เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อโรงเรียนได้ปล่อยให้ “น้องน้ำชา” กลับบ้านไปกับคนแปลกหน้า
คุณแม่เล่าว่า วันเกิดเหตุนั้น คุณแม่ไปรับส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ แต่ในวันั้นรถติดมาก ทำให้คุณแม่ไปรับลูกช้า ซึ่งปกติโรงเรียนจะอนุญาตให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้านได้ในเวลา 14.35 น. แต่ในวันนั้นคุณแม่ไปถึงตอน 14.50 น.
เมื่อถึงโรงเรียน คุณแม่ก็ให้คุณยายลงไปรับหลาน โดยใช้บัตรรับนักเรียนที่ผู้ปกครองทุกคนจะต้องมี จากนั้นประมาณ 5 นาที ยายโทรมาบอกว่า “น้องน้ำชา มีคนรับไปแล้ว มาด่วนเลย” แม่ถามครูที่มีหน้าที่ส่งเด็ก บอกมีผู้ชายแก่มารับไป แต่ปกติแม่เป็นคนส่ง-รับคนเดียวทุกวัน ไม่เคยให้ใครมารับแทน มีบุคลากรของโรงเรียน 6-7 คน ทำหน้ามึนงง ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าใครรับเด็กไป
เมื่อคุณแม่ถามว่าทำไมคุณครูไม่ตรวจสอบ ครูบอกว่าถามน้องแล้วว่าคนนี้ใช่หรือไม่ เด็กบอกว่าใช่ แต่ครูไม่ได้ดูป้ายว่าใช่จริงหรือไม่ เมื่อขอดูกล้องวงจรปิดครูก็บอกให้แม่ใจเย็น ๆ ขอให้รอหัวหน้า ซึ่งในตอนนั้นคนเป็นแม่รอไม่ได้แล้ว ใจมันเหมือนจะขาดให้ได้ จนหัวหน้ามาถึงได้เปิดกล้องวงจรปิดให้ดู พบว่าคนที่รับน้องน้ำชาไป เป็นชายแก่รูปร่างท้วม อายุประมาณ 65-70 ปี เดินขากะเผลกช้า ๆ
เวลา 17.30 น. เสียงวอในห้องดังขึ้นว่าเจอน้องแล้ว หลังจากสอบถามคุณตาที่รับไป บอกว่า หลานตาชื่อพัดชา แล้วตัดผมทรง ดียวกันกับน้ำชา พอครูมาส่งก็ไม่ได้มองหน้าหลาน จับมือเดินออกไปเลย แล้วไปรับพี่สาวของน้องอีกโรงเรียนหนึ่ง พี่สาวเดินขึ้นรถมาบอกตาว่า “นี่ไม่ใช่น้องหนู” คุณตาจึงรีบนำกลับมาส่งที่เดิม
จากกรณีนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้กล่าวขอโทษและขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และจะปรับการรับนักเรียนให้เข้มงวดขึ้น แต่ทางโรงเรียนไม่ได้แจ้งว่าจะรับผิดชอบยังไงกับเหตุการณ์ครั้งนี้
คุณแม่จึงอยากแชร์เรื่องราวดังกล่าวไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทางโรงเรียนได้ควรสละเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อตรวจสอบรายละเอียดให้มั่นใจก่อนที่จะปล่อยเด็กออกไป
ที่มา: Sanook
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ก่อนหัวใจสลาย เรื่องคนแปลกหน้าที่ต้องสอนลูก
สอนลูกให้ปลอดภัยจากคนแปลกหน้า
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!