาด !
คนท้องกินกระชายได้ไหม ?
ศ. นพ.สุรเดช หงส์อิง คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต สรุปถึงข้อมูลของกระชายมีสรรพคุณที่ดีในหลาย ๆ อย่าง และมักพบเจอในเมนูอาหารมากกว่าเจอในรูปแบบยา การทานกระชายต้องระวังปริมาณการทานให้ดี เนื่องจากกระชายเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน หากทานเกินพอดี จะทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล สามารถทำผลกระทบต่อแม่ท้องได้ เช่น อาการร้อนใน, แผลในปาก, ปัญหาเหงือกร่น, ภาวะใจสั่น และแท้งบุตร เป็นต้น แต่ด้วยวิถีชีวิตโดยทั่วไปเราสามารถพบกระชายได้ในหลายมื้ออาหาร เช่น น้ำยาขนมจีน, แกงป่า, ผัดฉ่าปลากะพง และแกงเลียง เป็นต้น
ด้วยการทานเมนูอาหารทั่วไป ไม่ได้ใช้กระชายเป็นปริมาณมากในการประกอบอาหาร หากคุณแม่ทาน 1 มื้อ / วัน ก็แทบจะไม่มีโอกาสเกิดผลกระทบต่อแม่ท้องเลย เว้นแต่ว่าคุณแม่ทานอาหารวันละหลายมื้อ และมีกระชายเป็นวัตถุดิบทุกมื้อ หากคุณแม่ชอบเมนูที่เรากล่าวไป ทานเป็นประจำทุกวันมากกว่า 1 มื้อ / วัน อาจต้องเลี่ยงไว้ก่อน หรือลดปริมาณการทานเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะแม่ท้องที่มีอาการของกรดไหลย้อน หรือโรคกระเพาะอาหาร ต้องระวัง อาการของโรคเหล่านี้จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของร่างกายหลังจากกินกระชายได้
วิดีโอจาก : DrNoon Channel
คนท้องกินกระชายช่วยป้องกัน Covid – 19 ได้ไหม ?
จากข้อมูลของ ศ. นพ.สุรเดช หงส์อิง กระชายที่นิยมนำมาทำอาหาร ยังถูกนำไปวิจัยเกี่ยวกับการใช้ป้องกัน Covid – 19 โดยมีสารสำคัญที่ชื่อว่า “Pandulatin” และ “Pinostrobin” มีส่วนทำให้เชื้อไวรัสไม่สามารถเข้า – ออกเซลล์ได้ ซึ่งยังไม่ได้มีการยืนยันอย่างชัดเจนถึงความแน่นอนของประสิทธิภาพต่อการใช้งานจริง แต่จากการทดลองกับหนูทำให้อาการปอดอักเสบของหนูดีขึ้น ถึงอย่างนั้นก็เป็นการใช้กระชายเป็นจำนวนมาก จนต้องแบ่งกินถึงหลายเวลาใน 1 วัน
การใช้กระชายเพื่อให้เห็นผลลัพธ์หากอิงจากการทดลองจะต้องใช้วิธีการ “สกัด” เท่านั้น หากทานกระชายแบบทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในมื้ออาหาร หรือซื้อแบบผงมาประกอบอาหารเอง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน ก็ไม่สามารถรับปริมาณได้เทียบเท่ากับการทดลองในการทานมื้อเดียวแน่นอน และหากทานในปริมาณมากขึ้น ก็จะทำให้ร่างกายของแม่ท้องเสียสมดุลจนเกิดอาการต่าง ๆ ตามที่กล่าวไปได้ ซึ่งต้องเน้นย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้มีผลวิจัยใด ๆ ออกมายืนยัน 100 % ว่ามีสมุนไพรใดในโลกนี้สามารถป้องกันเชื้อไวรัส Covid – 19 ได้ มีเพียงการอนุญาตให้ใช้ฟ้าทะลายโจรบรรเทาอาการในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ภายใน 72 ชั่วโมงเท่านั้น (ยาเร็ว)
ไม่ใช่แค่กระชายที่ควรเลี่ยงในปริมาณมาก
สมุนไพรบางประเภท ถือเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทำให้ร่างกายร้อนขึ้น ซึ่งไม่ใช่ผลดีต่อทารกในครรภ์ เนื่องจากทารกนั้นยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกายของคุณแม่มากจนเกินไป นอกจากกระชายที่ต้องทานในปริมาณเหมาะสมแล้ว ผลวิจัยยังยืนยันว่าสิ่งที่อันตรายกว่ากระชาย คือ “ฟ้าทะลายโจร” เพราะผลการทดลองทำให้สัตว์ทดลองตกลูก เป็นการทดลองที่ชัดเจน จากข้อมูลของมูลนิธิภิวัฒน์สาธารณสุขไทย (ภวส.) แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงนั้นสามารถเกิดขึ้นกับคุณแม่ อาจทำให้แท้งบุตรได้เช่นกัน
สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์มาจนถึงจุดนี้แล้ว อาจมีความกังวล เพราะสมุนไพรหลายประเภท พบเจอได้ทั่วไป บ้างก็ถูกนำมาใช้เป็นยา ถึงจะเลี่ยงก็อาจเจอในมื้ออาหารอีก เพื่อความปลอดภัยของแม่ท้อง และทารกในครรภ์ คุณแม่ควรปรึกษากับแพทย์ หรือนักโภชนาการ เพื่อวางแผนการทานมื้ออาหารอย่างถูกต้อง และมีความปลอดภัยมากที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ฟ้าทะลายโจร ต้านโควิด 19 เสริมภูมิคุ้มกัน แต่คนท้อง และแม่ให้นมบุตรห้ามกิน!
กระชายทานแต่พอดีก็ได้ประโยชน์
สำหรับคุณแม่ที่ไม่มีโรคเสี่ยงใด ๆ การทานเมนูอาหารที่มีกระชาย 1 มื้อต่อ 2 – 3 วัน จะช่วยลดความเสี่ยงไปได้มาก เพราะกระชายยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย หลาย ๆ ด้าน เช่น
- ในกระชายเหลืองสามารถช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ และบรรเทาอาการแน่นบริเวณหน้าอกได้
- ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงมากขึ้น ลดโอกาสกระดูกเปราะบาง
- ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ส่งผลให้มีเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- บำรุงตับ และไตให้แข็งแรง ช่วยลดโอกาสเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับตับ และไต
- สาร Alpinetin, Panduratin A, Pinostrobin และ Pinocembrin ในกระชายนั้นมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด
- หากทานเหง้าหรือรากแก่ ๆ จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ดี ด้วยการนำมาชงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร
ถึงแม้การทานกระชายในรูปแบบของวัตถุดิบเมนูอาหารเพียงไม่กี่มื้อเหมือนการทานอาหารทั่วไป จะทำให้มีความเสี่ยงน้อยลงไปมาก แต่ร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความไม่แน่นอน หากไม่ต้องการเสี่ยง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนถึงปริมาณการทานเมนูกระชายให้เหมาะสม
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินสปอนเซอร์ได้ไหม กินเกลือแร่ เพราะท้องเสียได้ไหม ?
คนท้องกินชานมได้ไหม กินได้วันละกี่แก้ว ต้องกินแค่ไหนถึงจะพอดี
ยาคูลท์ มีประโยชน์อย่างไร คนท้องกินยาคูลท์ได้ไหม ?
ที่มา : dmh, hfocus, bangkokbiznews