ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ แน่นอนว่าคุณแม่จะต้องเข้าคลินิกพบหมอบ่อย ๆ และคุณแม่จะได้รับการตรวจในช่วงตั้งครรภ์อย่างมากมาย ซึ่งคุณแม่อาจจะเคยได้ยินการตรวจที่เรียกว่า การตรวจแบบ NST วันนี้เราจะมาหาคำตอบว่า การตรวจแบบ NST คืออะไร ทำไมถึงสำคัญสำหรับแม่ท้อง
การตรวจแบบ NST คืออะไร
การตรวจแบบ NST หรือ Non-stress test เป็นการตรวจคัดกรองสุขภาพทารกในครรภ์ชนิดหนึ่ง โดยใช้การวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารกขณะที่ทารกดิ้น เพื่อประเมินว่าทารกได้รับออกซิเจนเพียงพอหรือไม่ โดยวิธีการนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด รวมถึงไม่ก่อให้เกิดความเครียดต่อแม่และเด็ก
ที่มา : medparkhospital.com
ทำไมแม่ท้องจึงควรตรวจ NST
การตรวจ NST หรือ Non-stress test นั้น มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
1. ประเมินสุขภาพทารกในครรภ์:
- ช่วยให้ทราบว่าทารกได้รับออกซิเจนเพียงพอหรือไม่
- เป็นการคัดกรองภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น ภาวะทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า ภาวะน้ำคร่ำน้อย ภาวะรกพร่อง ภาวะทารกขาดออกซิเจนเรื้อรัง
2. ติดตามสุขภาพทารกในครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง:
- เช่น ทารกตัวเล็ก
- ทารกที่มีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์
- ทารกคลอดก่อนกำหนด
3. เตรียมความพร้อมก่อนคลอด:
- ประเมินความพร้อมของทารกก่อนการคลอด
- ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจได้ว่าจะใช้วิธีการคลอดแบบใด
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้ ควรได้รับการตรวจ NST
- อายุครรภ์มากกว่า 32 สัปดาห์
- ตั้งครรภ์แฝด
- มีภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต
- ทารกมีการเจริญเติบโตช้า
- คุณแม่ที่มีกรุ๊ปเลือด Rh-negative แต่ทารกในครรภ์มีกรุ๊ปเลือด Rh-positive ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เนื่องจากร่างกายของมารดาจะสร้างแอนติบอดี้ไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของทารกในครรภ์
- น้ำคร่ำน้อย
- ทารกดิ้นน้อยลง
- เคยมีประวัติการคลอดก่อนกำหนด
- เคยมีทารกเสียชีวิตในครรภ์
การตรวจ NST มีวิธีการอย่างไร ?
การตรวจ NST เป็นการตรวจคัดกรองสุขภาพทารกในครรภ์ โดยทั่วไปจะทำเมื่อ อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ขึ้นไป โดยมีขั้นตอนการตรวจดังนี้
- คุณแม่จะต้องนอนหงายบนเตียงตรวจ
- แพทย์หรือพยาบาลจะติดเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารก (FHR) กับหน้าท้องของคุณแม่ โดยใช้สายรัดสองเส้น โดยสายเส้นแรกวัดการหดรัดตัวของมดลูก และสายเส้นที่สองวัดอัตราการเต้นของหัวใจทารก
- คุณแม่จะได้รับเครื่องควบคุมการดิ้น เพื่อกดปุ่มทุกครั้งที่รู้สึกว่าทารกดิ้น
- การตรวจมักใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
คุณแม่บางคนอาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย เช่น ปวดหลัง ตึงท้อง และทารกอาจนอนหลับระหว่างการตรวจ แพทย์หรือพยาบาลอาจใช้เสียงกระตุ้น หรือให้น้ำหวานแก่คุณแม่ เพื่อปลุกทารก
คำแนะนำก่อนการตรวจ NST
- แจ้งแพทย์หรือพยาบาลหากมี ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพร ที่รับประทานประจำ
- ปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับการตรวจ
- งดสูบบุหรี่ก่อนตรวจอย่างน้อย 30 นาที
ผลการตรวจ
- หากผลตรวจเป็น Reactive NST: แสดงว่าทารกมีสุขภาพดี หัวใจทารกมีการเต้นเร็วขึ้นอย่างน้อย 15 ครั้งต่อนาที นาน 15 วินาที อย่างน้อย 2 ครั้ง ภายใน 20 นาที
- หากผลตรวจเป็น Non-reactive NST: แสดงว่าทารกอาจมีสุขภาพไม่ดี หัวใจทารกอาจเต้นช้า หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจขณะดิ้น
กรณีผลตรวจแบบ Non-reactive NST แพทย์อาจพิจารณาให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจ CTG (Cardiotocography) หรือ การตรวจอัลตราซาวด์
ข้อควรระวังของการตรวจแบบ NST (Non-stress test)
การตรวจ NST นั้นโดยทั่วไปปลอดภัย ไม่อันตรายต่อทั้งแม่และทารก อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่ควรทราบ ดังนี้
1. ผลตรวจอาจผิดพลาดได้
- ผลตรวจ NST อาจผิดพลาดได้ positif palsu หรือ ผลลบปลอม
- positif palsu หมายถึง ผลตรวจออกมาว่าทารกมีสุขภาพไม่ดี แต่จริง ๆ แล้วทารกมีสุขภาพดี
- ผลลบปลอม หมายถึง ผลตรวจออกมาว่าทารกมีสุขภาพดี แต่จริง ๆ แล้วทารกมีสุขภาพไม่ดี
2. การตรวจ NST ไม่สามารถวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้ทั้งหมด
- การตรวจ NST สามารถช่วยคัดกรองภาวะแทรกซ้อนบางชนิด แต่ไม่สามารถวินิจฉัยได้ทั้งหมด
- แพทย์อาจพิจารณาให้ตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจ CTG (Cardiotocography) หรือ การตรวจอัลตราซาวด์
3. ผลตรวจ NST อาจสร้างความกังวลให้กับคุณแม่
- positif palsu อาจทำให้คุณแม่กังวลว่าทารกมีสุขภาพไม่ดี
- ผลลบปลอม อาจทำให้คุณแม่ประมาทคิดว่าทารกมีสุขภาพดี
4. การตรวจ NST อาจใช้เวลานาน
- การตรวจ NST มักใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
- บางกรณีอาจใช้เวลานานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการดิ้นของทารก
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าการตรวจ NST นั้น ไม่สามารถวินิจฉัยภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ได้ทั้งหมด โดยแพทย์อาจพิจารณาให้ตรวจเพิ่มเติม หากคุณแม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม คุณแม่ควรปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำจากแพทย์หรือพยาบาลที่ดูแลคุณอยู่
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อัลตร้าซาวด์ สามารถตรวจความผิดปกติ ของทารกได้หรือไม่ 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 63
อัลตร้าซาวด์กี่สัปดาห์ ถึงจะเห็นตัวเด็ก อัลตร้าซาวด์ ครั้งแรก ทำไมยังไม่เห็นตัวอ่อน ท้องลมหรือไม่
วิธีดูเพศลูกในใบซาวด์ อ่านผลอัลตร้าซาวด์ยังไง ซาวด์ตอนไหนเห็นเพศชัดสุด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!