วิจัยชี้ พ่อดื่มก่อนตั้งครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดได้! ชวนคุณพ่อมาอ่านวิจัยใหม่ และดูวิธีเตรียมตัวก่อนท้องที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย เพื่อเบบี๋ที่แข็งแรงไปด้วยกันค่ะ
งานวิจัยชี้ชัด สุขภาพพ่อ…ส่งผลถึงลูก
มีงานวิจัยระดับโลกหลายชิ้นที่ได้ศึกษาเรื่อง สุขภาพพ่อก่อนมีลูก อย่างจริงจัง และผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าสนใจมากค่ะ
จากการทบทวนงานวิจัยครั้งยิ่งใหญ่ (Meta-analysis) ที่รวบรวมข้อมูลจาก 55 งานวิจัยก่อนหน้า ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ด้านหัวใจที่น่าเชื่อถืออย่าง European Journal of Preventive Cardiology (ESC) ในปี 2019
งานวิจัยชิ้นนี้เจาะจงไปที่ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด (Congenital Heart Defects – CHDs) ซึ่งเป็นหนึ่งในความพิการแต่กำเนิดที่พบบ่อยที่สุด และผลลัพธ์ที่ได้ก็ชัดเจนมาก
- การที่คุณพ่อดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ในช่วง 3 เดือนก่อนการปฏิสนธิ มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลูกจะเกิดมาพร้อม โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด เพิ่มขึ้นถึง 44%
- และถ้าเป็นการดื่มหนัก หรือดื่ม 5 แก้วขึ้นไปในครั้งเดียว ความเสี่ยงนี้จะพุ่งสูงขึ้นถึง 52%
ที่น่าสนใจคือ ในงานวิจัยเดียวกันนี้ยังเปรียบเทียบให้เห็นว่า การดื่มหนักของว่าที่คุณแม่ ก่อนตั้งครรภ์ เพิ่มความเสี่ยงนี้ 16% ซึ่งหมายความว่า ในแง่ของโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด พฤติกรรมการดื่มหนักของพ่อก่อนท้อง กลับส่งผลเพิ่มความเสี่ยงที่สูงกว่าอย่างน่าตกใจ

ไขข้อข้องใจ พ่อดื่ม…แล้วไปถึงลูกได้ยังไง?
พ่อดื่ม…แล้วไปถึงลูกได้ยังไง? ในเมื่อพ่อไม่ได้เป็นคนอุ้มท้อง… คำตอบสั้นๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญชี้เป้าก็คือ คุณภาพของอสุจิ ค่ะ
การที่แอลกอฮอล์ ส่งผลกระทบต่ออสุจิ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การเชื่อมโยงว่ามันจะส่งต่อไปถึงลูกได้อย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์กำลังไขความลับกันอยู่ค่ะ
นี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญถึงขีดเส้นใต้คำว่า 3 เดือนก่อนท้อง เพราะร่างกายของคุณพ่อใช้เวลาในการสร้างและพัฒนาอสุจิชุดใหม่ให้สมบูรณ์ ประมาณ 70-90 วัน หรือราวๆ 3 เดือนพอดีค่ะ
ดังนั้น แอลกอฮอล์ที่คุณพ่อดื่มในวันนี้ ไม่ได้ส่งผลแค่วันนี้ แต่กำลังส่งผลต่ออสุจิที่จะถูกสร้างและนำไปใช้งานในอีก 3 เดือนข้างหน้า! นี่จึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า ผู้ชายต้องงดเหล้ากี่เดือนก่อนมีลูก คำตอบที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ อย่างน้อย 3 เดือนค่ะ
เมื่อแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกาย จะเข้าไปรบกวนกระบวนการสร้างอสุจิ โดยอาจทำลาย DNA โดยตรง รวมถึงอาจเข้าไปเปลี่ยนการทำงานของยีนที่ควบคุมการพัฒนาหัวใจหรือสมองของลูก เมื่อยีนนั้นทำงานผิดวิธี ก็อาจนำไปสู่ความบกพร่องแต่กำเนิดได้
-
หลักฐานจากสัตว์ทดลองที่ชัดเจน
การศึกษาในมนุษย์เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ 100% เป็นเรื่องยากมาก เพราะมีปัจจัยอื่นแทรกซ้อนหลายอย่าง แต่นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานที่ชัดเจนมากในสัตว์ทดลองค่ะ
มีการศึกษาหนึ่งที่พบว่า พ่อหนูที่ถูกทำให้ดื่มแอลกอฮอล์หนักๆ ไม่กี่เดือนก่อนผสมพันธุ์ มีลูกหนูที่เกิดมาพร้อมปัญหาการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าปกติ รวมถึงมีความผิดปกติของกะโหลกศีรษะและใบหน้า ซึ่งเป็นลักษณะที่สอดคล้องกับอาการของ FASDs อย่างมาก
นอกจากนี้ งานทบทวนอื่นๆ ทั้งในคนและสัตว์ ยังเชื่อมโยงการดื่มของพ่อกับปัญหาอื่นๆ ของลูก เช่น น้ำหนักแรกเกิดน้อย ขนาดสมองเล็ก และปัญหาด้านการรับรู้และพฤติกรรม อีกด้วย
เสี่ยง 44% น่ากลัวแค่ไหน?
พอเห็นตัวเลข 44% หรือ 52% คุณพ่อคุณแม่อาจจะตกใจว่า ถ้าดื่มเหล้า ลูก 100 คน จะเป็นโรคหัวใจ 44 คนเลยเหรอ?
ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ! นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “ความเสี่ยงสัมพัทธ์” (Relative Risk) หรือ “ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากเดิม”
ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ด้วยตัวเลขสมมติ
- ความเสี่ยงพื้นฐาน: ปกติแล้ว ความเสี่ยงที่เบบี๋ทั่วไปจะเกิดมาพร้อมโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด อาจอยู่ที่ประมาณ 1% (หรือ 1 ใน 100)
- หากพ่อดื่มเหล้า: ความเสี่ยง 1% เดิมนี้ จะ “เพิ่มขึ้น 44%” (ซึ่งก็คือเพิ่มขึ้นอีก 0.44% ของ 1%)
- ความเสี่ยงใหม่: จะขยับจาก 1% ไปเป็นประมาณ 1.44%
แม้เปอร์เซ็นต์โดยรวมจะยังดูน้อย แต่โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเป็นเรื่องใหญ่และซับซ้อนมาก และที่สำคัญที่สุดคือ เป็นความเสี่ยงที่เลือกที่จะเลี่ยงได้ ในเมื่อเรารู้แล้วว่ามันเพิ่มความเสี่ยง ทำไมเราจะไม่เลือกทางที่ปลอดภัยที่สุดให้ลูกล่ะ?

ไม่ใช่แค่เหล้า… พ่อสูบบุหรี่ ลูกก็เสี่ยง!
ไหนๆ ก็พูดถึงเรื่องสุขภาพพ่อก่อนมีลูกแล้ว ก็ต้องขยายความไปถึงอีกหนึ่งพฤติกรรมยอดฮิตของคุณพ่อ นั่นคือ การสูบบุหรี่ ค่ะ
นี่ก็เป็นอีกปัจจัยเสี่ยงสำคัญไม่แพ้กันเลย คำถามที่ว่า พ่อสูบบุหรี่ ลูกเสี่ยงอะไร มีคำตอบจากงานวิจัยเช่นกันค่ะ:
- มีงานวิจัยที่ชี้ว่า ลูกชายของพ่อที่สูบบุหรี่ก่อนหรือช่วงที่ภรรยาตั้งครรภ์ มีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาโรคอ้วน, ปัญหาระบบทางเดินหายใจ, และอาการปวดหัว เมื่อพวกเขาโตขึ้น
- ที่น่ากังวลคือ ผลกระทบนี้อาจส่งต่อไปยังรุ่นหลานได้ โดยพบว่าลูกชายกลุ่มนี้ จะมีคุณภาพอสุจิที่ต่ำลง เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่… เรียกได้ว่าส่งผลกระทบข้ามรุ่นกันเลยทีเดียวค่ะ
คำแนะนำสับสน? เชื่อใครดี? FASD เกิดจากพ่อได้ไหม?
ณ จุดนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะเริ่มสับสน เพราะถ้าไปหาข้อมูลเก่าๆ หรือแม้แต่คำแนะนำทางการแพทย์จากองค์กรใหญ่ๆ บางแห่ง เช่น American Academy of Pediatrics (AAP) ที่เคยระบุไว้ในปี 2019 ก็ยังอาจเจอบทสรุปที่ว่า
“FASDs (กลุ่มอาการทารกผิดปกติจากแอลกอฮอล์) เกิดจากแม่ดื่มเท่านั้น พ่อไม่เกี่ยว”
ถ้าหมายถึง “FASDs” ตามคำนิยามเป๊ะๆ ที่เกิดจากแอลกอฮอล์ผ่านรกไปสู่ทารก คำตอบคือ “ไม่” เพราะพ่อไม่ได้อุ้มท้อง
แต่…ดังที่กล่าวไปข้างต้น งานวิจัยใหม่ๆ และการศึกษาในสัตว์ทดลอง กำลังชี้ให้เห็นว่า การที่ พ่อดื่มก่อนตั้งครรภ์ สามารถนำไปสู่ ลักษณะอาการที่คล้ายคลึงกับ FASDs ได้ เช่น ปัญหาการเจริญเติบโต ความผิดปกติของใบหน้า ปัญหาด้านสมอง
ด้วยหลักฐานใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้เอง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัย เริ่มออกมาให้คำแนะนำที่ ปลอดภัยไว้ก่อนมากขึ้น
- นพ. เจียปี่ ฉิน (Jiabi Qin, MD) ผู้ทำวิจัยเรื่องโรคหัวใจ (จาก ESC) กล่าวว่า “งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า ทั้งชายและหญิงที่กำลังวางแผนครอบครัว ควรงดแอลกอฮอล์… การดื่มหนักของว่าที่พ่อแม่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงสูงมาก ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสที่ลูกจะเกิดมาพร้อมโรคหัวใจ แต่ยังทำลายสุขภาพของพวกเขาเองอย่างมากด้วย”
- นพ. ฮันซา บาร์กาวา (Hansa Bhargava, MD) กุมารแพทย์ในแอตแลนตา ก็เห็นด้วยว่า “แม้เราจะยังไม่ชัดเจน 100% ว่าต้องดื่มแค่ไหน ถึงจะสร้างความแตกต่าง แต่ความเชื่อมโยง มันมีอยู่จริง… และจนกว่าเราจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม การลดหรืองดแอลกอฮอล์ คือทางเลือกที่ดีที่สุด ถ้าคุณกำลังคิดจะมีลูก พ่อแม่ทั้งคู่ต่างก็มีส่วนร่วมในการสร้างสุขภาพที่ดีที่สุดให้ลูก ทั้งก่อนและหลังคลอด”
การวางแผนมีลูก ไม่ใช่หน้าที่ของแม่ฝ่ายเดียว
งานวิจัยใหม่ๆ กำลังบอกเราชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า สุขภาพของคุณพ่อก่อนที่จะมีการปฏิสนธิ สำคัญไม่แพ้สุขภาพของคุณแม่เลย การที่ พ่อดื่มก่อนตั้งครรภ์ หรือการสูบบุหรี่ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งตรงถึงลูกผ่านทางอสุจิ
ดังนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังวางแผนมีลูก นี่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะชวนกันมาดูแลสุขภาพค่ะ คุณพ่อควรลด ละ เลิก แอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 3 เดือน (หรือถ้าให้ดีคือ 6 เดือน) ก่อนเริ่มปฏิบัติการ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของเบบี๋ที่เราต่างตั้งใจให้เขาเกิดมาค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ คนอยากมีลูก กินอะไรให้พร้อมตั้งท้อง
15 รายชื่อหมอสูตินารี ยอดนิยม คุณแม่ที่กำลังจะฝากครรภ์ ห้ามพลาด!
เตรียมตัวมีลูก ต้องมีเงินเท่าไหร่ ? ประเมินค่าใช้จ่ายจริงที่คุณอาจคาดไม่ถึง
ที่มา:
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!