แจกสูตรเด็ด เมนูเผือก ทำขนม ง่าย ๆ เด็กทานได้ มีประโยชน์แถมดีต่อสุขภาพ กับหลากหลายสูตร เมนูเผือก มีแบบเฮลตี้ รับรองว่าโดนใจสายคลีนแน่นอน !! ส่วนจะมีเมนูอะไรบ้าง มาจดสูตรเตรียมเข้าครัวไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
เผือก มาจากไหน?
แน่นอนว่าถ้าพูดถึงทุกคนต้องรู้จัก เพราะเป็นพืชหัวที่นิยมปลูก และรับประทานกันโดยทั่วไป เนื่องจากนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายทั้งเมนูคาว-หวาน หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง เผือกในทั่วโลกมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ แต่ในประเทศไทยได้รับความนิยม อยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ เผือกหอม เผือกเหลือง เผือกไม้ และเผือกตาแดง
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
- ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ลดอาการอักเสบ บำรุงลำไส้ และตามส่วนต่าง ๆ
- ช่วยป้องกันฟันผุ ทำให้กระดูกแข็งแรง เพราะเผือกมีธาตุเหล็กและฟลูออไรด์สูง
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ จากวิตามินอี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี
กินเผือกแล้วจะอ้วนไหม ?
เผือกเป็นพืชในกลุ่มที่ให้พลังงานสูง หากรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ จึงควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ควรบริโภค ½ – 1 ถ้วยตวงต่อวัน และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 4 เหตุผลที่ควรให้ลูกทาน อาหารเน้นพืชเป็นหลัก
เผือกทิพย์
ส่วนผสมเผือกทิพย์
- กะทิ 150 มิลลิลิตร
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- เผือกนึ่ง 400 กรัม
- ข้าวโพดต้ม 300 กรัม
วิธีทำเผือกทิพย์
- ตั้งหม้อโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำกะทิลงไปในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือคนให้เข้ากัน รอให้น้ำกะทิเริ่มร้อนแล้วปิดไฟยกลงจากเตา พักให้อุ่น ก่อนนำไปผสมกับเผือกนึ่ง
- นำเผือกมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น นำไปนึ่งจนสุกจากนั้นบดให้ละเอียด ใส่ผงฟูและข้าวโพด ใช้มือนวดคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- จากนั้นใส่น้ำกะทิที่เตรียมไว้ ลงไปค่อยๆใส่ทีละน้อย แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันจนหมด จากนั้นนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ
- นำเผือกมาย่างโดยใช้ไฟกลาง-อ่อน เพื่อให้ได้กลิ่นหอม และสีเข้มสวย เมื่อได้เผือกทิพย์สีที่ต้องการแล้วนำออกจากเตา จัดเสิร์ฟ
วิดีโอจาก Youtube : FoodTravelTVChannel
บัวลอยเผือกแก้วมะพร้าวอ่อน
ส่วนผสมบัวลอยเผือกแก้วมะพร้าวอ่อน
- เผือก 320 กรัม
- กะทิ 250 กรัม
- มะพร้าวอ่อน 130 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
- เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 300 กรัม
วิธีทำบัวลอยเผือกแก้วมะพร้าวอ่อน
- หั่นเผือกเป็นทรงลูกเต๋าเล็ก ๆ นำไปต้มในน้ำเดือด จนเผือกนิ่ม จากนั้นนำผสมกับแป้งมัน คลุกเคล้าให้ทั่วเผือก แล้วลงไปต้มอีกครั้งปรับไฟอ่อนต้มไปเรื่อย ๆ จนเผือกใสและมีเนื้อหนึบ จากนั้นแช่ด้วยน้ำเย็นพักไว้
- ตั้งกระทะเทกะทิ แล้วใส่เกลือเล็กน้อย น้ำตาล มะพร้าวอ่อน ขนจนส่วนผสมละลาย จากนั้นเติมเผือกแก้ว ตั้งไฟอ่อนจนได้กลิ่นหอม พร้อมตักเสิร์ฟ
วิดีโอจาก Youtube : MENUZAPZAP
ขนมเผือก
ส่วนผสมขนมเผือก
- เผือกสุก 1 ถ้วยตวง
- ข้าวโอ๊ตปั่นละเอียด 2/3 ถ้วยตวง
- กล้วยสุก 3 ลูก
- เกลือ 1/4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลหญ้าหวาน 1.5 กรัม
- นมอัลมอนด์รสจืด 5 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงต้ม
- เนื้อมะพร้าวอ่อน
- กล้วยน้ำว้า 3 ลูก
- น้ำมันสเปรย์
วิธีทำขนมเผือก
- นำส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นน้ำมันสเปรย์ มาคลุกเคล้าเข้าด้วยกันจนได้เนื้อเนียน
- ฉีดน้ำมันสเปรย์ใส่ภายในพิมพ์ขนมที่เตรียมไว้ จากนั้นเทส่วนผสมลงไป แล้วนำไปนึ่ง 15 นาที
- พักให้คลายความร้อนแล้วตักเสิร์ฟ
วิดีโอจาก Youtube : แม่บ้าน อาหารสุขภาพ
ข้าวโอ๊ตย่างไส้เผือก
ส่วนผสมข้าวโอ๊ตย่างไส้เผือก
- กะทิ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/8 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวโอ๊ต 200 กรัม
- เผือกนึ่งสุก 125 กรัม (ส่วนไส้ขนม)
- กะทิ 1/3 ถ้วยตวง (ส่วนไส้ขนม)
- น้ำตาล 20 กรัม (ส่วนไส้ขนม)
- เกลือ 1/8 ช้อนโต๊ะ (ส่วนไส้ขนม)
วิธีทำข้าวโอ๊ตย่างไส้เผือก
- ตั้งกระทะใช้ไฟอ่อน เทกะทิ ใส่น้ำตาล เกลือ คนจนส่วนผสมละลาย ตามด้วยข้าวโอ๊ต คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วพักไว้
- ทำไส้ โดยตั้งกระทะใช้ไฟอ่อนใส่เผือกนึ่งสุกบดละเอียด กะทิ เกลือ น้ำตาล กวนจนส่วนผสมข้นเหนียว จากนั้นปิดไฟพักให้คลายร้อน
- ใช้ใบตอง 2 ใบรองไว้ตักส่วนข้าวโอ๊ตลงก่อน ตามด้วยไส้เผือก ห่อจนเสร็จ
- นำไปย่างในกระทะโดยใช้ฝาปิดเพื่อให้สุกทั่วถึง โดยสังเกตที่ใบตองเริ่มไหม้ให้กลับอีกด้าน หรือนำไปอบใช้ไฟบน-ล่าง 200 องศา 20 นาที พร้อมจัดเสิร์ฟ
วิดีโอจาก Youtube : แม่บ้าน อาหารสุขภาพ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เทศกาลกินเจ ไม่อยากเจแตกฟังทางนี้ อาหารกินได้และอาหารต้องห้ามในช่วงกินเจ
5 เมนูมันม่วง เด็กทำได้ ไม่ต้องใช้เตาอบ อร่อย แถมดีต่อสุขภาพ
เมนูฟักทอง สูตรอาหารคุณแม่ให้นมบุตร เมนูฟักทองแสนอร่อย ประโยชน์เน้น ๆ
ที่มา : sukkaphap-d, medthai, mamastory
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!