X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

Mirror Neuron เซลล์สมองกระจกเงา กับการเลี้ยงลูก

บทความ 3 นาที
Mirror Neuron เซลล์สมองกระจกเงา กับการเลี้ยงลูก

เคยได้ยินสุภาษิต “like father like son” หรือภาษาไทย “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” ไหมคะ… ที่แปลความหมายว่า ลูกย่อมไม่แตกต่างไปจากพ่อแม่ พ่อแม่เป็นอย่างไรลูกก็เป็นเช่นนั้น หรือแม้แต่ที่เรามักได้ยินบ่อยๆในบทความที่บอกว่า ลูกเหมือนเป็นกระจกสะท้อนตัวพ่อแม่…

เซลล์สมองกระจกเงา

มีนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ค้นพบว่าในสมองของมนุษย์ มีเซลล์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “Mirror Neuron” หรือ “เซลล์สมองกระจกเงา” เป็นเซลล์ที่สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ของมนุษย์ เช่นการตอบสนองต่อการมองเห็น การได้ยิน หรือประสาทสัมผัสทั้งหลาย ตัวกระตุ้นที่เรารับผ่านประสาทสัมผัส เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด รวมถึงมนุษย์ โดยเฉพาะผ่านการกระทำของผู้อื่น ถ้าเราต้องการที่จะอยู่รอด เราต้องเข้าใจการกระทำของคนอื่น ถ้าปราศจากสิ่งนี้ ก็ไม่มีสังคมมนุษย์ มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่น คือสามารถเรียนรู้จากการสังเกต และเลียนแบบผู้อื่น (1)

ในเรื่องนี้อธิบายได้ในหลายๆ อย่างของทารกและเด็กน้อยที่เกิดมาแล้วเขาสามารถเลียนเสียงพูด สำเนียงภาษาของพ่อแม่หรือแวดล้อมของเขาที่เขาได้ยิน สมองส่วนนี้ทำงานและ action ออกมาจากสิ่งเร้าด้วยระบบประสาทส่วนนี้นั่นเอง เด็กที่เป็นลูกครึ่งสองสัญชาติก็สามารถพูดได้สองภาษาก็เป็นเพราะสมองส่วนนี้ด้วย  นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่าระบบประสาทนี้เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิด และช่วงวัย 0-3 ปีเป็นวัยแห่งการเจริญเติบโตสูงสุดของสมองเพราะช่วงวัยดังกล่าวนี้จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการ การดำรงชีวิตอยู่ในช่วงปฐมวัยของมนุษย์ สื่อสารและดำรงชีพอยู่ร่วมกับผู้อื่น การเรียนรู้จากการรับรู้ของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ผ่านเข้ามาใกล้ตัวเขา หรือพฤติกรรมเลียนแบบต่างๆ ที่เรากังวล ซึ่งนั่นก็มีผลมาจากพฤติกรรมการแสดงออกของผู้เลี้ยงดูหรือพ่อแม่นั่นเองค่ะ (2)

Advertisement

อาจจะลองสังเกตตัวเราเองก็ได้นะคะ แม้แต่ภาษาและท่าทางการแสดงออกในบ้าน หรือในกลุ่มเพื่อนก็ยังมีวิธีการพูดที่เหมือนกันๆ  ท่าทางเหมือนๆ กัน และอาจจะมีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติและความคิดที่เหมือนกันอีกด้วย เราจึงมักจะได้ยินอีกคำกล่าวที่ว่าอยากให้ชีวิตมีความสุขเช่นไร ประสบความสำเร็จในแบบไหน จงเอาตัวเองไปอยู่ในวงของคนกลุ่มนั้น เข้าใกล้คนกลุ่มนั้น เพราะเป็นเรื่องของสมองในส่วนนี้ที่จะลอกเลียนแบบวิธีการคิดและการแสดงออก วิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆไปด้วย

ดังนั้นเมื่อเราทราบที่มาที่ไปของคำว่า “ลูกเป็นกระจกท้อนของพ่อแม่” หรือสุภาษิตด้านบนด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ลองกลับมาทบทวนตัวเราและความคาดหวังทั้งปวงของเราที่มีต่อลูกดูอีกครั้งหนึ่ง

■■ ถ้าอยากให้ลูกพูดชัด ออกเสียงชัด เราต้องพูดคุยออกเสียงชัดเจนกับลูกทุกครั้งแม้ยามเป็นทารกก็ตาม

■■ ถ้าเราอยากให้ลูกเป็นเด็กที่ร่าเริง ไม่ฉุนเฉียว อารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย เราก็จะต้องไม่แสดงออกในสิ่งนั้นเช่นกัน ไม่โมโหใส่ลูก หรือใช้อารมณ์กับลูก

■■ ถ้าเราอยากให้ลูกรักการอ่าน เราจำเป็นต้องหยิบจับหนังสือมาอ่านให้เป็นนิสัย

■■ ถ้าเราอยากให้ลูกรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ เราจำเป็นจะต้องรู้สึกสนุกในทุกๆ เรื่องเช่นกัน อาจจะเริ่มจากเรื่องง่ายๆ ทีละเล็ก เช่น การกินผักที่แสนเอร็ดอร่อย การแปรงฟันที่แสนสนุกสนาน …

■■ ถ้าเราอยากให้ลูกเป็นเด็กที่แบ่งปัน เราจะต้องเริ่มที่จะเป็นผู้ที่แบ่งปันกับผู้อื่นเพื่อให้เค้าเห็นว่ามันคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจ และมีความสุข

■■ ถ้าเราอยากให้ลูกฟังเรา เราจึงจำเป็นต้องรับฟังลูก

■■ ถ้าเราอยากให้ลูกเราสงบ เราจำเป็นจะต้องมีจิตใจที่สงบ ใช้สติไตร่ตรองและแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ได้ด้วยสมาธิและปัญญา เช่นกัน

■■ สิ่งใดที่เราอยากให้เค้าเป็น และไม่อยากให้เค้าเป็น

จงเริ่มที่ตัวเรา แก้ที่ตัวเราก่อน…

เพราะเราคือคนที่เค้าเฝ้ามองและพร้อมจะเรียนรู้จากเราตลอดเวลา

สุดท้ายบางคนอาจจะสงสัยว่า การเป็นพ่อแม่นั้นถึงกับต้องเสียตัวตนของตัวเองไปเลยหรือ ในทางศาสตร์ของโค้ช เราเชื่อมั่นว่าทุกคนเป็นคนดีและพัฒนาตัวเองได้ ขอเพียงว่าเราตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเราเองเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก แสดงออกมาให้ลูกๆเห็นและสัมผัสได้จนเซลล์สมองส่วนนี้รับรู้และแสดงออกมาได้อย่างงดงามค่ะ

บทความที่น่าสนใจอื่นๆ

4 วิธีฝึกลูกเดินทางได้ ไม่ง้อแท็บเล็ต

แบบอย่างที่ดีสอนลูกให้รู้จักเคารพซึ่งกันและกัน

TAP mobile app

บทความจากพันธมิตร
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
การมีสติ ฉบับเด็ก ๆ เป็นอย่างไร ฝึกลูกให้มีสติ ท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ส่งเสริมพัฒนาการเด็กยุคใหม่ด้วย ทักษะ Executive Function
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
ปี 2567 เด็กป่วยด้วยโรคอะไร? LUMA แบ่งปันสถิติให้เข้าใจมากขึ้น
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023
Value Health (Kids) ประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อย เจ้าของรางวัล Most Promising จากเวที TAP Awards 2023

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

แม่แป้ง กุลลดา พันธ์สังข์

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • Mirror Neuron เซลล์สมองกระจกเงา กับการเลี้ยงลูก
แชร์ :
  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

    เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

    เทคนิคเลี้ยงลูกตามวัย สร้างสายใยไว้ใจ เลี้ยงลูกยังไง ให้กล้าคุยกับพ่อแม่

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว