น้ำคร่ำเยอะ น้ำคร่ำมาก (Polyhydramnios) คือ ภาวะที่ปริมาณน้ำคร่ำในถุงน้ำคร่ำมีมากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ theAsianparent จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะน้ำคร่ำเยอะ สาเหตุ อาการ ผลกระทบต่อลูกน้อย เพื่อให้คุณแม่ท้องสามารถดูแลสุขภาพของตนเองและลูกน้อยในท้องได้อย่างเหมาะสมค่ะ
น้ำคร่ำ คืออะไร ?
น้ำคร่ำ (Amniotic fluid) คือของเหลวสีใสหรือเหลืองอ่อนที่อยู่ภายในถุงน้ำคร่ำ โอบล้อมทารกน้อยในครรภ์มาตลอดระยะเวลาของการตั้งครรภ์ น้ำคร่ำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารก มีบทบาทหลากหลายตั้งแต่การสร้างพื้นที่ให้ทารกเคลื่อนไหว พัฒนาระบบต่างๆ เช่น ปอดและทางเดินอาหาร ไปจนถึงการปกป้องทารกจากแรงกระแทกและการติดเชื้อ น้ำคร่ำมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณและส่วนประกอบไปตามอายุครรภ์ของคุณแม่ค่ะ โดยน้ำคร่ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักถึง 98%
แม่ท้องต้องรู้! ปริมาณน้ำคร่ำปกติ ต้องแค่ไหน?
ปริมาณน้ำคร่ำจะเพิ่มขึ้นตามอายุครรภ์ โดยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีปริมาณสูงสุดประมาณ 800-1,000 มิลลิลิตร หลังจากนั้นปริมาณน้ำคร่ำจะค่อยๆ ลดลงเมื่อใกล้ครบกำหนดคลอด
น้ำคร่ำสำคัญอย่างไร ?
- ปกป้องทารก น้ำคร่ำทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันทารกจากการกระทบกระเทือนจากภายนอก เช่น การกระแทกที่หน้าท้อง
- ควบคุมอุณหภูมิ น้ำคร่ำช่วยรักษาอุณหภูมิภายในถุงน้ำคร่ำให้คงที่ ทำให้ทารกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
- ช่วยในการเคลื่อนไหว น้ำคร่ำช่วยให้ทารกเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ซึ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของกล้ามเนื้อและกระดูก
- พัฒนาปอด การที่ทารกหายใจเอาน้ำคร่ำเข้าไปในปอด ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของปอด
- ป้องกันการติดเชื้อ น้ำคร่ำมีสารที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
- บ่งชี้สุขภาพทารก การตรวจน้ำคร่ำ (Amniocentesis) สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อหาความผิดปกติทางโครโมโซมหรือความผิดปกติอื่นๆ ของทารกได้
น้ำคร่ำเป็นของเหลวที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ การดูแลสุขภาพของคุณแม่และการไปพบแพทย์ตามนัดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพของน้ำคร่ำและลูกน้อยในครรภ์ได้ค่ะ

คุณแม่ตั้งครรภ์ น้ำคร่ำเยอะ มีสาเหตุเกิดจากอะไร ?
น้ำคร่ำเป็นของเหลวที่อยู่รอบตัวทารกในครรภ์ มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก ปริมาตรของน้ำคร่ำจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุครรภ์ โดยปกติจะมีปริมาตร 30 ซีซี ที่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ เพิ่มเป็น 200 ซีซี ที่ 16 สัปดาห์ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 800 ซีซี ในช่วงกลางไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ (ประมาณ 40 สัปดาห์) หลังจากนั้นปริมาณน้ำคร่ำจะค่อยๆ ลดลง
ภาวะ “น้ำคร่ำเยอะ” หรือ “น้ำคร่ำมากผิดปกติ” (Polyhydramnios) คือภาวะที่ปริมาณน้ำคร่ำมากกว่าปกติ ซึ่งพบได้ประมาณ 1-2% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด ภาวะนี้อาจส่งผลกระทบต่อทั้งมารดาและทารกในครรภ์
ภาวะ น้ำคร่ำเยอะ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ
- ความผิดปกติของทารกแต่กำเนิด ความผิดปกติบางอย่างของทารก เช่น ความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร (เช่น หลอดอาหารตีบตัน ทำให้ทารกไม่สามารถกลืนน้ำคร่ำได้) ระบบประสาท หัวใจ หรือไต อาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำคร่ำเยอะได้
- เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกปัสสาวะมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ปริมาณน้ำคร่ำเพิ่มขึ้น
- การตั้งครรภ์แฝด การตั้งครรภ์แฝดมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ น้ำคร่ำเยอะ มากกว่าการตั้งครรภ์เดี่ยว เนื่องจากทารกแต่ละคนอาจผลิตน้ำคร่ำในปริมาณที่แตกต่างกัน หรืออาจมีการถ่ายเทน้ำคร่ำระหว่างทารกแฝด
- ภาวะซีดในทารก ภาวะซีดในทารก (Fetal Anemia) อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการผลิตและดูดซึมน้ำคร่ำ
- การติดเชื้อในครรภ์ การติดเชื้อบางชนิดในระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อปริมาณน้ำคร่ำ
- ไม่ทราบสาเหตุ ในบางกรณี อาจไม่พบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะน้ำคร่ำมาก
อาการ”น้ำคร่ำเยอะ” และผลกระทบต่อลูกน้อยในท้อง
ในคุณแม่ท้องบางรายที่มีอาการรุนแรง ภาวะน้ำคร่ำเยอะอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น รู้สึกหายใจได้ลำบาก มีอาการอึดอัดแน่นท้อง ขาบวม เป็นต้น และที่อันตรายจากภาวะน้ำคร่ำเยอะที่อาจเกิดขึ้นได้ นั่นคือ
- เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด การที่มดลูกขยายใหญ่ขึ้น อาจกระตุ้นให้เกิดการหดรัดตัวและนำไปสู่การคลอดก่อนกำหนด
- ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด แรงดันจากน้ำคร่ำที่มากเกินไป อาจทำให้ถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบพบแพทย์
- ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ภาวะนี้คือการที่รกหลุดออกจากผนังมดลูกก่อนการคลอด ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์
- ตกเลือดหลังคลอด หลังคลอด มดลูกอาจไม่สามารถหดตัวได้ดีเท่าที่ควร ทำให้เสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด
- ภาวะสายสะดือย้อย เมื่อถุงน้ำคร่ำแตก สายสะดืออาจเคลื่อนลงมาก่อนทารก ทำให้สายสะดือถูกกดทับ และทารกขาดออกซิเจนได้
- ทารกโตเร็วเกิน ในบางกรณี ภาวะน้ำคร่ำมากอาจเกี่ยวข้องกับภาวะที่ทารกมีขนาดตัวใหญ่กว่าปกติ ทำให้เกิดความยากลำบากในการคลอด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บระหว่างคลอด
- ทารกไม่กลับหัว ปริมาณน้ำคร่ำที่มาก อาจทำให้ทารกมีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวมาก ทำให้ทารกไม่กลับหัวลงมาอยู่ในท่าที่เหมาะสมสำหรับการคลอดทางช่องคลอด
- ตายคลอด ในกรณีที่รุนแรง ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะน้ำคร่ำมาก อาจนำไปสู่การเสียชีวิตของทารกในครรภ์ได้
- ภาวะเลือดไหลผิดปกติหลังคลอด หลังคลอด มดลูกอาจหดตัวได้ไม่ดี เนื่องจากถูกยืดขยายจากปริมาณน้ำคร่ำที่มาก ทำให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอดได้
การรักษาภาวะน้ำคร่ำมาก
การรักษาภาวะน้ำคร่ำมากจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปมีแนวทางการรักษาดังนี้
- การสังเกตอาการ หากภาวะน้ำคร่ำมากไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน คุณหมออาจแนะนำให้สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด โดยมีการตรวจอัลตราซาวนด์เป็นระยะ เพื่อติดตามปริมาณน้ำคร่ำและสุขภาพของทารก
- การรักษาตามสาเหตุ หากพบสาเหตุที่แน่ชัด เช่น เบาหวานในคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือการติดเชื้อในครรภ์ คุณหมอจะทำการรักษาตามสาเหตุนั้นๆ ให้กับคุณแม่ค่ะ
- การเจาะระบายน้ำคร่ำ (Amniocentesis): ในกรณีที่ภาวะน้ำคร่ำมากส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่ เช่น หายใจลำบาก หรือมีภาวะเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด คุณหมออาจพิจารณาเจาะระบายน้ำคร่ำออก เพื่อลดปริมาณน้ำคร่ำและบรรเทาอาการ
ข้อควรปฏิบัติตลอดไตรมาสของการตั้งครรภ์
- การฝากครรภ์ การฝากครรภ์และเข้ารับการตรวจตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณหมอสามารถติดตามสุขภาพของคุณแม่และทารกได้อย่างใกล้ชิด และตรวจพบภาวะผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
- การสังเกตอาการ หากคุณแม่มีอาการผิดปกติ เช่น ท้องตึงมาก หายใจลำบาก หรือมีน้ำเดิน ควรปรึกษาคุณหมอทันที
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ การปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
ภาวะน้ำคร่ำเยอะมากผิดปกติเป็นภาวะที่ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสูตินรีแพทย์ การรักษาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ หากคุณแม่มีข้อสงสัยหรือกังวล ควรปรึกษาคุณหมอที่ดูแลครรภ์คุณแม่เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
เพื่อให้ครรภ์มีคุณภาพตลอดทุกไตรมาสของการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรฝากครรภ์โดยเร็วที่สุดเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ และมาพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและครบถ้วนตามหลักโภชนาการ และทานวิตามินบำรุงครรภ์ตามที่คุณหมอแนะนำอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของคุณแม่และพัฒนาการที่สมบูรณ์ของลูกน้อยในครรภ์ เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพสูงสุดค่ะ
อ้างอิง
Polyhydramnios ภาวะน้ำคร่ำมาก โรงพยาบาลสมิติเวช https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ภาวะน้ำคร่ำมาก
น้ำคร่ำ (Amniotic fluid), สูติศาสตร์ล้านนา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ https://w1.med.cmu.ac.th/obgyn/lecturestopics/topic-review/6822/
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รวมแพ็กเกจคลอด ปี 2568 ค่าคลอดเหมาจ่าย รพ.เอกชน ในกรุงเทพฯ
22 หมอสูตินรี ที่ไหนดี ปี 2568 รวมสูตินรีแพทย์ที่คุณแม่บอกว่าดี
ลูกในครรภ์ตัวเล็ก กินอะไรดี? บำรุงยังไงให้ลูกแข็งแรง?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!