X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • พัฒนาการลูก
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • การศึกษา
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ไฮโปไทรอยด์มีอาการอย่างไรบ้าง รวมควมรู้เกี่ยวกับโรคไฮโปไทรอยด์

บทความ 5 นาที
ไฮโปไทรอยด์มีอาการอย่างไรบ้าง รวมควมรู้เกี่ยวกับโรคไฮโปไทรอยด์ไฮโปไทรอยด์มีอาการอย่างไรบ้าง รวมควมรู้เกี่ยวกับโรคไฮโปไทรอยด์

ไฮโปไทรอยด์ คืออะไร โรคไฮโปไทรอยด์มีอาการอย่างไรบ้าง ไฮโปไทรอยด์มสาเหตุเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาหรือไม่ แล้วมีวิธีป้องกันไฮโปไทรอยด์อย่างไร รวมความรู้เกี่ยวกับโรคไฮโปไทรอยด์

 

ไฮโปไทรอยด์มีอาการอย่างไรบ้าง รวมควมรู้เกี่ยวกับโรคไฮโปไทรอยด์

women with thyroid gland problem on the blue background

ไฮโปไทรอยด์ เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ที่มีผลิตฮอร์โมนที่สำคัญบางชนิดไม่เพียงพอ ไฮโปไทรอยด์อาจะไม่แสดงอาการใด ๆ ในระยะแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไฮโปไทรอยด์และไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น โรคอ้วน ปวดข้อ ภาวะมีบุตรยาก และโรคหัวใจ และได้มีการทดสอบการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่แม่นยำเพื่อวินิจฉัยภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ การรักษาด้วยไทรอยด์ฮอร์โมนสังเคราะห์มักจะง่าย และปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทางแพทย์พบขนาดยาที่เหมาะสมสำหรับตัวผู้ป่วย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.youtube.com , https://www.youtube.com

 

ไฮโปไทรอยด์ คืออะไร

โรคไฮโปไทรอยด์ หรือภาวะขาดไทรอยด์ คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์นั้น ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาไม่เพียงพอ โดยต่อมไทรอยด์ซึ่งอยู่ด้านหน้าส่วนของคอทำหน้าที่ผลิต และส่งฮอร์โมนเข้าไปในกระแสเลือด ทั้งนี้ ฮอร์โมนดังกล่าวนั้นยังสามารถส่งผลต่ออวัยวะเกือบทุกส่วนของร่างกายตั่งแต่หัวใจไปยังสมอง และจากกล้ามเนื้อไปยังที่ผิวหนัง ฮอร์โมนไทรอยด์นั้นจะควบคุมกระบวนการใช้พลังงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย หรือเรียกว่ากระบวนการการเมตาบอลิซึม โดยกระบวนการเมตาบอลิซึมนั้นจะส่งผลต่ออุณหภูมิอัตราการเต้นของหัวใจ และเผาผลาญพลังงาน หากว่าร่างกายผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้เกิดกระบวนการทำงานของร่างกายนั้นช้าลง

 

อาการไฮโปไทรอยด์

อาการของไฮโปไทรอยด์ มีการปรากฏอยู่หลายออาการ และและแตกต่างกันออกไปตามระดับความรุนแรงที่ผู้ป่วยนั้นขาดฮอร์โทนดังกล่าว ทั้งนี้ อาการบางอย่างทีี่ปรากฏขึ้นก็อาจจะแสดงออกไม่ชัดเจน บางทีอาจจะคล้ายกับอาการป่วยของโรคอื่น ๆ และบางอาการก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ป่วยทุกราย แต่โดยทั่วไปแล้งอาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้น หากกระบวนการเมตาบอลิซึมทำงานช้าลงจะก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ โดยแบ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อย ๆ และอาการที่พบได้ไม่บ่อย ได้แก่

อาการที่พบได้บ่อยของผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์

  • มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • มีอาการท้องผูก
  • น้ำหนักขึ้น
  • มีอาการบวมน้ำ
  • มีอาการซึมเศร้า
  • มีอาการรู้สึกหนาวง่าย
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • มีผิว และผมแห้ง
  • มีอาการซึมเศร้า

อาการที่พบได้ไม่บ่อยของผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์

นอกจากอาการทั่วไปที่ได้กล่าวถึงไปแล้วนั้น ผู้ป่วยไฮโปไทรอยด์ยังสามารถที่จะเกิดอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยได้ โดยไม่ค่อยพบทั่วไปนัก ได้แก่

  • มีเสียงแหบ
  • มีความต้องการทางเพศลดลง
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมามากกว่าปกติ
  • หลงลืม หรือความคิดสับสน (พบในผู้ป่วยสูงอายุ)
  • เป็นโรคเส้นประสาทถูกกดทับที่ข้อมือ (ทำให้รู้สึกเจ็บหรือชาที่มือ)
  • มีลูกยาก

 

สาเหตุไฮโปไทรอยด์

เมื่อต่อมไทรอยด์ของคุณผลิตฮอร์โมนได้ไม่เพียงพอ ความสมดุลของปฏิกิริยาเคมีในร่างกายของคุณอาจทำให้คุณไม่พอใจ อาจมีสาเหตุหลายประการ รวมถึงโรคภูมิต้านตนเอง การรักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน การฉายรังสี การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ และยาบางชนิด

ต่อมไทรอยด์ของคุณเป็นต่อมรูปผีเสื้อขนาดเล็กที่ฐานด้านหน้าคอของคุณ ใต้ลูกแอปเปิลของอดัม ฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมไทรอยด์ — triiodothyronine (T3) และ thyroxine (T4) — มีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพของคุณ ซึ่งส่งผลต่อทุกด้านของการเผาผลาญของคุณ ฮอร์โมนเหล่านี้ยังส่งผลต่อการควบคุมการทำงานที่สำคัญ เช่น อุณหภูมิของร่างกายและอัตราการเต้นของหัวใจ

ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนได้เพียงพอ ภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่:

  • โรคแพ้ภูมิตัวเอง. สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติคือโรคภูมิต้านตนเองที่เรียกว่าไทรอยด์อักเสบของฮาชิโมโตะ ความผิดปกติของภูมิต้านทานผิดปกติเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณผลิตแอนติบอดีที่โจมตีเนื้อเยื่อของคุณเอง บางครั้งกระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ของคุณนักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แต่น่าจะมาจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ยีนของคุณและปัจจัยกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม มันเกิดขึ้น แอนติบอดีเหล่านี้ส่งผลต่อความสามารถในการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์
  • ตอบสนองต่อการรักษา hyperthyroidism มากเกินไป ผู้ที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป (ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน) มักได้รับการรักษาด้วยไอโอดีนกัมมันตภาพรังสีหรือยาต้านไทรอยด์ เป้าหมายของการรักษาเหล่านี้คือการทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานเป็นปกติ แต่บางครั้ง การแก้ไขภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินอาจทำให้การผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ลดลงมากเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำอย่างถาวร
  • การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ การกำจัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมดหรือส่วนใหญ่สามารถลดหรือหยุดการผลิตฮอร์โมนได้ ในกรณีนี้ คุณจะต้องกินฮอร์โมนไทรอยด์ไปตลอดชีวิต
  • การรักษาด้วยรังสี การฉายรังสีที่ใช้รักษามะเร็งศีรษะและลำคออาจส่งผลต่อต่อมไทรอยด์และอาจนำไปสู่ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำได้
  • ยา ยาหลายชนิดสามารถนำไปสู่ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำได้ ยาชนิดหนึ่งคือลิเธียมซึ่งใช้รักษาโรคทางจิตเวชบางอย่าง หากคุณกำลังใช้ยา ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์ของคุณ

ไม่บ่อยนักที่ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติอาจเกิดจากสิ่งต่อไปนี้:

  • โรคประจำตัว. ทารกบางคนเกิดมาพร้อมกับต่อมไทรอยด์ที่บกพร่องหรือไม่มีต่อมไทรอยด์ ในกรณีส่วนใหญ่ ต่อมไทรอยด์ไม่พัฒนาตามปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เด็กบางคนเป็นโรคนี้ที่สืบทอดมา บ่อยครั้งที่ทารกที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำแต่กำเนิดมักปรากฏเป็นปกติเมื่อแรกเกิด นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมรัฐส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องตรวจไทรอยด์ในทารกแรกเกิด
  • ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง สาเหตุที่ค่อนข้างหายากของภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติคือความล้มเหลวของต่อมใต้สมองในการผลิตฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) ที่เพียงพอ ซึ่งมักเกิดจากเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรงของต่อมใต้สมอง
  • การตั้งครรภ์ ผู้หญิงบางคนมีภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยในระหว่างหรือหลังการตั้งครรภ์ (ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติหลังคลอด) บ่อยครั้งเนื่องจากผลิตแอนติบอดีต่อต่อมไทรอยด์ของตนเอง หากไม่ได้รับการรักษา ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติจะเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด และภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้ความดันโลหิตของผู้หญิงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสามเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลร้ายแรงต่อทารกในครรภ์ที่กำลังพัฒนา
  • การขาดสารไอโอดีน แร่ธาตุไอโอดีนที่พบมากในอาหารทะเล สาหร่าย พืชที่ปลูกในดินที่อุดมด้วยไอโอดีน และเกลือเสริมไอโอดีน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ไอโอดีนน้อยเกินไปสามารถนำไปสู่ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ และไอโอดีนที่มากเกินไปอาจทำให้ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติในผู้ที่มีอาการอยู่แล้วแย่ลงได้ ในบางส่วนของโลก การขาดสารไอโอดีนเป็นเรื่องปกติ แต่การเติมไอโอดีนลงในเกลือแกงช่วยขจัดปัญหานี้ได้อย่างแท้จริงในสหรัฐอเมริกา

 

การรักษาไฮโปไทรอยด์

การรักษาไฮโปไทรอยด์สามารถรักษาได้การให้ฮอร์โมนสังเคราะห์อย่างยาเลโวไทรอกซิน ซึ่งเป็นยาสำหรับการรักประทาน ยาเลโวไทรอกซินจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนในร่างกายให้กลับมาเป็นปกติได้ หลังจากผู้ป่วยรับยาตัวนี้เข้าไปประมาณ 1 – 2 สัปดาห์จะเริ่มมีอาการดีขึ้น นอกจากนี้ ยาเลโวไทรอกซินยังค่อย ๆ ช่วยลดระดับคอเลสเติรอลที่เพิ่มขึ้นจากการป่วยเป็นไฮโปไทรอยด์ได้ด้วย ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาด้วยเลโวไทรอกซินตลอดชีวิต แต่การให้จำนวนตัวยาในการรักษาอาจเปลี่ยนแปลงได้ โดยแพทย์จะตรวจระดับฮอร์โมนทีเอสเอชของผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ ทางแพทย์จะให้จำนวนตัวยาในระดับที่เหมาะสมเพื่อรักาษไฮโปไทรอยด์ โดยตรวจระดับฮอร์โมนทีเอสเอชหลังจากให้ยาไปแล้ว 2 – 3 เดือน หากว่าผู้ป่วยได้รับยาเลโวไทรอกซินมากจนเกินขนาดจะเกิดผลข้างเคียง เช่น นอนไม่หลับ ตัวสั่น ใจสั่น นำ้ย่อยในกระเาะเพิ่มขึ้น เป็นต้น ผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือเกิดภาวะขาดไทรอยด์รุนแรงจะได้รับยาปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวนตัวยาขึ้นไป ซึ่งจะช่วยให้หัวใจสามารถปรับระดับการทำงานให้เข้ากับกระบวนการเผาผลาญของเมตาบอลิซึมทีเพิ่มขึ้นได้ ยาเลโวไทรอกซินจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงหากได้รับยาในปริมาณที่เหมาะสม ที่สำคัญผู้ป่วยไม่ควรที่จะหยุดกินยาเมื่อรู้สึกดีขึ้น เพราะอาการของโรคสามารถกลับมากำเริบได้อีก และควรได้รับการติดตามอาการรักษาอย่างต่อเนื่อง

คำเตือน คุณควรได้รับจากคำแนะนำจากแพทย์ก่อนที่จะใช้ยาใด ๆ รักษา เพื่อควรปลอดภัยของตัวคุณเอง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

โรคภูมิแพ้อาหาร แพ้อาหาร คืออะไร สาเหตุ วิธีป้องกัน และการรักษา

โรคไข้สมองอักเสบคืออะไร? ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคไข้สมองอักเสบ 

อาการโคลิค Vs ความเชื่อโบราณ อะไรคือความจริง!! สิ่งที่พ่อแม่หลายคนต้องเจอ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : 1 , 2

บทความจากพันธมิตร
โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
โลกใบใหม่ที่ไม่ได้มีแต่ความเงียบงัน ขั้นตอนการฟื้นฟูหลัง ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
น้องนดลต์ และน้องนภนต์ ฝาแฝดที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรง กับโอกาสสำคัญที่พลิกชีวิตสมาชิกทั้งครอบครัว
การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
การสูญเสียการได้ยิน ปัญหาเร่งด่วน ที่รับมือได้ตั้งแต่แรกเกิด แต่เด็กไทย อาจได้รู้เมื่อสายเกินไป
วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย และการป้องกันเบื้องต้น ที่แม่ต้องรู้
วิธีรับมือเมื่อเด็กทารกท้องเสีย และการป้องกันเบื้องต้น ที่แม่ต้องรู้

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kittipong Phakklang

  • หน้าแรก
  • /
  • เจ็บป่วย
  • /
  • ไฮโปไทรอยด์มีอาการอย่างไรบ้าง รวมควมรู้เกี่ยวกับโรคไฮโปไทรอยด์
แชร์ :
  • เด็กกระดูกหัก รับมืออย่างไร ลูกเล่นซนจนกระดูกหักรักษานานไหม?

    เด็กกระดูกหัก รับมืออย่างไร ลูกเล่นซนจนกระดูกหักรักษานานไหม?

  • ลูกเป็นลม หมดสติ รับมืออย่างไร เด็กหน้ามืดจะเป็นอันตรายไหม?

    ลูกเป็นลม หมดสติ รับมืออย่างไร เด็กหน้ามืดจะเป็นอันตรายไหม?

  • ทำความเข้าใจ Baby Blue ทำไมหลังคลอด คุณแม่ไม่ร่าเริง

    ทำความเข้าใจ Baby Blue ทำไมหลังคลอด คุณแม่ไม่ร่าเริง

app info
get app banner
  • เด็กกระดูกหัก รับมืออย่างไร ลูกเล่นซนจนกระดูกหักรักษานานไหม?

    เด็กกระดูกหัก รับมืออย่างไร ลูกเล่นซนจนกระดูกหักรักษานานไหม?

  • ลูกเป็นลม หมดสติ รับมืออย่างไร เด็กหน้ามืดจะเป็นอันตรายไหม?

    ลูกเป็นลม หมดสติ รับมืออย่างไร เด็กหน้ามืดจะเป็นอันตรายไหม?

  • ทำความเข้าใจ Baby Blue ทำไมหลังคลอด คุณแม่ไม่ร่าเริง

    ทำความเข้าใจ Baby Blue ทำไมหลังคลอด คุณแม่ไม่ร่าเริง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2022. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ