ระวัง!!! โรคฉี่หนู ภัยร้ายที่มาช่วงหน้าฝน รักษาผิดวิธีเสี่ยงเสียชีวิตสูง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อเข้าสู่หน้าฝน นอกจากความชุ่มฉ่ำที่มากับเม็ดฝนแล้ว ฝนก็มักจะชะล้างนำเอาเชื้อโรคต่าง ๆ จากพื้นที่รอบ ๆ ให้ไหลมารวมกันอีกด้วย โดยเฉพาะในบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง และหนึ่งในโรคที่เราควรจะต้องระวังมากเป็นพิเศษนั่นก็คือ โรคฉี่หนู

 

โรคฉี่หนู มีสาเหตุจาก ?

โรคฉี่หนู หรือ โรคเล็ปโตสไปโรซิส (Leptospirosis) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเส้นเกลียว ชื่อว่า Leptospira เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้พบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด กลุ่มสัตว์ฟันแทะทั้งหลาย เช่น สุนัข แมว กระรอก ม้า วัว ควาย แพะ แกะ สุกร และหนู ซึ่งรวมถึงหนูบ้าน หนูนา หนูพุก หนูตะเภา ที่มีการปล่อยผ่านมาในลักษณะของมูลของเสีย และเมื่อน้ำพัดพานำมูลของเสียต่าง ๆ มารวมกัน หากเราไปสัมผัส ก็มีโอกาสติดเชื้อนั้นได้

 

 

โรคฉี่หนูติดจากทางไหนได้บ้าง ?

สัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคนั้น แม้ว่าตัวมันจะไม่ได้เป็นโรค แต่ตัวสัตว์จะเก็บเชื้อโรคนี้เอาไว้ที่ไต ดังนั้นเมื่อสัตว์พาหะขับของเสีย หรือฉี่ออกมา ก็จะมีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวออกมาด้วย และเมื่อมีการปะปนมากับน้ำฝน และสะสมอยู่บริเวณน้ำที่ท่วมขัง ทำให้เมื่อเราไปสัมผัสน้ำบริเวณดังกล่าว ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ และเชื้อโรคนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายของคนได้ 2 ทางด้วยกัน คือ

  • ทางตรง : โดยการสัมผัสกับสัตว์ที่มีเชื้ออยู่โดยตรง หรือโดนสัตว์ที่มีเชื้อกัดจนเป็นแผล ทำให้เกิดการติดเชื้อ
  • ทางอ้อม : อย่างที่เกริ่นมาตั้งแต่ต้นว่าเราสามารถรับเชื้อผ่านน้ำ หรือดิน โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผล จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงกว่าปกติ การสัมผัสเชื้อจากมือ สู่ปาก ตา จมูก หรือการรับประทานอาหารที่มีการเจือปนของเชื้อดังกล่าว ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กป่วยหน้าฝน RSV ไข้หวัดใหญ่ เฮอร์แปงไจน่า โรคหน้าฝนที่ทารกเด็กเล็กต้องระวัง

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โรคนี้ติดต่อกันได้หรือไม่?

  • เชื้อนี้สามารถเข้าทางแผล เยื่อบุในปาก หรือตา รวมถึงผิวหนังปกติที่มีความเปียกชื้น
  • เชื้อสามารถเข้าร่างกายได้ด้วยการดื่ม หรือกินอาหารที่มีเชื้อระยะฟักตัว
  • การติดต่อจากคนสู่คนเกิดขึ้นได้น้อยมาก

 

โรคฉี่หนูกับระยะฟักตัว

โดยเฉลี่ยระยะฟักตัวของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคฉี่หนู จะอยู่ที่ 10 วัน โดยประมาณ หรืออยู่ระหว่าง 4 - 19 วัน ในระยะติดต่อ

 

โรคฉี่หนูอาการเป็นอย่างไร?

ผู้ที่ติดเชื้อฉี่หนู ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการป่วยแสดงออกมาชัดเจน และจะมีเพียงแค่ 10 - 15% ที่จะมีอาการรุนแรง โดยเราจะแบ่งอาการของผู้ที่ติดเชื้อออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • กลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง

กลุ่มนี้เมื่อมีการติดเชื้อ จะมีอาการไข้สูงแบบทันทีทันใด เช่น ปวดศีรษะ เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ซึ่งอาการดังกล่าว จะคล้ายกับอาการป่วยอื่น ๆ เช่น ไข้เลือดออก หรือไข้หวัดใหญ่เป็นต้น

อาการที่เรามักจะพบบ่อย ที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นโรคฉี่หนู นั่นก็คือ อาการปวดกล้ามเนื้อที่รุนแรง หรือปวดตามข้อ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มีไข้สูง มีอาการตาแดง หรือเลือดออกใต้ตาขาว มีผื่นขึ้น เบื่ออาหาร ท้องเสีย ผู้ป่วยกลุ่มนี้ หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะไม่พบภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงของโรค และอาการนี้ จะหายไปได้เองภายใน 5 - 7 วัน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • กลุ่มที่มีอาการรุนแรง

กลุ่มนี้ แม้ว่าจะมีน้อยราว 5 - 10% แต่ไม่ควรประมาท เพราะหลังจากที่อาการป่วยจากโรคฉี่หนูบรรเทาลง จนเหมือนจะหายดี ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะเกิดอาการป่วยหนักภายในช่วง 1 - 3 วัน จนกลับมาทรุดลงอีกครั้ง และการป่วยครั้งนี้จะส่งผลกระทบถึงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต หรือปอด โดยจะมีอาการดังนี้

  • มือ เท้า หรือข้อเท้าบวม
  • เจ็บหน้าอก
  • ดีซ่าน (ตัวเหลือง)
  • หายใจลำบาก หายใจหอบเหนื่อย หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • มีอาการของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือสมองอักเสบ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ชัก
  • ไอเป็นเลือด

 

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคหน้าฝน โรคที่มากับฤดูฝน ฝนตก ลูกเสี่ยงป่วยง่าย โรคไหนที่ต้องระวังในหน้าฝน โรคหน้าฝนในเด็ก

 

 

กลุ่มเสี่ยงในการติดโรคฉี่หนู

  • เกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน
  • คนงานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โค สุกร ปลา
  • กรรมกรขุดท่อระบายน้ำ เหมืองแร่ โรงฆ่าสัตว์
  • กลุ่มอื่น ๆ เช่น แพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องทดลอง ทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติงานตามป่าเขา
  • กลุ่มประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะช่วงที่ประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำรอการระบาย ผู้ที่บ้านมีหนูมาก ผู้ที่ปรุงอาหาร หรือรับประทานอาหารที่ไม่สุก หรือปล่อยอาหารทิ้งเอาไว้โดยไม่ปิดฝา

 

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคฉี่หนู

  • กำจัดหนู หรือพยายามเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค
  • ควรสวมชุดป้องกัน เช่น รองเท้าบู๊ต เมื่อต้องเดินในพื้นที่น้ำท่วมขัง น้ำสกปรก
  • หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำที่อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่
  • หลีกเลี่ยงการทำงานในน้ำ หรือต้องลุยน้ำ ลุยโคลนเป็นเวลานาน ๆ
  • ทำความสะอาดร่างกายโดยเร็วหลังจากต้องแช่ หรือย่ำลงไปในแหล่งน้ำ หรือพื้นดินที่สงสัยว่าอาจมีเชื้อปนเปื้อน

 

 

รวมคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับโรคฉี่หนู

  • โรคฉี่หนูเป็นแล้วตายไหม?

หากผู้ที่ติดเชื้อขาดความเข้าใจในอาการของโรค และได้รับการรักษาช้าจนเกินไป อาจทำให้เกิดความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

  • โรคฉี่หนูระบาดในฤดูไหนมากที่สุด?

หากจะถามถึงโรคฉี่หนูเราสามารถพบเจอกับโรคเหล่านี้ได้อยู่ตลอดทุกฤดูกาล แต่ในช่วงฤดูฝน จะพบว่ามีการระบาดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาก ทำให้เกิดการรวมตัวของเชื้อ และเมื่อเกิดแหล่งน้ำขัง รวมถึงน้ำท่วมตามจุดต่าง ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดการติดเชื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นช่วงเดือน ตุลาคม และ พฤศจิกายน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • โรคฉี่หนูป้องกันอย่างไร?

เราควรสวมรองเท้าบูทเมื่อมีเหตุให้ต้องลุยน้ำท่วมขัง หากเลี่ยงไม่ได้ควรทำความสะอาดร่างกายทันทีเมื่อจำเป็นต้องลุย หรือสัมผัสกับน้ำขังในพื้นที่ต่าง ๆ

  • โรคฉี่หนูกินยาอะไรหาย?

โดยปกติโรคนี้จะสามารถหายได้เอง หรืออาจใช้ยาปฏิชีวนะอย่างยาเพนิซิลลิน (Penicillin) หรือ ดอกซีไซคลิน (Doxycycline) เป็นระยะเวลา 5 - 7 วัน และควรทานยาให้ครบตามที่กำหนดแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อจะถูกกำจัดหมด และป้องกันไม่ให้กลับไปติดเชื้ออีกครั้ง ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานยาทุกครั้ง ไม่ควรซื้อยากินเอง

  • หนูทุกตัวเป็นพาหะโรคฉี่หนูหรือไม่?

ไม่จำเป็นเสมอไปค่ะ เพราะไม่ใช่หนูทุกตัวที่จะมีเชื้อโรคหรือเป็นพาหะ แต่เราเองก็ไม่ควรประมาทด้วยเช่นกันค่ะ

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

โรคที่มากับหน้าฝน มีอะไรบ้าง มาดูวิธีรับมือและป้องกันลูกน้อยจากโรคเหล่านี้กัน!!

โรคมาลาเรีย โรคหน้าฝนที่คุณแม่และน้อง ๆ ต้องระวัง อย่าตกเป็นเหยื่อของยุงร้าย

"น้ำผึ้ง" ช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ไหม? เราควรทำอย่างไรในช่วงหน้าฝน?