แอล รียูเทอรี หรือที่เรามักจะได้ยินคำว่า แลคโตบาซิลัส รียูเทอรี ซึ่งเป็นแบคทีเรียโปรไบโอติก ที่ได้รับการรับรองถึงความสามารถของจุลินทรีย์ชนิดนี้ว่า สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ตัวร้ายที่ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็ก ที่แอลรียูเทอรี จะมีบทบาทอย่างมากต่อระบบลำไส้ และการย่อยอาหาร เรามาเจาะลึกกันว่า แอลรียูเทอรี นั้น เราจะสามารถพบเจอได้จากอาหารประเภทอะไร และช่วยเสริมสร้างร่างกายให้ลูกน้อยของเราได้อย่างไรกันบ้าง
แอล รียูเทอรี (L. reuteri) คืออะไร?
Lactobacillus reuteri หรือที่เรามักจะเรียกสั้น ๆ ว่า แอลรียูเทอรี เป็นแบคทีเรียโปรไบโอติก หรือจุลินทรีย์ตัวดี ที่มักจะพบอยู่ในบริเวณลำไส้ ระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ และอวัยวะเพศ (แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีจุลินทรีย์ตัวนี้)
ตัวแล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) จะมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป มากกว่า 50 สายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธ์ุจะมีจุดเด่นในการป้องกัน และเสริมสร้างร่างกาย ที่แตกต่างกันออกไป
แต่สำหรับ แลคโตบาซิลลัส รียูเทอรี นั้น เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ ระบบขับถ่าย รวมถึงการควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย
สำหรับเด็กเล็ก จุลินทรีย์ตัวนี้ จะช่วยไปกระตุ้นให้การทำงานระบบย่อยอาหารมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ซึ่งจะส่งผลกระทบไปถึงพัฒนาการของเด็กในระยะยาวอีกด้วย
L. Reuteri มีประโยชน์กับเด็กเล็กอย่างไร?
เนื่องจาก แลคโตบาซิลลัส รียูเทอรี เป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยส่งเสริมทำให้ระบบย่อยอาหารมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้เด็กเล็กที่มีปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ หมดไป
- อาการท้องผูก
- แน่นท้อง
- มวลท้อง
- ท้องอืด
- แหวะนม
- อาการโคลิก
เมื่ออาการต่าง ๆ หมดไป ตัวเด็กจะมีภาวะทางอารมณ์ที่ดี ไม่หงุดหงิด จึงส่งผลให้พัฒนาการทางอารมณ์ ทางสมอง และพัฒนาการทางด้านอื่น ๆ ปรับไปในทางที่ดีขึ้นอีกด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ชวนแม่ทำความรู้จัก จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์แอลจีจี ฮีโร่ตัวจิ๋วที่ช่วย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ให้ลูกรัก
ทำไมเด็กทารก ถึงต้องการ แอล รียูเทอรี
อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ว่าประโยชน์ของ แลคโตบาซิลลัส รียูเทอรี นั้นมีความสำคัญสำหรับเด็กเล็กอย่างมาก เนื่องจาก การใช้ชีวิตประจำวันของเด็กเล็ก อาจทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้มีความเปลี่ยนแปลง จุลินทรีย์ตัวดีจะถูกทำลายไปตามกาลเวลา แม้ว่าจะเป็นเพียงระยะสั้น ๆ ก็ตาม ในขณะที่เชื้ออื่น ๆ ก็จะก่อให้เกิดโรคไม่พึงประสงค์ตามมา
การเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดีเข้าไป เพื่อให้เกิดสมดุลภายในร่างกาย โดยเฉพาะลำไส้ อย่างจุลินทรีย์ แอล รียูเทอรี นั้น จะเป็นตัวส่งเสริมให้ระบบย่อยของเด็กเล็กสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น มีความแข็งแรง และสามารถต่อต้านเชื้อแบคทีเรียตัวเลว อันเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ให้เสื่อมประสิทธิภาพ ส่งผลให้ตัวเด็ก มีร่างกายแข็งแรง และมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี
ความสามารถของ L. Reuteri
หลายคนสงสัยว่า ทำไมเจ้าตัว แลกโทบาซิลลัส รียูเทอรี ถึงมีประโยชน์ เราจึงแยกแยะความสามารถของเจ้า แลกโทบาซิลลัสสายพันธุ์นี้ ได้ดังนี้
- รียูเทอรี จะเข้าไปแย่งอาหารจากเหล่าจุลินทรีย์ตัวร้าย ทำให้จุลินทรีย์ตัวร้าย ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ไม่มีอาหารเพียงพอต่อการเจริญเติบโต และตายไปในที่สุด
- ป้องกันไม่ให้เหล่าจุลินทรีย์ตัวร้าย เข้ายึดตัวกับผนังลำไส้
- นอกจากจะกำจัด และป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์ตัวร้ายทำร้ายร่างกาย (ลำไส้) แล้ว ยังผลิตสารที่เรียกว่า Lactic Acid ที่จะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ตัวร้ายได้อย่างถาวรอีกด้วย
เห็นถึงความสามารถของเจ้า แลกโทบาซิลลัส รียูเทอรี กันแล้ว คงต้องรีบเช็คแล้วล่ะค่ะว่า เราจะหาเจ้าแรร์ไอเทมตัวนี้ ได้จากไหนกันบ้าง
เราสามารถพบ L. Reuteri ได้จากไหน
แน่นอนว่า สำหรับเด็กทารกแล้ว การได้รับสารอาหารต่าง ๆ รวมถึงเจ้าแลคโตบาซิลลัส รียูเทอรี นั้น จะได้รับผ่านน้ำนมของแม่เท่านั้น โดยตัวคุณแม่เอง สามารถรับจุลินทรีย์ตัวนี้ได้จาก
- โยเกิร์ต
- คีเฟอร์
- ขนมปัง
- กิมจิ
- กะหล่ำปลี
แต่อาหารบางประเภท ก็ยังไม่คงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังคงให้นมลูก ดังนั้นจำเป็นจะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ส่วนอีกหนึ่งทางเลือกที่จะหาเจ้าจุลินทรีย์ตัวนี้ให้กับลูกน้อยของคุณได้ นั่นก็คือ การเลือกซื้ออาหารเสริม จำพวกโพรไบโอติก สำหรับเด็กนั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ถอดรหัส ประโยชน์ของจุลินทรีย์ LPR สุดยอดความลับในนมแม่ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ระบบทางเดินอาหาร แกร่งได้ จึงเก่งด้วย
การเลือกโพรไบโอติกสำหรับเด็ก และลูกน้อย
แม้ว่าปัจจุบันจะมีสารอาหาร หรืออาหารเสริมจำนวนมาก ได้ถูกผลิตออกมาให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย แต่การเลือกเฟ้นหาสิ่งที่ดี สิ่งที่เหมาะกับร่างกายของเรา โดยเฉพาะเด็กเล็ก ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องใส่ใจในรายละเอียดอย่างมาก เพื่อสุขภาพที่ดี และความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณ ดังนี้
- ควรปรึกษาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ และแพทย์ประจำตัวสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ก่อนการเลือกซื้ออาหารเสริมโพรไบโอติกสำหรับเด็ก รวมถึงอาหารเสริมชนิดต่าง ๆ ด้วย คุณพ่อคุณแม่ จำเป็นจะต้องสอบถามถึงข้อดี ข้อเสีย ความเสี่ยง และความจำเป็นในการใช้อาหารเสริมชนิดนั้น ๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเด็กเอง
- ควรแจ้งแพทย์ที่ปรึกษาถึงโรคประจำตัวของเด็ก และยาที่ใช้อยู่เป็นประจำให้ทางแพทย์ได้ทราบ เพื่อประเมินถึงความปลอดภัยในการรับอาหารเสริม
- หลีกเลี่ยงการใช้โพรไบโอติก หรือแลกโตบาซิลลัส พร้อมกับยาปฏิชีวนะ และยาต้านเชื้อรา เพราะอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี แต่หากจำเป็นจะต้องใช้ทั้งคู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
- จุลินทรีย์บางตัว อาจส่งผลข้างเคียงทั่วไปในช่วงแรก ๆ ซึ่งมักจะหายเองได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นอาการท้องเสีย หรือท้องอืด เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพาเด็กไปพบแพทย์โดยทันที
- เมื่อเริ่มใช้แล้ว จำเป็นจะต้องใช้อย่างสม่ำเสมอตามฉลากบรรจุภัณฑ์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้เกิดผลดีที่สุด
- เลือกรูปแบบอาหารเสริมให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็ก
- ควรเลือกโพรไบโอติกตามสายพันธุ์ที่ทางแพทย์ได้กำหนดไว้ และมีการรับรองข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แล้ว เนื่องจาก แต่ละสายพันธุ์ ก็จะส่งผลต่อร่างกายที่แตกต่างกันอีกด้วย
- ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ตามที่แพทย์แนะนำ
- หากใช้แล้ว พบอาการผิดปกติ เช่น หายใจติดขัด เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว ตามใบหน้า ท้องเสียไม่หยุด มีไข้สูง อาเจียน หรือมีอาการซึม ให้หยุดใช้อาหารเสริมนั้นทันที และพาเด็กเข้าพบแพทย์
แม้ว่าการทานอาหารเสริม จะช่วยให้การทำงานของร่างกายของเด็ก มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่คุณพ่อคุณแม่ ก็ควรดูแลสุขภาพของลูกน้อย ด้วยวิธีธรรมชาติควบคู่กันไปด้วย เช่น การทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะ ผักผลไม้ ที่มีพรีไปโอติก (Prebiotic) เพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของโพรไบโอติก ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับวัยของเด็กด้วยนะคะ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างแข็งแรงสมวัย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โพรไบโอติกส์ จุลินทรีย์ที่ดี มีประโยชน์ต่อลำไส้ทารกอย่างไร?
จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ [โพรไบโอติก (probiotics)] ที่พบในนมแม่
พรีไบโอติก มีประโยชน์อย่างไร ต่างจากโปรไบโอติกหรือไม่ ?
ที่มา : selfdecode , sciencedirect , pobpad
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!