ที่ตรวจครรภ์ ใช้ยังไง ที่ตรวจครรภ์แบบไหนดี ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อไหร่ ที่ตรวจครรภ์ ราคา เป็นอย่างไร ราคาที่ตรวจครรภ์ แพงไหม เป็นคำถามที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนสงสัย เพราะคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์แล้วหรือไม่ แบบนี้ท้องหรือไม่ท้อง แล้วการใช้ที่ตรวจครรภ์ จะแม่นจริงไหม??? ถ้าอยากเตรียมตัวรับมือกับข่าวดี ต้อนรับสมาชิกใหม่ตัวน้อย แต่ใช้ที่ตรวจครรภ์แล้วทราบผลเลยจริงหรือไม่ เชื่อได้แค่ไหน กลัวจะดีใจเก้อ ไปหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ
แบบทดสอบการตั้งครรภ์ หรือ ที่ตรวจครรภ์ มีกี่แบบ?
การตรวจครรภ์ว่าตั้งครรภ์หรือไม่นั้น โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ นั่นก็คือ การทดสอบตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง และการตรวจครรภ์ทางห้องทดลอง
การทดสอบตั้งครรภ์ด้วยตนเอง ทำได้อย่างไรบ้าง
การทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบสำเร็จรูปที่วางจำหน่ายทั่วไป หรือการใช้ที่ตรวจครรภ์ เป็นวิธีที่นิยมแพร่หลายในประเทศทางตะวันตก และเริ่มมีการนำเข้าประเทศไทยบ้าง หลักการทดสอบเป็นหลักการเดียวกับการทดสอบในโรงพยาบาลและในคลินิกแพทย์ โดยการตรวจสอบหาฮอร์โมนเอสซีจี (hCG) ในปัสสาวะ ซึ่งฮอร์โมนนี้จะมีการสร้างโดยเซลล์ตัวอ่อนของมนุษย์
ดังนั้น การใช้ที่ตรวจครรภ์จึงสามารถตรวจสอบได้ทันทีที่มีการปฏิสนธิ และเติบโตของเซลล์ตัวอ่อนในมดลูก แต่ปริมาณของฮอร์โมนนี้จะถูกขับออกมาในปัสสาวะของคุณแม่ เมื่อมีปริมาณมากพอในระดับหนึ่ง โดยทั่วไปจะประมาณวันที่ 14 ของการปฏิสนธิ คือทันทีที่รอบเดือนไม่มาตามกำหนด ทั้งนี้การตรวจสอบฮอร์โมนเอชซีจีในปัสสาวะ ยังมีความคลาดเคลื่อนได้สูง
- หากตั้งครรภ์ แต่ระดับฮอร์โมนในบางคนไม่มากพอที่จะตรวจพบได้พบ ผลการทดสอบจะเป็นลบอยู่ในระยะเวลาหนึ่ง (ความแม่นยำของชุดทดสอบด้วยตนเองนี้ยังขึ้นอยู่กับราคา และบริษัทผู้ผลิต) หรือพูดได้ว่าถ้าผลเป็นบวกเชื่อถือได้ แต่หากเป็นผลลบ ควรตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง โดยเว้นระยะสักพัก
- หากประจำเดือนยังไม่มาตามกำหนด ควรจะต้องรับการตรวจจากแพทย์ โดยเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย เช่น ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ที่ใช้ วันเวลาที่ทำการทดสอบ
- ไม่ว่าผลการทดสอบจะเป็นบวกหรือลบ คุณควรได้รับการตรวจเพิ่มเติมจากแพทย์ ในกรณีที่เป็นบวกการตรวจเพิ่มเพื่อเป็นการตรวจร่างกายเพื่อดูแลสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ ในกรณีที่ผลการทดสอบเป็นลบ แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุต่อไป
ที่ตรวจครรภ์มีแบบไหนบ้าง ราคาที่ตรวจครรภ์ ราคาเท่าไหร่
-
ที่ตรวจครรภ์แบบที่ 1 จุ่ม ( Test Strip)
จะประกอบไปด้วย แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ (แผ่นตรวจครรภ์) และถ้วยตวงปัสสาวะ (อาจจะถ้วยตวงปัสสาวะมาให้หรือไม่มีก็ได้) ทดสอบโดย
- ให้เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง
- นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ด้านที่มีลูกศรชี้ลง จุ่มลงในถ้วยปัสสาวะ 3 วินาที
- อย่าให้น้ำปัสสาวะเลยขีดที่กำหนดในแผ่นทดสอบ เพราะจะทำให้แผ่นทดสอบหมดประสิทธิภาพการทำงาน
- นำแผ่นทดสอบออกจากถ้วยปัสสาวะ ถือไว้สักพักหรือวางไว้ในแนวนอน และต้องวางในพื้นที่แห้งสนิทเท่านั้น
- รออ่านผลการทดสอบการตั้งครรภ์ภายในเวลา 1 – 5 นาที แต่ทางที่ดีควรรอจนกว่าจะครบ 5 นาที เพื่อให้ผลแสดงออกมาอย่างถูกต้อง
- ข้อดีของชุดตรวจครรภ์แบบแถบจุ่ม คือ มีราคาถูก ใช้งานง่าย ราคาประมาณ 100 – 140 บาท
บทความที่เกี่ยวข้อง : ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม ควรใช้อย่างไร ต่างกับแบบอื่นอย่างไร
-
ที่ตรวจครรภ์แบบที่ 2 ตลับหรือหยด (Pregnancy Test Cassette)
จะประกอบไปด้วย ตลับทดสอบการตั้งครรภ์ ถ้วยตวงปัสสาวะ และหลอดหยดสำหรับดูดน้ำปัสสาวะ ทดสอบโดย
- เก็บปัสสาวะลงในถ้วยตวง แล้วนำหลอดหยดดูดน้ำปัสสาวะที่ได้ในปริมาณที่พอเหมาะ
- หยดน้ำปัสสาวะลงบนตลับทดลองที่วางไว้บนพื้นประมาณ 3 – 4 หยด ไม่ควรหยดมากกว่านี้
- วางชุดทดสอบนี้ไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อดูผลการทดสอบ
- ข้อดีของแถบตรวจแบบนี้ คือ ลดโอกาสของแผ่นทดสอบที่จะเสื่อมสภาพได้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 140 -180 บาท
-
ที่ตรวจครรภ์แบบที่ 3 ปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests)
ที่ตรวจครรภ์จะมีแค่แท่งทดสอบการตั้งครรภ์ ทดสอบโดยการ
- ถอดฝาครอบออกพร้อมกับถือแท่งทดสอบโดยให้หัวลูกศรชี้ลง
- ปัสสาวะให้น้ำปัสสาวะผ่านบริเวณที่ดูดซับน้ำปัสสาวะซึ่งจะอยู่บริเวณต่ำกว่าลูกศรให้ชุ่มประมาณ 5 วินาที
- ถือหรือวางแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ในแนวราบ และรออ่านผลได้ตั้งแต่ประมาณ 30 วินาทีเป็นต้นไป (เพื่อความชัวร์ควรรออ่านผลภายใน 3-5 นาที)
- ข้อดีคือสามารถใช้งานได้สะดวกมากกว่าชนิดอื่น เพราะไม่ต้องเก็บน้ำปัสสาวะในถ้วย จึงช่วยลดขั้นตอนในการทดสอบได้
- ข้อเสียกว่าสองแบบแรกคือจะมีราคาสูงกว่า (ราคาประมาณ 180-200 บาท)
-
ที่ตรวจครรภ์แบบที่ 4 ดิจิตอล (Digital Pregnancy Test)
คล้ายคลึงกับการปัสสาวะผ่าน แต่เป็นการแสดงผลเป็นระบบดิจิตอล ด้วยการทำงานของอุปกรณ์ตัวชี้วัด Smart Dual Sensor บอกได้ว่ากำลังตั้งครรภ์หรือไม่ และยังแสดงจำนวนสัปดาห์การตั้งครรภ์ โดยนับจากที่ไข่มีการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน ทดสอบโดยการ
- ถือแท่งทดสอบให้น้ำปัสสาวะไหลผ่านบริเวณที่ดูดซับประมาณ 5 วินาที
- ถือหรือวางแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ในแนวราบ และรออ่านผลได้ตั้งแต่ 3 นาที
- ข้อเสียคือในเมืองไทยราคาสูงที่สุดคือ ประมาณ 500-1000 บาท
การตรวจครรภ์ทางห้องทดลอง
เป็นการตรวจวัดหาฮอร์โมน HGC เหมือนกับการตรวจด้วยตนเอง ซึ่งตรวจจากปัสสาวะหรือเลือด แม่นยำและเชื่อถือได้ถึง 100% สามารถตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 7-10 ของการปฏิสนธิ
- การตรวจเลือด ควรตรวจภายใน 7 วัน ของการมีการปฏิสนธิ แต่ยังไม่ถึงกำหนดการมีประจำเดือนครั้งใหม่ และยังสามารถบอกกำหนดวันคลอดได้โดยการเทียบกับค่ามาตรฐานในเลือด แต่จะนิยมตรวจด้วยปัสสาวะมากกว่า
- ในกรณีที่การทดสอบเป็นลบ การทดสอบซ้ำ ๆ และควรตรวจการมีประจำเดือนด้วย หากประจำเดือนยังขาดไป ในขณะที่ผลการทดสอบยังให้ผลลบเช่นเดิม คุณแม่อาจจะตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ ควรตรวจให้ละเอียดอีกรอบ
- มีบางรายที่ผลการตรวจร่างกายและการทดสอบการตั้งครรภ์ ไม่สามารถให้ข้อวินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้ จนตั้งครรภ์ 6-7 เดือน บางรายมีอาการแสดงของการตั้งครรภ์ครบถ้วน แต่ไม่สามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์ได้จากการตรวจสอบของแพทย์และการตรวจทางห้องทดสอบ ในกรณีหลังนี้พบว่าสาเหตุของการเกิดอาการเหล่านี้เกิดจากความแปรปรวนทางด้านจิตใจ
คำแนะนำในการใช้งานที่ตรวจครรภ์
- อ่านคำแนะนำการใช้งานทุกครั้ง และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- เตรียมนาฬิกาดูเวลาหรือใช้นาฬิกาจับเวลาที่จะจับเวลาการทดสอบ
- ภาชนะที่ใช้ในการทดสอบควรเป็นของใหม่ ไม่ควรให้ปนเปื้อนปัสสาวะก่อนนำมาใช้การทดสอบ โดยเฉพาะการทดสอบซ้ำ ๆ
- ขณะรอเวลาอ่านผล ไม่ควรให้ภาชนะหรือชุดทดสอบอยู่ใกล้ของที่มีความร้อนสูง
- ในการทดสอบซ้ำ ควรเว้นระยะห่างจากการทดสอบครั้งแรก อย่างน้อย 2-3 วัน
- การตรวจปัสสาวะ ควรใช้ปัสสาวะหลังจากตื่นนอนตอนเช้าซึ่งจะให้ผลดีที่สุด แต่เวลาอื่นก็ได้ผลเหมือนกัน แต่สำคัญว่าต้องใช้ปัสสาวะสด ๆ หรือเป็นปัสสาวะใหม่ ๆ เท่านั้น
- ชุดทดสอบเมื่อซื้อมาแล้วสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องตามปกติได้ (ไม่เกิน 30 องศา) หลีกเลี่ยงแสงแดด และความชื้น
- เมื่อฉีกซองออกแล้ว ต้องตรวจทันทีจึงจะได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ แต่ถ้าฉีกแล้วยังไม่ตรวจก็สามารถเก็บไว้ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะหากโดนความชื้น จะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอาจทำให้ผลตรวจเกิดความผิดพลาดได้
[embed]https://youtu.be/39cBl4jWdmA[/embed]
รวม 10 ที่ตรวจครรภ์ ที่ตรวจครรภ์ยี่ห้อไหนดี ตรวจแม่น ผิดพลาดน้อย!
[product-comparison-table title="ที่ตรวจครรภ์ ที่ตรวจครรภ์ยี่ห้อไหนดี"]
1. First Sure
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ความไวสูง
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่มีความไวสูง สามารถตรวจได้แม้มีปริมาณฮอร์โมน HCG น้อย 1 กล่องประกอบไปด้วยแถบจุ่มตรวจผลและถ้วยรองปัสสาวะ รู้ผลได้ไวภายใน 1 - 5 นาที ชุดตรวจ 1 ชุดสามารถใช้ได้ 1 ครั้ง สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้เร็วสุดเมื่อครบ 7 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ ถ้าอ่านผลไม่ชัดเจนก็ควรทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังจาก 48 ชั่วโมง
สิ่งที่เราถูกใจ :
- รู้ผลไว ให้ผลที่แม่นยำ
- คู่มือที่ให้มาอ่านมีความละเอียด
- ขีดชัด ฮอร์โมนต่ำก็ตรวจเจอ
2. Check One Pregnancy Test
ชุดตรวจการตั้งครรภ์แบบหยด
Check One ชุดตรวจการตั้งครรภ์ เป็นชุดตรวจการตั้งครรภ์ประเภทหยดที่ใช้ปัสสาวะในการทดสอบการตั้งครรภ์ ซึ่งวัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกและกระดาษ และสามารถรู้ผลได้ภายใน 1-5 นาที รูปแบบการแสดงผลลัพธ์จะขึ้นเป็นขีดแถบสี โดยวิธีการทดสอบสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย การฉีกซองอะลูมีเนียมฟอยล์ออกแล้วจับแผ่นทดสอบในแนวตั้งโดยให้หัวลูกศรชี้ชง จุ่มแผ่นทดสอบลงในปัสสาวะประมาณ 10 วินาที แล้วนำขึ้นมาวางในแนวราบเพื่อรออ่านผล
สิ่งที่เราถูกใจ :
- รู้ผลไว ให้ผลที่แม่นยำ
- แถบสีชัดเจน อ่านค่าได้ง่าย
- คู่มือแนะนำอย่างชัดเจน บอกทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
3. ORCHID+Pregnancy Test
รู้ผลไว ไม่ต้องรอนาน
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ ORCHID+Pregnancy Test ที่ตรวจตั้งครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน วัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกและกระดาษ รูปแบบการแสดงผลลัพธ์เป็นขีดแถบสี อ่านผลการทดสอบได้ภายใน 1-5 นาที ใช้เทคโนโลยีการผลิตของประเทศแคนาดา ไม่ต้องเก็บน้ำปัสสาวะในถ้วยรองรับน้ำปัสสาวะ ลดขั้นตอนในการทดสอบ ใช้เทคโนโลยีการผลิตจากประเทศแคนาดา ผ่านมาตรฐาน ISO9001 และ ISO13485
สิ่งที่เราถูกใจ :
- รู้ผลไว ไม่ต้องรอนาน
- แม่นยำกว่า 99%
- ไม่ต้องเก็บปัสสาวะ แต่ปล่อยไหลผ่านและทราบผลทันที
4. GLOWY HCG Pregnancy Test
ใช้งานง่าย รู้ผลภายใน 2-5 นาที
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ GLOWY HCG Pregnancy Test ใช้สำหรับตรวจหาฮอร์โมน HCG ในปัสสาวะซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากรกเมื่อเกิดการฝังตัวของตัวอ่อนหลังจากเกิดการปฏิสนธิ สามารถตรวจได้ตั้งแต่วันแรกที่ประจำเดือนขาด ใช้งานง่าย รู้ผลภายใน 2-5 นาที และไม่ควรอ่านผลหลังจาก 10 นาที มาพร้อมถ้วยเก็บปัสสาวะ หลอดหยด และคู่มือการใช้งาน
สิ่งที่เราถูกใจ :
- รู้ผลไว ไม่ต้องรอนาน
- ตรวจจับค่า hCG ได้ไว
- คู่มือแนะนำอย่างชัดเจน บอกทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
5. Orange Test
ชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์แบบจุ่ม
ชุดตรวจการตั้งครรภ์ ชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์แบบจุ่ม ส่วนประกอบหลักวัสดุใช้พลาสติกและกระดาษ ผลิตโดยประเทศแคนาดา มีความไวสูงและให้ความถูกต้องแม่นยำมากกว่า 99% ในกล่องจะประกอบไปด้วย แผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ และถ้วยตวงปัสสาวะ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ที่ระดับฮอร์โมน HCG ตั้งแต่ 10 mIU เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบผลการตั้งครรภ์ไว
สิ่งที่เราถูกใจ :
- เพียงจุ่ม แล้วรอผล 1 - 5 นาที
- ให้ผลชัวร์ 99% แม้ประจำเดือนขาด 1 วัน
- ตรวจง่าย ไม่ยุ่งยาก
ยี่ห้อ |
ประเภท |
ราคา/กล่อง (บาท) |
First Sure |
แถบจุ่ม |
79 |
Check One Pregnancy Test |
หยดในปัสสาวะ |
35 |
ORCHID+Pregnancy Test |
ปัสสาวะผ่าน |
90 |
GLOWY Pregnancy Test |
แถบจุ่ม |
270-700 |
Orange Test |
แถบจุ่ม |
10-100 |
อ่านประสบการณ์จริงของคุณแม่ที่เคยใช้ที่ตรวจครรภ์ 7-11
ที่ตรวจครรภ์ 7-11 แบบไหนดี ในเซเว่นมีขายใช่ไหมคะ แล้วที่ตรวจครรภ์ราคาเท่าไหร่คะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อาการคนท้องเดือนแรก มีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง คุณอาจจะยังไม่รู้ตัว
ตรวจครรภ์เร็วสุดกี่วัน กี่วันจะรู้ว่าท้อง ท้องกี่สัปดาห์ถึงใช้ที่ตรวจครรภ์ได้
การตรวจร่างกายหญิงตั้งครรภ์ การนัดตรวจครรภ์ หมอตรวจอะไรบ้างระหว่างตั้งครรภ์ ทุกไตรมาส
ที่มา : doctor, gv-medic