หลายคน หลายทฤษฎี หลายบทความ หลายความคิดเห็น โดยเฉพาะยุคออนไลน์แบบนี้ เราจะเชื่อข้อมูลไหนดี บอกเลยค่ะ ไม่ว่าจะทฤษฎีไหน บทความไหน ก็ไม่สามารถให้คำตอบคุณได้ ด้วยประสบการณ์ตรงของคุณเองค่ะ เช่นเดียวกับคุณดี้ ประภัสสร ที่บอกได้คำเดียวว่า จ้างพี่เลี้ยงเด็ก เกือบทำน้ำตาตก คือการ ล้มล้างทุกทฤษฎีการจ้างพี่เลี้ยงเด็ก ที่เธอเคยอ่าน
จ้างพี่เลี้ยงเด็ก เกือบทำน้ำตาตก ดูรุนแรง แต่มันคือความเป็นจริงที่ไม่สามารถจะปฏิเสธได้ คุณดี้ เป็นคนหนึ่งที่ลงมาดูแลลูกด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องการ คนที่มาแบ่งเบาภาระ เนื่องจากคุณดี้เองนั้น ก็มีความจำเป็นในการทำงานด้วยเช่นกัน และการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของเธอ คือสิ่งแรกที่เธอจะต้องทำ
การหาพี่เลี้ยงเด็ก
ย้อนกลับไปสมัยลูกยังแบเบาะ การหาคนมาช่วยดูแลลูกน้อย หาไม่ยากค่ะ แต่ถ้าจะหาที่ดี ๆ นั้นช่างหายากยิ่งกว่าการงมหาเข็มในมหาสมุทรเลยทีเดียว คุณดี้ ทั้งหาข้อมูลจากเพื่อนบ้าน ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ตามหนังสือ สารพัดที่จะหาอ่านได้ และจบท้ายที่ศูนย์บริการจัดหาพี่เลี้ยงเด็ก ชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
เมื่อเข้าไปภายในพื้นที่ศูนย์จัดหาพี่เลี้ยงเด็กนั้น ทั้งโล่ประกาศ ทั้งใบรับรองต่าง ๆ มีวางให้เกลื่อนศูนย์ไปหมด อีกทั้งเอกสารประกอบที่ให้คุณแม่ ๆ ที่เข้าไปใช้บริการ ได้ดูข้อมูลว่า พี่เลี้ยงที่ศูนย์จะผ่านการอบรมอะไรมาบ้าง 1 2 3 4 นั่นทำให้ความมั่นใจคุณดี้นั้น มีเพิ่มขึ้นเป็นกอง ว่าฉันมาถูกที่แล้วนั่นเอง
และในที่สุด คุณดี้ได้บอกว่า เธอยอมจ่ายค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็กราคาแพง เพื่อให้ได้พี่เลี้ยงที่มีรางวัลการันตี ว่าเป็นพี่เลี้ยงเด็กอันดับหนึ่งของศูนย์นั้น เพราะความต้องการที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และการดูแลที่ดีที่สุดให้กับลูกของเธอนั่นเอง
การจ้างพี่เลี้ยงเด็ก
อย่างที่ทราบกันดีว่า การจ้างพี่เลี้ยงเด็กนั้น จะมีแบบที่จ้างแบบ มาเช้า – เย็นกลับ และอีกแบบหนึ่ง คืออยู่กับที่บ้านของเราเลย โดยเวลาทำงานของพี่เลี้ยงเด็กนั้น จะถูกกำหนดเอาไว้ต่อวัน ไม่เกิน 8 – 10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับข้อตกลง ระหว่างผู้จ้าง กับทางศูนย์ และตัวพี่เลี้ยงเด็ก
โดยคุณดี้ ได้เล่าว่า เธอได้เลือกแบบให้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอเลย เพื่อความสะดวกสบาย ทั้งของตัวผู้ว่าจ้างเอง และตัวพี่เลี้ยงเด็ก โดยอัตราค่าจ้างนั้น ก็เป็นไปตามข้อตกลงกับทางศูนย์จัดหาพี่เลี้ยงเด็กนั่นเอง และแน่นอนว่า พี่เลี้ยงที่มีรางวัลพ่วงท้าย เงินเดือนก็ย่อมจะสูงกว่าพี่เลี้ยงทั่วไปที่ไร้โล่รางวัลแน่นอน
เหตุการณ์ระทึกในวันแรก
คุณดี้ได้เล่าประสบการณ์ในวันแรกที่พาลูกน้อยกลับจากโรงพยาบาล เนื่องจากลูกของคุณดี้นั้น มีน้ำหนักตัวที่มากในเวลาคลอด ช่วงตัวเด็กจึงเป็นปล้อง ๆ ทำให้คุณดี้ จะห่วงเรื่องความอับชื้นตามซอก ตามร่องเนื้อของลูกน้อย จึงกำชับทางพี่เลี้ยงให้ทาแป้งให้กับเด็ก เพื่อลดความอับชื้นที่จะเกิดขึ้น
แต่พี่เลี้ยงได้บอกห้ามการใช้แป้งฝุ่นทาบนตัวเด็กแรกเกิด ว่าจะทำให้เกิดละอองฝุ่น ซึ่งส่งผลให้เกิดอันตรายกับระบบหายใจของเด็ก แต่นำโลชั่นสำหรับเด็กมาทาลงบนตัวเด็กแทน เมื่อเวลาผ่านไปไม่เกิน 5 นาที ผิวลูกน้อยเกิดผื่นแดงขึ้นทั้งตัว และทำให้ผิวพองขึ้น จึงทำให้คุณดี้ ต้องรีบพาลูกน้อยของตน กลับไปหาคุณหมอโดยทันที
เมื่อคุณหมอเห็นเด็ก จึงเข้าใจทันทีว่ามีการทาโลชั่น หรือน้ำมันทาตัว ลงบนตัวเด็ก จนทำให้เกิดอาการนั้นขึ้นมา จึงได้แนะนำว่า ผิวเด็กจะมีความบอบบางกว่าปกติ ในช่วง 3 เดือนแรก ในช่วงเวลานี้ ไม่ควรนำอะไรมาทาลงบนผิวเด็กเด็ดขาด หากต้องการทาแป้งตามร่องเนื้อสามารถทำได้ เพียงแค่ใช้นิ้วป้ายลงตามร่องเนื้อ ไม่ทำให้ฝุ่นแป้งฟุ้งขณะทา ย่อมดีกว่าการใช้โลชั่น หรือน้ำมันทาผิวมาทาตามตัวเด็ก
เมื่อกลับมาจากการไปพบคุณหมอ คุณดี้จึงต้องกลับมากำชับกับตัวพี่เลี้ยงเด็ก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสิ่งที่คุณหมอได้กำชับมา เรื่องการทาโลชั่นลงบนผิวเด็ก แต่ปฏิกิริยาที่ได้รับกลับมาคือ ตัวพี่เลี้ยงบอกว่า เป็นเพราะเด็กมีอาการแพ้โลชั่นเอง ซึ่งเธอได้รับการฝึกมาอย่างถูกต้องอยู่แล้ว
คุณดี้จึงเข้าใจว่า บางครั้งการจ้างคนที่มีรางวัลค้ำคออยู่นั้น อาจจะทำให้เค้ามีอีโก้สูง หรือเป็นประเภทของคนที่มีน้ำเต็มแก้ว และไม่สามารถจะเติมอะไรเข้าไปได้อีก แต่ก็ต้องปล่อยผ่านไป เนื่องจากยังเป็นเพียงแค่วันแรกของการดูแลลูกน้อยของเธอนั่นเอง
การดูแลลูกน้อยระหว่างวัน
เนื่องจากลูกยังเล็ก คุณดี้จึงปูที่นอนไว้กลางบ้าน เพื่อที่จะสามารถมองเห็นลูกน้อยได้ตลอดเวลา แต่สำหรับพี่เลี้ยงเด็กนั้น ต้องการห้องส่วนตัวในการนอนพักผ่อนช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า เวลาพักผ่อน ก็ย่อมอยากมีความเป็นส่วนตัวบ้าง แต่ข้อเสนอที่ยื่นมาให้กับคนเป็นแม่อย่างคุณดี้ก็คือ ช่วงที่พี่เลี้ยงนอนกลางวัน ตัวพี่เลี้ยงเด็ก ต้องการที่จะนำ เด็กไปนอนในห้องตนเองด้วยเช่นกัน เพราะจะสามารถดูแลเด็กได้ตลอดเวลา
แต่ทางคุณดี้เองไม่สามารถไว้ใจตัวพี่เลี้ยงได้ เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่คุณดี้เคยเจอว่า พี่เลี้ยงนอนหลับในขณะที่เด็กตื่นอยู่ และอยู่ในบริเวณใกล้กับขอบที่นอน ถึงแม้ว่าจะมีความสูงไม่มากนัก แต่สำหรับเด็กเล็กก็ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายมากพอสมควร
พาเพื่อนเข้าบ้าน
เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาหลัก สำหรับการที่นำคนนอกมาอยู่ด้วยในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้าน หรือใครก็ตามที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งสมาชิกในบ้านหลังน้อยนี้ โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้า หรือการพาเข้ามาโดยพละการ
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือพี่เลี้ยงคนนี้ ได้พาแฟนเข้ามานอนเล่นในห้องส่วนตัวของเขาเอง แต่ก็เป็นพื้นที่บ้านของตัวคุณดี้ อีกทั้งยังจะพาตัวลูกน้อย เข้าไปดูแลเองในห้อง ซึ่งเมื่อคุณดี้ทราบเรื่อง จึงมีการว่ากล่าวตักเตือนกันเกิดขึ้น และไม่อนุญาตให้พาคนภายนอกเข้ามาในบ้าน เนื่องจากความปลอดภัยของคนในบ้านเอง และทรัพย์สินด้วยเช่นกัน
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะมีหลายข่าวที่มักจะเกิดการโจรกรรมเกิดขึ้น จากบุคคลที่แอบแฝงเข้ามาในบ้าน โดยที่เราไม่รู้ตัวก็มีให้ได้พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง
ฟางเส้นสุดท้าย
เมื่อหลายสิ่งดูเหมือนว่าจะไปด้วยกันไม่ได้ คุณดี้จึงตัดสินใจเลิกจ้าง โดยแจ้งไปกับทางศูนย์ว่าต้องการเลิกจ้าง ซึ่งแน่นอนว่า หลายคำถามมักจะเกิดขึ้นว่า เพราะเหตุใด เพียงแค่เดือนเดียวจึงมีการขอเลิกจ้างพี่เลี้ยงที่เรียกว่าเป็นมือหนึ่งจากทางศูนย์ ซึ่งตัวคุณดี้เองบอกเพียงแค่ว่าไม่รู้สึกโอเคเพียงแค่นั้น
หลังจากที่ส่งคืน หรือเลิกจ้างพี่เลี้ยง กลับมีกระแสเม้าท์มอย เกิดขึ้นในกลุ่มพี่เลี้ยงเด็ก ว่ามีการพูดให้ร้าย เติมสีตอกไข่ใส่มากมาย ซึ่งคุณดี้เองบอกว่า เธอได้รู้เรื่องนี้เนื่องจากเธอรู้จักกับเจ้าของศูนย์ภายหลังจากการเลิกจ้างนั่นเอง
บทเรียนจากการเลือกพี่เลี้ยงเด็ก
หลังจากที่ได้พบกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วนั้น ทำให้ขั้นตอนการเลือกพี่เลี้ยงเด็กของคุณดี้ มีหลักและขั้นตอนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งครั้งนี้คุณดี้จะไม่เน้นถึงรางวัลการันตี ประกาศนียบัตรต่าง ๆ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเอง เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ได้มีการการันตีใด ๆ ในชีวิตจริง
หลักการเลือกศูนย์พี่เลี้ยงเด็ก
คุณดี้ได้ให้หลักการในการเลือกศูนย์พี่เลี้ยงเด็ก ดังนี้
- ไม่ควรเลือกศูนย์ที่นำเสนอพี่เลี้ยง หรือขั้นตอนการฝึกพี่เลี้ยงเด็กจากเอกสารเท่านั้น หลายศูนย์ที่จัดหาพี่เลี้ยงเด็กเอง มักจะทำข้อมูลต่าง ๆ มาเป็นแฟ้มเอกสาร เพื่อนำเสนอให้กับผู้ว่าจ้าง ว่าทางศูนย์มีการอบรมเช่นไร กับคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะภาพถ่าย และตัวหนังสือ คือสิ่งที่เราสามารถจัดตั้ง แต่สร้างภาพขึ้นมาเองได้
- ขนาดความนิยมของศูนย์จัดหาพี่เลี้ยงเด็ก ไม่ได้เป็นตัววัดว่าคุณจะได้พี่เลี้ยงเด็กที่มีคุณภาพมาก หรือน้อย ตามขนาดขององคกร
- หลังจากที่คุณดี้ปฏิเสธการจ้างพี่เลี้ยงเด็กจากศูนย์ที่แรก คุณดี้จึงเริ่มมองศูนย์จัดหาที่มีขนาดเล็กลง แต่สามารถเข้าไปดูคลาสที่เปิดอบรมตัวพี่เลี้ยงเด็กได้ในศูนย์เลย ซึ่งไม่ใช่แค่ข้อมูลที่ถูกจัดทำขึ้นในแฟ้มข้อมูลแล้วนำมาให้อ่าน
- การพูดคุย สอบถามถึงทัศนคติของพี่เลี้ยงเด็ก ที่จะเข้ามาอยู่เป็นอีกส่วนหนึ่งของครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม อย่าให้ความสำคัญกับการตั้งคำถามว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะนั่นคือปราการด่านแรกที่เราจะสามารถเข้าถึงนิสัยของบุคคลนั้น ๆ ได้
จากประสบการณ์ครั้งแรกที่คุณดี้ได้ประสบปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้คุณดี้ได้นำมาเป็นกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกพี่เลี้ยงเด็กคนถัดไป ซึ่งแน่นอนว่า เป็นโชคดีที่คนถัดมา สามารถดูแลลูกน้อยของคุณดี้ได้ดี จากลูกคนแรก จนถึงลูกคนที่สอง และเติบโตจนกระทั่งเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมกันเลยทีเดียว และทุกวันนี้ลูก ๆ ของคุณดี้นั้น เติบโตมาอย่างมีคุณภาพ และยังคงติดต่อพี่เลี้ยงเด็กที่เลี้ยงดูตั้งแต่เล็กจนโต เสมือนหนึ่งคนในครอบครัวเลยทีเดียว
การเลือกพี่เลี้ยงเด็กเข้ามาอยู่ในบ้าน ในครอบครัวของเรานั้น ไม่ได้แตกต่างจากการเลือกคู่ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าเจอคนที่ดี ก็เหมือนกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง และหากเขาเข้ากับลูกเรา และครอบครัวเราได้ ก็ยิ่งกว่าการได้รางวัลแจ็คพ็อตเพิ่มเข้าไปอีก
ขอขอบคุณ คุณประภัสรา ชะโยชัยชนะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
การหาพี่เลี้ยงเด็ก 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 93
ฝากเนอสเซอรี่ VS เลี้ยงลูกเอง 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 95
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!