เมื่อลูกน้อยกำลังอยู่ในวัยกำลังซน ที่ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ ผู้ปกครองก็ควรจะดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ เพียงแค่คลาดสายตาเพียงวิเดียว ก็อาจจะสายเกินไป ในวันนี้ เราจะมาพูดถึงอันตรายจากการ ปล่อยให้ลูกคลาดสายตา กัน พร้อมแนะนำสถานที่เสี่ยงที่คุณแม่ต้องจับตาดูเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด จะเป็นยังไงบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
ปล่อยให้ลูกคลาดสายตา อยู่ตามลำพัง อันตรายแค่ไหน
ไม่ว่าในขณะนั้น เด็ก ๆ จะกำลังทำอะไร จะนั่ง เดิน วิ่งเล่น หรือแม้แต่กำลังนอนหลับ ก็ล้วนเป็นอันตรายทั้งสิ้น! เด็ก ๆ ควรอยู่ในที่ปลอดภัยที่จัดเอาไปแล้ว และไม่ปล่อยให้คลาดสายตาโดยเด็ดขาด เพราะว่าเด็ก ๆ ในช่วงวัยโดยเฉพาะ 3-5 ขวบนั้น เป็นช่วงที่เด็ก ๆ กำลังซน อยากรู้อยากเห็นทุกเรื่อง และอยู่ไม่เป็นสุขกันเลยทีเดียว จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะกับคุณแม่ที่ยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการระวังความเสี่ยงเหล่านี้ ยิ่งเป็นอันตรายมาก ๆ เลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกหกล้ม หัวโน ดูแลอย่างไร ควรปล่อยให้ลูกลุกด้วยตัวเองดีไหม?
ปล่อยลูกน้อยให้คลาดสายตา เสี่ยงต่ออะไรบ้าง ?
ในแต่ละปี มีเด็กจำนวนไม่น้อย ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำ ไม่ว่าจะในสระน้ำ หรือแม้แต่ถังน้ำใบเล็ก ๆ ก็ตาม ก็ล้วนอันตรายทั้งสิ้น! โดยคุณแม่ควรระวังอย่าปล่อยเด็กเล็กเอาไว้กับอ่างน้ำ หรือกะละมังคนเดียว และอย่าลืมสำรวจจุดเสี่ยงที่เด็ก ๆ อาจจะตกน้ำได้ ไม่ว่าจะในบ้านหรือบริเวณนอกบ้าน ถ้าหากมีสระว่ายน้ำ หรือบ่อน้ำต่าง ๆ อย่าลืมที่จะทำรั้วกั้นเด็ก ๆ ไม่ให้เข้าไปใกล้ด้วยนะคะ
เด็กน้อยกับร่างกายเล็ก ๆ นั้น เสี่ยงต่อการพลัดตกจากที่สูง จนบาดเจ็บสาหัสได้ง่าย มีข่าวมากมายที่เด็กหกล้มหรือตกจากที่ต่าง ๆ จนศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต หรือบาดเจ็บรุนแรง โดยสถานที่เกิดเหตุมักจะเป็นบันได โซฟา เก้าอี้ หน้าต่าง รถหัดเดิน หรือสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะทั้งนอกบ้าน หรือในบ้าน
การป้องกันสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าเพียงแค่คอยดุคอยห้ามแล้วจะได้ผล แต่ควรจัดให้ลูกน้อยได้เล่น ได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม อย่างไม่คลาดสายตาค่ะ
เด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยกำลังซน มักชอบหยิบสิ่งต่าง ๆ เข้าไปในปากซะหมด จนอาจทำให้เข้าไปอุดหลอดลม จนขาดอากาศหายใจได้ จนอาจอันตรายต่อชีวิตในเวลาต่อมา ดังนั้น คุณแม่ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันอันตรายเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นนะคะ
สถานที่อันตราย ที่เด็ก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ในบ้านอาจจะฟังดูปลอดภัย แต่จริง ๆ แล้วมีอันตรายหลายอย่างมาก เราควรสอดส่องดูแลเด็ก ๆ โดยเฉพาะตามมุมเหล่านี้ของบ้าน
-
- แถวบันได บันไดนั้น เรียกได้ว่าเป็นจุดเสี่ยงมาก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะว่ามีความสูงชัน และเด็ก ๆ อาจก้าวพลาดได้ง่าย แม้คุณแม่จะฝึกลูกน้อยให้ขึ้น-ลงบันไดเรียบร้อยแล้ว ก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ
- ในห้องน้ำ ในห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องที่ลื่น ทำให้มีโอกาสที่จะล้มได้ง่าย และเสี่ยงต่อการหัวฟาดพื้นได้ อย่าลืมดูแลอย่างใกล้ชิด เมื่อลูกน้อยไปเข้าห้องน้ำนะคะ
- โต๊ะ อีกหนึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยกับเด็ก ๆ ในวัยกำลังซน เพราะเด็ก ๆ นั้นชอบสำรวจ ปีนป่ายไปทั่ว ทำให้อาจตกลงมาบาดเจ็บ หรือโต๊ะล้มลงมาทับเด็กได้ค่ะ
นอกจากในบ้าน นอกบ้านก็อันตรายเช่นกัน แม้จะเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ในชีวิตที่ดีสำหรับลูก ก็ควรจะระวังเป็นพิเศษนะคะ
-
- สถานที่ที่มีคนหนาแน่น หากสถานที่นั้นมีคนแน่นแออัด ควรดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตานะคะ เพราะอาจจะพลัดหลง จนเกิดอันตรายกับลูกน้อยได้
- สวนสนุก สถานที่สุดหรรษา ล่อตาล่อใจเด็ก ๆ อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อย ถ้าลูกอยากเล่นของเล่นด้วยนะคะ และควรอ่านคำแนะนำในการเล่นเครื่องเล่นอย่างละเอียด พร้อมปรึกษากับผู้ดูแลเครื่องเล่น ถึงความเหมาะสมในการเล่นของลูกน้อยด้วยค่ะ
- สวนสัตว์ สถานที่ยอดนิยมสำหรับเด็ก ๆ ที่จะได้ดูสัตว์ต่าง ๆ ที่ไม่เคยเห็น แม้สัตว์หลายตัวจะอยู่ในกรง ก็อาจเป็นอันตรายได้ คุณแม่ต้องคอยเฝ้ามองอย่างใกล้ชิดนะคะ และป้องกันไม่ให้ลูกไปทำให้สัตว์โมโห เพื่อป้องกันอันตรายจากการที่สัตว์หงุดหงิดได้ค่ะ
โดยสรุปแล้ว คุณแม่ควรดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเวลาใดก็ควรมีคนเฝ้ามองเด็ก ๆ ไว้ตลอดเวลานะคะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ปกครองตื่นตัว และดูแลลูกน้อยให้ดีมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อลูกน้อยที่เรารัก และเติบโตไปอย่างสมบูรณ์แข็งแรงนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกวัย 1 เดือน หมดลมหายใจ อุทาหรณ์จ้างพี่เลี้ยงดูแลทารก อย่าเผลอคลาดสายตาแม้เพียงนิด
อุทาหรณ์พ่อแม่ ลูกมือไหม้ แผลเหวอะจนเห็นเส้นเอ็น หลังปล่อยลูกคลาดสายตาไม่ถึง 5 นาที
ไรเดอร์ฮีโร่! ทิ้งรถตัวเองกระโดด ช่วยชีวิตเด็กวิ่งออกถนนใหญ่
ที่มา : parentsone
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!