X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ระวัง คาเฟอีน !! ไม่ใช่แค่ในกาแฟ แต่พบได้ในอาหารรอบตัวเด็ก

บทความ 5 นาที
ระวัง คาเฟอีน !!  ไม่ใช่แค่ในกาแฟ แต่พบได้ในอาหารรอบตัวเด็ก

คาเฟอีน (Caffeine) เป็นสารที่พบได้ในขนมเค้ก ไอศกรีม รสช็อกโกแลต โกโก้ ชาเขียว ไปจนถึงน้ำอัดลม พออ่านรายชื่ออาหารเหล่านี้แล้ว คงนึกขึ้นได้ทันทีว่า อาหารที่กล่าวไปนั้นมักอยู่ในงานเลี้ยงฉลองต่าง ๆ และเป็นของโปรดของเหล่าเด็ก ๆ อีกด้วย จนเราอาจลืมไปว่าหากปล่อยให้เด็กบริโภคมากเกินไปจะส่งผลต่อพัฒนาการของพวกเขาได้

 

ทำไมจึงควรระวัง คาเฟอีน ในเด็ก

ปกติแล้วเรามักจะระวังให้ร่างกายไม่ได้รับสารนี้มากจนเกินไปซึ่งมักจะมาจากกาแฟ แต่สำหรับเด็กแล้วถึงแม้เขาจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทานกาแฟก็ยากที่จะหนีพ้น เนื่องจากอาหารชนิดอื่น ๆ รอบตัวของเด็กนั้นมักมีส่วนผสมของคาเฟอีนอยู่ด้วยนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือขนม ที่อาจจะเป็นเมนูโปรดของเด็ก ๆ ตัวน้อยของเรา

 

สถิติของเด็กกับคาเฟอีนที่น่ากลัว

จากข้อมูลการวิจัยการทานอาหารในเด็กพบว่าในเด็กเล็กอายุ 6-11 ปี มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการทานอาหารกลุ่มเวเฟอร์ คุกกี้ ช็อกโกแลต เค้ก และไอศกรีมเป็นจำนวนมาก ถือเป็นของทานเล่นที่ได้รับความนิยม ซึ่งอาหารที่กล่าวไปทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของสารที่เรากำลังกล่าวถึงทั้งหมด หรืออาจกล่าวได้ว่าอันตรายมาพร้อมกับความอร่อยในอาหารของเด็ก

  

คาเฟอีน 2

 

คาเฟอีนอยู่รอบตัวเด็ก

ในยุคสมัยใหม่การหาอาหาร หรือเครื่องดื่มเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าในอดีตมาก เนื่องจากมีบริการส่งอาหารถึงที่พักอาศัย เมื่อสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทำให้มีโอกาสให้คนในครอบครัวได้ลองทานอาหารหลากหลายชนิด แน่นอนว่าอาหารหลายอย่างนั้นมีส่วนผสมของสารที่มีชื่อว่า “คาเฟอีน” สารที่เมื่อทานมากเกินไปจะเป็นอันตรายกับผู้ใหญ่ ดังนั้นจึงอันตรายมากขึ้นสำหรับร่างกายของเด็กด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

 

  • ขนมส่วนมากมีคาเฟอีน : ขนมรสชาติยอดฮิตคงหนีไม่พ้นช็อกโกแลต ชาเขียว หรือโกโก้ เป็นต้น โดยเราอาจไม่รู้ตัวว่าการบริโภคสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ต่างกับการดื่มกาแฟ ยิ่งรสชาติเข้มข้นมากเท่าไหร่นั่นหมายถึงปริมาณของสารดังกล่าวก็จะมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
  • น้ำอัดลมยอดฮิต : น้ำอัดลมเป็นทางเลือกของคนทั่วไปเมื่อไปเที่ยว หรือทานเล่นอยู่ในบ้าน สำหรับเด็กควรหลีกเลี่ยงน้ำอัดลมให้มากที่สุดอยู่แล้ว เนื่องจากส่งผลเสียต่อสุขภาพ เพราะนอกจากจะมีคาเฟอีนผสมอยู่ ปริมาณน้ำตาลในน้ำอัดลมยังสูงมากอีกด้วย
  • ชาแฝงไปด้วยคาเฟอีน : ชาเขียว, ชาผสมโกโก้ ไปจนถึงชาไทย เครื่องดื่มเหล่านี้มีรสหวาน และแน่นอนว่าแฝงไปด้วยสารตัวร้ายอย่างคาเฟอีน การดื่มชาเป็นประจำจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับเด็กควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
  • ไอศกรีมแสนหวาน : ทานไอศกรีมอยู่บ้านก็รับสารอันตรายตัวนี้ได้เช่นกัน โดยจะพบในรสจำพวกโกโก้ หรือช็อกโกแลต ซึ่งเป็นรสชาติที่ได้รับความนิยมสูงอยู่แล้วในอาหารประเภทนี้ การทานไอศกรีมจึงควรระมัดระวังไม่ให้เด็กทานมากจนเกินไปใน 1 วัน

 

อาหารที่พบสารคาเฟอีนจากที่กล่าวไปส่วนมากจะเป็นกลุ่มอาหารทานเล่นเสียมากกว่า หากเด็กต้องการทานขนมเหล่านี้ควรจำกัดปริมาณการทานให้เหมาะสม ประกอบกับสอนให้เด็กทานผักผลไม้ เพื่อให้สารอาหารที่ครบถ้วน ในส่วนของเครื่องดื่มควรให้เด็กเลี่ยงการดื่มน้ำหวานและเพิ่มการดื่มนม, น้ำผลไม้ หรือน้ำเปล่าทดแทนจึงจะเหมาะสมที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 ชาเพื่อสุขภาพ รสชาติอร่อย ดีต่อใจมาก ๆ

 

คาเฟอีน 3

 

หากปล่อยให้เด็กทาน คาเฟอีน พัฒนาการอาจแย่ลง

ถึงแม้การทานอาหารเหล่านี้จะไม่ทำให้เด็กเจ็บป่วย หรือเสียชีวิต นอกจากการทานในปริมาณมาก และทานทุกวัน อย่างไรก็ตามหากปล่อยให้เด็กทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนจนเป็นปกติ จะเป็นการฝึกนิสัยให้เด็กติดการทานอาหารเหล่านั้น ซึ่งจะส่งผลต่อพฤติกรรมการทานอาหาร และสุขภาพของเด็กในอนาคตด้วย ได้แก่

 

  • ทำให้เด็กหลับได้น้อยลง หรือหลับไม่สนิท ส่งผลให้เด็กง่วงในตอนกลางวัน
  • เมื่อเด็กหลับได้น้อย ทำให้ร่างกายได้นอนน้อย ส่งผลให้มีพัฒนาการที่เติบโตช้ากว่าปกติ นอกจากนี้จะสามารถส่งผลทางอ้อมกับการเรียนได้เช่นกัน
  • เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูงในอนาคต เพราะสารคาเฟอีนจะทำหน้าที่กระตุ้นหัวใจ เมื่อเด็กรับสารนี้เข้าไปจะมีผลยิ่งขึ้นมากกว่าวัยผู้ใหญ่

 

ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เด็กเป็นโรคร้ายในทันทีแต่การที่สารนี้ไปขัดขวางการพักผ่อนของเด็ก ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ “Growth hormone” ในร่างกายของเด็กทำงานผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของเด็ก

 

เด็กอายุเท่าไหร่กินกาแฟได้ 

สำหรับการดื่มกาแฟซึ่งเป็นเครื่องดื่มทั่วไปของคนวัยทำงานที่อาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้วบริโภคกาแฟที่มีสารดังกล่าวค่อนข้างมากนั้นไม่เหมาะสมกับเด็ก เนื่องจากที่กล่าวไปข้างต้นว่าสารคาเฟอีนอันตรายกับเด็กหลายอย่าง จึงควรให้เด็กหลีกเลี่ยงไว้ ส่วนอายุที่เหมาะสมกับการดื่มกาแฟนั้นคือช่วงอายุของคนวัยทำงานหรืออายุ 20 ปีขึ้นไป

บทความที่เกี่ยวข้อง : คาเฟอีน เช็คอาการติดกาแฟ ดื่มกาแฟทุกวัน เรียกว่าเสพติดหรือยัง ?

 

ทำอย่างไรให้ลูกปลอดภัยจากคาเฟอีน

การห้ามให้ลูกทานกาแฟอาจเป็นเรื่องง่ายกว่า เพราะเด็กไม่จำเป็นต้องดื่มอยู่แล้ว แต่หากเป็นขนมเค้ก หรือน้ำอัดลม อาจเป็นเรื่องยากที่จะห้ามเด็ก เนื่องจากเป็นอาหารที่พบได้ทั่วไป และถือเป็นของทานเล่นสำหรับเด็ก หรือคนทั่วไป ดังนั้นจึงควรให้เด็กทานในปริมาณที่เหมาะสม เช่น เค้กให้ทาน 1 ชิ้น และไม่ควรให้ทานทุกวัน เป็นต้น นอกจากนี้การสอน หรือพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับโทษของสารคาเฟอีนด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย หรือเปรียบเทียบให้ลูกเห็นภาพก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นกัน

 

คาเฟอีน

 

บทความจากพันธมิตร
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
LPR โพรไบโอติก เกรด A กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ลูกรักแข็งแรงพร้อมเรียนรู้
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
วัคซีน IPD จำเป็นที่ต้องให้ลูกรับหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 'โรคไอพีดี' และ 'วัคซีนป้องกันโรคไอพีดี'
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
สารพัด ปัญหาของลูกน้อย ที่คุณแม่กังวลใจ ลูกงอแง ไม่สบายท้อง ท้องอืด มีผื่นคัน แก้ด้วย Little Shield
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ

ของทานเล่นที่มีรสหวานแต่ไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก

จะทำอย่างไรได้เมื่อของหวานก็ยังเป็นสิ่งที่เด็กโหยหา และมีความต้องการ แต่ของหวานทุกชนิดไม่ได้จะมีอันตราย หรือมีส่วนผสมของคาเฟอีนเสมอไป ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถหามาให้ลูกทานเล่นได้เช่นกัน ได้แก่

 

  • น้ำรสหวานทางเลือก : ไม่เพียงแค่น้ำอัดลม และชาเท่านั้นที่มีรสหวาน น้ำผลไม้สดหลายชนิดเองก็มีรสหวานเช่นกัน เพราะมีส่วนผสมของ “ฟรุกโตส (Fructose)” ทำให้หวานโดยธรรมชาติ แต่การเลือกน้ำผลไม้ให้ลูกต้องคำนึงถึงส่วนผสมที่ใช้ในการผลิตทุกครั้งว่ามีน้ำตาลมากเกินไปด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ในปัจจุบันนมยังถูกผลิตออกมาหลายรสชาติไม่ใช่แค่เพียงรสจืดเท่านั้น หากให้ลูกลองทานนมรสหวานที่ไม่เคยทาน ลูกอาจชอบก็ได้เช่นกัน
  • ขนมหวานที่ดีต่อสุขภาพ : คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างทางเลือกให้เด็กได้ด้วยการหาร้านขนมที่ดีต่อสุขภาพของเด็ก เนื่องจากในปัจจุบันอาหารจำพวกเค้กขนมมีการนำสารที่มีชื่อว่า “มอลทิทอล (Maltitol)” มาใช้ในกระบวนการผลิตที่ให้ความหวานได้เหมือนกัน หรือให้ลูกกินขนมที่ทำจากผลไม้ เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตามการให้ลูกได้ทานอาหารรสหวานเหล่านี้มากเกินไปก็สามารถส่งผลข้างเคียงได้เช่นกัน ดังนั้นคำแนะนำที่ดีที่สุดให้ลูกปลอดภัยจากสารคาเฟอีนคือการให้เขาได้ทานอาหารที่หลากหลายทั้งเนื้อ ขนม และผลไม้ในปริมาณที่พอดีในแต่ละวัน ร่วมกับการฝึกให้ลูกได้ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอื่น และพูดคุยเกี่ยวกับการทานอาหาร ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่พ่อแม่ควรทำ

 

ที่มาข้อมูล : 1 2 3 4 5

 

บทความที่น่าสนใจ

ท้องกินชานมไข่มุกได้ไหม คนท้องกินชานมไข่มุกได้ไหม คนท้องกินชานม ชาเย็น กาแฟ ได้แค่ไหน ใจไม่สั่น?

ประโยชน์กาแฟ ดื่มแล้วดียังไง ดื่มมาก ๆ ก่อให้เกิดโทษหรือไม่ ?

คนท้องกินกาแฟได้ไหม ? การดื่มกาแฟเป็นอันตรายต่อคนท้องและทารกอย่างไร?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sutthilak Keawon

  • หน้าแรก
  • /
  • เด็กก่อนเข้าเรียน
  • /
  • ระวัง คาเฟอีน !! ไม่ใช่แค่ในกาแฟ แต่พบได้ในอาหารรอบตัวเด็ก
แชร์ :
  • คู่มือคุณพ่อ – คุณแม่ ! วิธีเลือกโลชั่นเด็ก เลือกอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย

    คู่มือคุณพ่อ – คุณแม่ ! วิธีเลือกโลชั่นเด็ก เลือกอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย

  • คนท้องกินฝรั่งแช่บ๊วยได้ไหม ชอบกินต้องหยุด เสี่ยงสารเคมีหลายตัว !

    คนท้องกินฝรั่งแช่บ๊วยได้ไหม ชอบกินต้องหยุด เสี่ยงสารเคมีหลายตัว !

  • รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

    รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

  • คู่มือคุณพ่อ – คุณแม่ ! วิธีเลือกโลชั่นเด็ก เลือกอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย

    คู่มือคุณพ่อ – คุณแม่ ! วิธีเลือกโลชั่นเด็ก เลือกอย่างไรให้เหมาะสมและปลอดภัย

  • คนท้องกินฝรั่งแช่บ๊วยได้ไหม ชอบกินต้องหยุด เสี่ยงสารเคมีหลายตัว !

    คนท้องกินฝรั่งแช่บ๊วยได้ไหม ชอบกินต้องหยุด เสี่ยงสารเคมีหลายตัว !

  • รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

    รู้ทัน! สาเหตุ อาการ 5 โรคตา ที่ต้องระวัง มีอะไรบ้าง?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ