เห็ดหลินจือ กินแล้วดียังไง ช่วงคุณแม่อยู่ไฟกินได้ไหม? มาดูกัน อย่างที่เรารู้กันดีว่า เห็ดหลินจือ เป็นเห็ดอีกหนึ่งชนิดที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณเยอะมาก ๆ สำหรับใครที่ยังสงสัยว่าตัวเองจะกินได้ไหม หรือในช่วงของการอยู่ไฟ และช่วงที่เรากำลังให้นมลูก เราสามารถกินได้ไหม เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลใจไปนะ เรามาทำความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
เห็ดหลินจือ มีลักษณะยังไงกันนะ?
(รูปจาก shutterstock.com)
เชื่อว่าหลายคนน่าจะพอรู้จัก หรือพอจะคุ้นชื่อกับเห็ดชนิดนี้กันมาบ้างแล้ว แน่นอนว่าเห็ดหลินจือเป็นเห็ดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ และสารอาหารสำคัญหลากหลายชนิดมาก ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนส่วนใหญ่จะนำเห็ดชนิดนี้ไปประกอบทำเป็นยาสมุนไพร หรือนำไปแปรรูปในเรื่องต่าง ๆ มากมาย แถมยาสมุนไพรบางตัวยังช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ และรักษาโรคได้อีกด้วย เห็ดหลินจือเรียกได้ว่าน่าสนใจไม่แพ้เห็ดชนิดอื่นเลยจริง ๆ
นอกเหนือจากสารอาหารสำคัญ แร่ธาตุและวิตามินชนิดต่าง ๆ ที่ส่งผลดีต่อร่างกายแล้ว พบว่าเห็ดชนิดนี้ยังมีสารชีวโมเลกุลชีวภาพที่ส่งผลดีต่อร่างกายเราได้ดีอีกด้วย โดยประกอบได้ดังนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : เห็ดมีประโยชน์ อย่างไร? เด็กทารกกินได้ไหม? สิ่งที่พ่อแม่ต้องรู้
โดยสารชีวโมเลกุลชนิดนี้จะช่วยลดอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาตให้กับร่างกายของเรา นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของระบบไหลเวียนของเลือดได้ดีมาก ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ลิ่มเลือดเกิดการแข็งตัวในเส้นเลือด และช่วยยั้บยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสที่เข้าไปในร่างกายของเราตามไปด้วย
เป็นสารอีกหนึ่งชนิดที่จะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายโดยเฉพาะในเรื่องของกระดูกและฟัน เมื่อไหร่ที่ร่างกายของเราได้รับสารเหล่านี้เข้าไป สิ่งนี้ก็จะเข้าไปช่วยทำให้กระดูกและฟันของเราแข็งแรงมากขึ้น เมื่อไหร่ที่เราเคลื่อนไหวอวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้ เราก็จะรู้สึกสบายตัวมากขึ้น ไม่รู้สึกปวด หรือเจ็บขึ้นมานั่นเอง
สารตัวนี้จะช่วยในเรื่องของภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย แน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่ร่างกายของเราได้รับสารตัวนี้เข้าไป สิ่งนี้ก็จะช่วยส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเรา ทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย และไม่เพียงแต่ส่งเสริมเพียงด้านนี้เท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง บำรุงหัวใจ แถมยังช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดให้ทำงานได้ดีอีกด้วย
อาจมีบางคนที่พอจะเคยได้ยินสารชนิดนี้กันมาบ้าง โดยสารตัวนี้ต้องบอกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ๆ เพราะหน้าที่สำคัญของสารชนิดนี้จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดให้กับร่างกาย ช่วยกำจัดโรงมะเร็ง และยับยั้งการก่อให้เกิดเนื้องอกได้เป็นอย่างดี ต้องบอกว่าเป็นสารสำคัญที่ส่งผลดีต่อร่างกายไม่น้อยเลยล่ะ
สำหรับใครที่มักเป็นภูมิแพ้อยู่บ่อย ๆ สารตัวนี้อาจจะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ให้กับคุณได้ นอกจากนี้ยังลดความดันโลหิต ลดอาการไขมันอุดตันเส้นเลือด ที่สำคัญยังช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งตับได้ด้วยนะ
สรรพคุณเห็ดหลินจือมีอะไรบ้าง?
(รูปจาก sanook.com)
เราอาจจะพอทราบกันดีแล้วว่าเห็ดชนิดนี้มากด้วยคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย แต่ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเห็ดเหล่านี้ช่วยรักษาโรค หรือบรรเทาอาการอะไรได้บ้าง มาดูกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : จับซาไท้เป้า ไขข้อข้องใจยาสมุนไพรจีนบำรุงครรภ์จริงหรือไม่?
1. ช่วยล้างพิษให้แก่ร่างกาย
ใครจะไปรู้ว่านอกจากเห็ดหลินจือจะเป็นยาสมุนไพรที่ช่วยรักษาหรือป้องกันโรคต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถช่วยล้างพิษในร่างกายให้กับเราได้ด้วย อย่างที่รู้กันดีว่าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกป่วย หรือไม่สบายตัว นั่นกำลังบ่งบอกว่าภายในร่างกายเรามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หรืออาจจะมีอวัยวะบางส่วนที่ไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ เพราะฉะนั้นการที่เรากินเห็ดหลินจือเข้าไปสิ่งนี้ก็อาจจะเข้าไปช่วยล้างพิษในร่างกายของเรา ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงมากขึ้น
2. แก้ปัญหาการมีบุตรยาก
สำหรับใครที่กำลังอยากมีลูกแต่ปล่อยตามธรรมชาติแล้ว ก็ยังไม่มี บางทีเราอาจจะต้องใช้ยาสมุนเป็นตัวช่วย ซึ่งอาจจะกินยาสมุนไพรที่ทำจากเห็ดหลินจือเป็นตัวช่วยเสริมขึ้นมาได้ แต่ก่อนที่เราจะกินอาจจะลองทำการปรึกษาคุณหมอก่อนได้เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวให้พร้อมตามไปด้วย
3. ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
เป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเรา แน่นอนว่าถ้าเลือกได้ไม่มีใครที่อยากจะปวดท้องเวลาเป็นประจำเดือน เพราะในช่วงที่เป็นนอกจากจะทำให้เราใช้ชีวิตลำบากแล้ว และถ้าเราปวดท้องประจำเดือนขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้เราใช้ชีวิตได้ยากกว่าเดิมไปอีก ดังนั้นใครที่ปวดท้องประจำเดือนอยู่เป็นประจำ ก็อาจจะกินยาสมุนไพรที่ทำจากเห็ดหลินจือเป็นตัวช่วยได้
4. ช่วยบำรุงร่างกาย
สำหรับใครที่มักมีอาการอ่อนเพลีย หรือเหนื่อยอยู่บ่อย ๆ ก็สามารถเห็ดหลินจือได้เช่นกัน เพราะเห็ดชนิดนี้จะช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายมีพลัง และแข็งแรงมากขึ้น แต่เราอาจจะต้องดูด้วยว่าเรามีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่า ถ้ากินก็อาจจะต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะถ้าเรากินในปริมาณที่มากจนเกินไปจากสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็อาจจะเป็นโทษต่อร่างกายได้เช่นกัน
5. ช่วยบำรุงสายตา
นอกจากเห็ดหลินจือจะช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องต่าง ๆ แล้ว เห็ดชนิดนี้ยังช่วยบำรุงสายตาให้เราได้ดีอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เราก็อาจจะกินเห็ดหลินจือช่วยบำรุงสายตาได้ หรือถ้าใครที่กำลังกัวลอยู่ไม่รู้ว่าตัวเองสามารถกินได้ไหม เราก็อาจจะขอคำแนะนำจากคุณหมอเพิ่มเติม เพื่อจะได้มั่นใจในการกินมากขึ้น
6. ช่วยบำรุงระบบประสาท
ถ้าเราเป็นอีกหนึ่งคนที่หลับยาก หรือนอนยังไงก็ไม่หลับ ก็สามารถกินเห็ดหลินจือได้ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าเห็ดชนิดนี้มีคุณประโยชน์หลากหลายมาก ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะช่วยในเรื่องของระบบประสาท ทำให้เราหลับสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการเวียนหัว และเบื่ออาหารได้เป็นอย่างดี
7. ช่วยในเรื่องความจำ
การที่เราอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หรือทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน ก็อาจไม่ใชเรื่องแปลกที่เราจะลืมทำสิ่งต่าง ๆ ได้ และถ้าใครที่อยากจะหาอะไรมาเป็นตัวช่วย เพื่อที่เราจะได้ไม่ลืมอยู่บ่อย ๆ ก็สามารถผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเห็ดหลินจือมารับรับประทานได้ เพราะสิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมทำให้ระบบประสาทและสมองของเราทำงานได้ดีมากขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ช่วยเสริมสร้างความจำนั่นเอง
คุณแม่ช่วงอยู่ไฟกินเห็ดหลินจือได้ไหม?
(รูปโดย jcomp จาก freepik.com)
จากที่บอกไม่ก่อนหน้านี้ว่าเห็ดหลินจือเป็นสิ่งที่มากด้วยสารอาหารสำคัญ และมีคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายเยอะมาก ๆ แต่ก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีให้กับทุกคน เพราะฉะนั้นก่อนที่เราจะกิน เราก็อาจจะต้องขอคำแนะนำจากคุณหมอให้ดีก่อน โดยเฉพาะคุณแม่คนไหนที่กำลังท้อง หรือกำลังให้นมลูกน้อยอยู่ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลไม่ดีต่อลูกของเราได้ ส่วนใครที่พึ่งเข้ารับการผ่าตัดมาใหม่ๆ ก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการกินเห็ดหลินจือตามไปด้วย เพราะมีโอกาสที่เลือดจะออกบริเวณแผลผ่าตัดค่อนข้างสูงอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของลูกและตัวเราเอง ก่อนจะรับประทานทุกครั้งควรปรึกษาคุณหมออย่างละเอียดก่อน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 น้ำมันนวด ผ่อนคลายความเครียด สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
กินเห็ดหลินจือยังไงให้ปลอดภัย?
(รูปจาก khampo.com)
สิ่งที่เราคิดว่ามีประโยชน์ ถ้าเกิดเรากินเกินขนาด หรือมากจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อเราได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นควรเลือกกินในปริมาณที่พอเหมาะ และเหมาะแก่ความต้องการของร่างกายจะดีกว่า โดยสิ่งที่ทุกคนควรคำนึงถึงมากที่สุด ได้แก่
1. กินสารสกัดเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกิน 1 ปี
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจว่าเห็ดหลินจือเป็นเห็ดที่มีประโยชน์และช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องต่างๆ ก็อาจจะกินติดต่อกันมาเรื่อยๆ จนลืมไปว่า สิ่งที่เรากินเข้าไปบ่อยๆ หรือติดต่อกันเป็นเวลานานนั้น ก็สามารถเป็นอันตรายต่อร่างกายขึ้นมาได้ มันอาจจะใช่ว่าช่วงแรก ๆ ที่เรากินเข้าไปนั้น สิ่งนี้ก็จะช่วยส่งเสริมระบบต่าง ๆ ในร่างกาย แต่มันอาจจะดีแค่ช่วงแรกเท่านั้น ทางที่ดีเราไม่ควรกินติดต่อกันนานจนเกินไป
2. รับประทานในปริมาณที่พอดี
การรับประทานเห็ดหลินจือ ถ้าเราอยากจะให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรมากจนเกินไป เพราะจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ยิ่งถ้าใครที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว อาจจะต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอ หรืออาจจะต้องอ่านรายละเอียดให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เราเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา อาทิเช่น รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน เลือดกำเดาไหล ถ่ายเป็นเลือด หรือปากแห้งขึ้นมาได้ง่าย ๆ ดังนั้นควรระวัง และถ้าใครมีอาการเหล่านี้ในขณะที่กำลังรับประทานอยู่ รีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
3. กินเห็ดหลินจือในรูปแบบผงนานติดต่อกัน 1 ปี
เป็นอีกหนึ่งข้อที่เราควรใส่ใจและควรให้ความสำคัญมาก ๆ รู้หรือไม่ว่าการที่เรากินสิ่งนี้เข้าไปติดต่อกันเป็นเวลานาน สิ่งนี้จะส่งผลไม่ดีต่อร่างกายได้เลย โดยเฉพาะบริเวณตับ ดีไม่ดีอาจจะทำให้เกิดภาวะตับเป็นพิษได้เลย และถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ เราควรรับประทานให้พอประมาณและให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
เอาเป็นว่าก่อนที่เราจะรับประทานเห็ดหลินจือ เราอาจจะต้องดูให้ดีก่อนว่า เราสามารถกินได้ไหม หรือถ้าเรากินเข้าไปจะมีผลข้างเคียงอะไหรือเปล่า โดยเฉพาะคุณแม่คนไหนที่กำลังท้อง กำลังอยู่ไฟ รวมถึงกำลังให้นมลูก เราอาจจะต้องหลีกเลี่ยงหรือขอคำปรึกษาจากคุณหมอก่อนรับประทาน เพราะเมื่อไหร่ที่เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และดีต่อร่างกาย เราจึงตัดสินใจรับประทานเข้าไปโดยไม่ได้ศึกษาให้ดีก่อน สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อลูกของเราได้นั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีป้องกันภาวะซีดในหญิงตั้งครรภ์ และอาหารที่ควรทานลดภาวะซีด
มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับคนท้อง ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
หญ้าฝรั่น คนท้องกินได้หรือเปล่า ให้ประโยชน์อะไรต่อสุขภาพบ้าง
ที่มา : disthai, ccit
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!