บทความในวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของกาแฟกันให้มากยิ่งขึ้นค่ะ กาแฟถือเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ดังนั้น วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประเภทของกาแฟกันว่า กาแฟสำเร็จรูป กับ กาแฟคั่วบด นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะคุณจะได้สามารถเลือกดื่มกาแฟในแบบที่ใช่ได้อย่างง่ายดาย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน!
กระบวนการผลิตของ กาแฟสำเร็จรูป กับ กาแฟคั่วบด
กาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee)
สำหรับการกระบวนการกรรมวิธีทำกาแฟสำเร็จรูปนั้นจะสามารถทำด้วยการนำเอากาแฟคั่วบด ไปสกัดออกเป็นน้ำกาแฟ จากนั้น ก็นำเอาไปแปรรูปให้เป็นผง ซึ่งการผลิตที่ทำออกมาเป็นรูปแบบผงนั้นจะมีอยู่ 2 รูปแบบ ด้วยกัน ก็คือ
การผลิตในรูปการณ์พ่นแห้ง หรือแบบผงละเอียด (Spray drying) ซึ่งการผลิตกาแฟในรูปแบบนี้ก็จะเป็นการนำเมล็ดกาแฟ ไปทำการต้มแล้วพ่นน้ำกาแฟให้เป็นฝอยละเอียดผ่านไปในอากาศร้อน จากนั้น น้ำก็จะถูกระเหยออกไป เหลือแต่ผงกาแฟละเอียด แล้วก็จะได้เป็นกาแฟเป็นผง ๆ ละเอียด เหมือนที่ทุกคนน่าจะเคยเห็นในกาแฟสำเร็จรูปบางยี่ห้อ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วในอุตสาหกรรมของอาหาร ก็จะนิยมใช้วิธีผลิตแบบ Spray drying มาผลิตเครื่องดื่มสำเร็จรูปต่าง ๆ หลากหลาย เช่น น้ำผลไม้, นม, นมผงสำหรับทารก และชา เป็นต้น
แล้วก็อาจจะมีการนำไปใช้ผลิตในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย เช่น ไอศกรีม, แป้งทำเค้ก หรือไข่ เป็นต้น และในส่วนของประโยชน์ของการทำแบบพ่นแห้ง (Spray drying) สำหรับจุดเด่นของการผลิตในรูปแบบนี้ ก็คือจะสามารถทำให้วัตถุดิบแห้งได้เร็วมากและยังช่วยลดปริมาตร และน้ำหนักลง สามารถแปลงสภาพจากวัตถุดิบของเหลวให้หลายเป็นผงได้ในขั้นตอนเดียว ซึ่งทำให้การผลิตแบบพ่นแห้ง (Spray drying) มีความได้เปรียบในหลาย ๆ ด้าน
และก็อาจจะมีข้อเสียเพิ่มเข้ามาเล็กน้อยในส่วนของเรื่องรสชาติและกลิ่นของกาแฟ เนื่องจากกรรมวิธีการผลิตของกาแฟ Spray Dry จะออกมาเป็นผงกาแฟที่มีลักษณะค่อนข้างละเอียดจากการที่ใช้ความร้อน ซึ่งความร้อนที่ใช้ในการผลิตนั้น ก็จะทำให้สูญเสียกลิ่น และรสชาติของกาแฟไป ซึ่งอาจจะไม่ได้มีกลิ่นและรสชาติของกาแฟที่เข้มข้น ดังนั้น อาจจะต้องมีการแต่งกลิ่นและรสชาติเพิ่มเติมเข้าไปให้สมบูรณ์ค่ะ
การผลิตทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (Freeze Dry) สำหรับการผลิตกาแฟสำเร็จรูปชนิดฟรีซดราย หรือชนิดเกล็ด การผลิตในรูปแบบนี้ก็จะเป็นการนำน้ำกาแฟที่เข้มข้น ไปแช่เย็นจัด หรือในอุณหภูมิต่ำกว่า -40 C ภายใต้ความดันสูง จนกลายเป็นเกล็ดออกมา ก็จะได้กาแฟผงสำเร็จรูปในรูปแบบชนิดเกล็ดแข็ง ซึ่งจะมีขนาดที่ใหญ่กว่ากาแฟสำเร็จรูปแบบ Spray drying ซึ่งกาแฟสำเร็จรูปชนิดฟรีซดราย นั้นจะมีคุณสมบัติพิเศษในการที่จะรักษากลิ่นของกาแฟได้ดี ยังคงเก็บกลิ่นหอมของกาแฟไว้ให้คงความเป็นธรรมชาติอยู่ รวมถึงในส่วนของรสชาติกาแฟด้วย
อีกทั้ง ยังสามารถละลายได้ทั้งน้ำร้อน และน้ำเย็น ทำให้คุณชงดื่มได้ง่าย แถมยังได้ดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟแบบเข้มข้น และกาแฟสำเร็จรูปแบบฟรีซดราย (Freeze Dry) ยังสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานกว่ากาแฟสำเร็จรูปที่ผ่านกรรมวิธีผงละเอียด (Spray drying)
กาแฟคั่วบด (Roast and Ground Coffee)
สำหรับกาแฟคั่วบด นั้นได้ผ่านกระบวนการผลิตโดยเริ่มจากนำผลของเชอร์รี่กาแฟที่สุกแล้ว นำมาแปรรูปจนเหลือแต่เมล็ด และในส่วนของเมล็ดกาแฟที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ก็จะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ หลัก ๆ คือ Arabica และ Robusta นั่นเองค่ะ จากนั้นนำมาคั่วตามสูตรเฉพาะ ซึ่งระดับคั่วของกาแฟนั้นจะมีทั้ง คั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม และหลังจากผ่านการคั่วเสร็จ เมล็ดกาแฟก็จะต้องถูกทำให้เย็นลงทันที ไม่ว่าจะเป็นวิธีใช้ลม หรือน้ำ จากนั้นก็นำกาแฟคั่วบดไปชงดื่มทันที เพื่อไม่ให้กลิ่น และรสชาติจางไป ก็จะได้ดื่มกาแฟสดใหม่ ที่มีความเข้มข้น และกลิ่นหอมของกาแฟแบบแท้ ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ระวัง คาเฟอีน !! ไม่ใช่แค่ในกาแฟ แต่พบได้ในอาหารรอบตัวเด็ก
ระดับการคั่วกาแฟ
คั่วอ่อน (Light roast coffee)
- สำหรับการคั่วอ่อน คือจะเป็นการที่ทำให้เมล็ดกาแฟไม่ได้ผ่านความร้อนมาก และจะมีรสชาติเปรี้ยว เป็นรสชาติที่ไม่เข้มจนเกินไป และมีกลิ่นหอมของผลไม้ ซึ่งจะให้ความรู้สึกสดชื่นเวลาดื่ม
กาแฟคั่วกลาง (Medium roast coffee)
- สำหรับกาแฟคั่วกลาง เฉดสีของเมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลที่เข้มขึ้น และรสชาติของกาแฟก็จะมีความเข้มข้นระดับปานกลาง มีความขมอมเปรี้ยวหวานเล็กน้อย
กาแฟคั่วเข้ม (Dark roast coffee )
- สำหรับกาแฟคั่วเข้ม จะเป็นกาแฟที่ใช้ระยะเวลาในการคั่วนานที่สุด ทำให้เมล็ดกาแฟมีสีที่เข้มจนเกือบดำ และมีกลิ่นหอมที่ชัดมาก ๆ และรสชาติของกาแฟที่ได้จะมีความเข้มข้นและหอมกลิ่นกาแฟแบบเต็ม ๆ และจะไม่มีรสชาติเปรี้ยวหวานหลงเหลืออยู่เลย
วิธีการชงกาแฟคั่วบด
สำหรับการชงกาแฟคั่วบดนั้นจะมีความแตกต่างจากการชงกาแฟสำเร็จรูปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกลิ่นหรือรสชาติ และยังมีวิธีการชงหลากหลายรูปแบบอีกด้วย โดยวิธีที่ได้รับความนิยมจะแบ่งออกเป็นหลัก ๆ ดังนี้
ดริปกาแฟ
- สำหรับวิธีการชงกาแฟคั่วบดโดยการดริป วิธีการนี้จะใช้กระดาษกรอง โดยจะนำเอากาแฟคั่วบด ใส่ลงไปในกระดาษกรอง จากนั้น ก็ทำการรินน้ำร้อนลงไป แล้วปล่อยให้น้ำไหลผ่านกาแฟที่อยู่บนกระดาษกรอง และน้ำก็จะสกัดเอารสชาติของกาแฟออกมา จนกลายเป็นเครื่องดื่มกาแฟออกมา
Espresso
- ถือเป็นการชงกาแฟที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งรูปแบบ ซึ่งวิธีการทำนั้นจะต้องใช้เครื่องชงกาแฟโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวก และวิธีการก็คือจะใช้แรงอัดจากไอน้ำร้อน เพื่อส่งผ่านเข้าไปในเมล็ดกาแฟคั่วบด จนได้เป็นเครื่องดื่มกาแฟสูตรเข้มข้น
Frence Press
- สำหรับการทำกาแฟแบบนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแบบที่ได้รับความนิยม โดยวิธีการทำก็คือจะนำเอาเมล็ดกาแฟบดมาแช่กับน้ำร้อน โดยใช้เครื่องที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการชงด้วยวิธีนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะแตกต่างจาก 2 วิธีแรก ที่จะปล่อยให้น้ำไหลผ่านกาแฟบด และวิธีนี้ก็จะช่วยดึงรสชาติของกาแฟได้ดีกว่า ทำให้ได้รสชาติของกาแฟที่เข้มข้นแบบแท้ ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับข้อมูลกระบวนการผลิตของ กาแฟสำเร็จรูป กับ กาแฟคั่วบด ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ กว่าจะมาเป็นเครื่องดื่มกาแฟหนึ่งแก้วที่หลายคนชื่นชอบดื่ม ก็จะต้องผ่านกรรมวิธีการทำที่หลากหลายรูปแบบ และหลายขั้นตอนมาก ๆ เลยนะคะ หวังว่าบทความในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 10 กระดาษกรองกาแฟ เกรดดี ใช้งานสะดวก ไม่ติดกลิ่น !
แนะนำ 7 เครื่องบดกาแฟ ทั้งแบบไฟฟ้าและแบบมือ สำหรับคอกาแฟ
กาแฟย้อมสีผม มาเปลี่ยนสีผมจากธรรมชาติ ย้อมจริง เข้มจริง ผมไม่มีมีเสีย
ที่มา : suzuki-coffee, bluekoff, easycraftcoffee, nescafe
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!