แคสเซิลเบอร์นราใช้หน้าเฟสบุคของเธอชื่นชมและให้กำลังใจ “แม่บ้าน” เธอหงุดหงิดเสมอที่ใครๆ มักพูดกันว่า “แม่บ้าน” ไม่ทำงาน เธอสมมติบทสนทนาระหว่างชายคนหนึ่งกับจิตแพทย์ขึ้น โดยชายดังกล่าวบ่นกับจิตแพทย์เรื่องที่ภรรยาของเขาไม่ทำงาน
กล่าวโดยสรุปคือ แคสเซิลเบอร์รี่บรรยายภาพชีวิตประจำวันของพ่อแม่ทุกคนที่ต้องตื่นแต่เช้าขึ้นมาจัดเตรียมสารพัดสิ่งอัน วางแผนจะทำเรื่องต่างๆ ร้อยแปดพันเก้าก่อนต้องให้นมลูกวัยแบเบาะและต้องไปรับส่งลูกวัยเรียน แต่ลงเอยทำเสร็จแค่เรื่องสองเรื่อง หมดสิทธิ์เข้านอนจนกว่าทุกคนในบ้านจะหลับแล้ว…และอาจต้องลุกขึ้นมากลางดึกเพราะลูกหิวน้ำ ลองอ่านโพสต์ฉบับเต็มของเธอกันค่ะ
เมียผมไม่ทำงาน
เมียผมไม่ทำงาน!!
นี่คือบทสนทนาระหว่างสามี (ส) กับจิตแพทย์ (จ)
จ: คุณทำอาชีพอะไรครับ คุณโรเจอร์
ส: ผมเป็นนักบัญชีธนาคารครับ
จ: ภรรยาของคุณล่ะ
ส: เธอไม่ทำงานครับ เธอเป็นแม่บ้าน
จ: ใครเป็นคนทำอาหารเช้าให้ครอบครัวคุณ
ส: เมียผมครับ เพราะเธอไม่ได้ทำงาน
จ: ภรรยาคุณตื่นนอนกี่โมง
ส: เธอตื่นเช้า ลุกขึ้นมาเตรียมนั่นเตรียมนี่ เธอต้องแพ็คอาหารกลางวันให้ลูก ดูแลให้ลูกแต่งตัว หวีผม ทานอาหารเช้า แปรงฟันและจัดกระเป๋านักเรียน เธอต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมกับเปลี่ยนชุดให้ลูกคนเล็ก จากนั้นก็ให้นมและเตรียมของว่างด้วย
จ: ลูกคุณไปโรงเรียนยังไง
ส: เมียผมไปส่งครับ เพราะเธอไม่ได้ทำงาน
จ: ส่งลูกเข้าเรียนแล้ว เธอทำอะไรต่อ
ส: เธอต้องวางแผนดีๆ ว่าจะไปไหนทำอะไรบ้าง จะได้ไม่ต้องยกคาร์ซีทของลูกขึ้นลงรถหลายรอบ อย่างไปจ่ายบิลหรือแวะซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าเธอลืมทำอะไรสักอย่างก็ต้องกระเตงลูกย้อนกลับไปอีกรอบ พอถึงบ้าน เธอต้องเตรียมมื้อกลางวันให้ลูกคนเล็ก จากนั้นก็ให้นม เปลี่ยนผ้าอ้อมและเตรียมพาลูกนอนกลางวัน ล้างจาน เก็บกวาดครัว ซักผ้า ตากผ้า ทำความสะอาดบ้าน อย่างว่าละครับ เธอไม่ได้ทำงานนี่
จ: เวลากลับจากที่ทำงานตอนเย็น คุณทำอะไรบ้าง
ส: ก็พักผ่อนน่ะสิครับ ผมเหนื่อยจากที่ทำงานมาทั้งวัน
จ: แล้วภรรยาคุณทำอะไรตอนเย็น
ส: เธอเตรียมอาหารเย็นให้ผมกับลูกๆ ล้างจาน เก็บกวาดบ้านอีกรอบ เก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น พอดูแลให้ลูกทำการบ้านเสร็จแล้ว เธอก็เตรียมพาลูกเข้านอน เปลี่ยนผ้าอ้อมให้คนเล็ก เอานมอุ่นๆ ให้ดื่ม แปรงฟันเด็กๆ ให้เรียบร้อย พอเข้านอนกันแล้ว บางทีเธอก็ต้องตื่นมาให้นมคนเล็กและเปลี่ยนผ้าอ้อมกลางดึก แต่เธอไม่ต้องตื่นไปทำงานวันรุ่งขึ้นนะครับ
นี่คือตารางประจำวันของผู้หญิงมากมายทั่วโลก ชีวิตเริ่มตั้งแต่ไก่โห่และลากยาวไปจนดึกดื่นค่ำมืด…แต่ถูกตีตราว่า “ไม่ได้ทำงาน”!!
แม่บ้านอาจไม่ต้องจบปริญญา แต่เธอมีบทบาทสำคัญที่สุดในทุกครอบครัว ขอให้รักและเทิดทูนผู้หญิงในชีวิตของคุณให้มาก ไม่ว่าจะเป็นแม่ ย่า ยาย ป้า น้า อา พี่สาว น้องสาว หรือลูกสาว…เพราะพวกเธอเสียสละอย่างใหญ่หลวง
ใครบางคนเอ่ยถามเธอว่า…
คุณเป็นผู้หญิงทำงาน หรือเป็นแค่ “แม่บ้าน”
เธอตอบว่า…
ฉันทำงานเป็น “แม่ของบ้าน” 24 ชม.ต่อวัน
ฉันเป็นแม่
ฉันเป็นผู้หญิง
ฉันเป็นลูกสาว
ฉันเป็นนาฬิกาปลุก
ฉันเป็นแม่ครัว
ฉันเป็นคนใช้
ฉันเป็นนาย
ฉันเป็นบาร์เทนเดอร์
ฉันเป็นพี่เลี้ยง
ฉันเป็นพยาบาล
ฉันเป็นช่างซ่อม
ฉันเป็นรปภ.
ฉันเป็นที่ปรึกษา
ฉันเป็นผู้ปลอบโยน
ฉันไม่มีวันพักร้อน
ฉันไม่มีสิทธิ์เจ็บป่วย
ฉันไม่มีวันหยุด
ฉันทำงานทั้งกลางวันกลางคืน
ฉันปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา
ฉันไม่ได้เงินเดือนและ…
แม้ชีวิตฉันจะเป็นเช่นนี้ แต่คนถามฉันเสมอว่า
“วันๆ เธอทำอะไรบ้างน่ะ”
ขออุทิศโพสต์นี้แด่ผู้หญิงทุกคนที่พลีทั้งชีวิตให้แก่ความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว
ผู้หญิงเปรียบเสมือนเกลือ ต้องขาดเธอไปเสียก่อน จึงจะตระหนักกันว่าทุกอย่างขาดรสชาติเพียงใด
แชร์ข้อความนี้แด่ผู้หญิงที่งดงามทุกคนในชีวิตของคุณ
โชคไม่ดีของแคสเซิลเบอร์รี่ ใช่ว่าผู้ใช้เฟสบุคทุกคนจะเห็นด้วยและชื่นชมแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่บ้าน พวกเขารู้สึกว่าแคสเซิลเบอร์รี่พยายามจะบอกว่าแม่บ้านทำงานหนักกว่าแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
มีคนเข้าไปไลค์โพสต์ของแคสเซิลเบอร์รี่มากถึง 527,000 ครั้ง แชร์ต่อ 190,000 ครั้งและได้รับข้อความตอบกลับ 300 คอมเมนต์
แม่ทำงานนอกบ้านต่างโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่พวกเธอต้องทำงานบ้านทั้งหมดที่แคสเซิลเบอร์รี่พูดถึง แถมยังต้องรับมือกับงานประจำอีก 8 ชั่วโมงต่อวัน ไหนล่ะคำชม
ส่วนพ่อบ้านและพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานนอกบ้านด้วยก็โมโหเช่นกัน โดยบอกว่าพวกเขาก็ต้องทำทุกอย่างเหมือนที่เธอโพสต์ แต่ไม่เห็นมีใครเห็นใจบ้างเลย
แคสเซิลเบอร์รี่จึงต้องออกมาแจงถึงสาเหตุที่เธอโพสต์บทสนทนาสมมติดังกล่าว
ขออธิบายให้คนที่ทิ้งคอมเมนต์หยาบคายถึงฉันนะคะ แรกสุดคือ โพสต์ของฉันพูดถึงสถานการณ์กว้างๆ…ไม่มีจุดไหนในโพสต์เลยที่ฉันบ่น ไม่มีตรงไหนเลยที่ฉันไม่ชื่นชมพ่อบ้าน ผู้ชายที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว หรือแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน (ความจริงแล้ว ฉันเองก็ทำงานนอกบ้านค่ะ เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าโพสต์นี้ไม่ได้เจาะจงใครโดยเฉพาะ) ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ฉันกล่าวถึงนี้ ขอให้อ่านโพสต์ของฉันอีกครั้งและแทนคำว่าแม่บ้านด้วยคำอะไรก็แล้วแต่ที่ตรงกับสถานการณ์ของคุณ ไม่เห็นมีใครเข้ามาคอมเมนต์เจาะจงมั่งเลยว่าไม่ได้ให้นมลูกเอง หรือว่าสามีเป็นกรรมกร ไม่ได้ทำงานธนาคารเหมือนในบทสนทนา ก็เพราะมันเป็นบทสนทนาสมมติแบบกว้างๆ ไงคะ คุณควรจะมองแต่ด้านบวกที่เห็นในโพสต์ของฉันและมองข้ามส่วนที่เหลือไป ด้านบวกที่ฉันเห็นคือ…พ่อแม่ภาคภูมิใจในทุกสิ่งที่ตนเองทำ แต่หลายๆ ครั้งคนก็มองข้ามไปทั้งที่พวกเขาควรได้รับคำชมบ้าง อีกอย่างคือ ถึงฉันจะภูมิใจในสิ่งที่ทำ แต่ฉันก็ภูมิใจในตัวคู่ชีวิตของฉันด้วยที่เขาทำงานหนัก ฉันไม่เคยพูดเป็นอื่น ฉันรู้ว่าสถานการณ์ในบทสนทนานี้ไม่เข้ากับรูปแบบชีวิตของทุกคน เพราะโพสต์นี้ฉันไม่ได้เขียนให้ทุกคน และไม่เคยมีเจตนาให้เป็นอย่างนั้นด้วย
แคสเซิลเบอร์รี่ยังบอกด้วยว่าคู่หมั้นของเธอเป็นพ่อที่ดีที่สุดและเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยเลี้ยงลูก เธอบอกว่าเธอเองก็ทำงานนอกบ้านและตั้งใจโพสต์แค่ให้เพื่อนและครอบครัวอ่าน…ไม่ได้จะให้แชร์กระหน่ำกันทั่วโลกขนาดนี้
แม้ว่าการเป็นพ่อแม่จะเหนื่อยยากและบางครั้งคุณอาจรู้สึกทดท้อหมดกำลังใจ แต่ขอให้จำไว้ว่าคนเป็นพ่อแม่ทุกคนต้องเหนื่อยทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน แต่ต้องตื่นนอนมารับมือกับลูกแรกเกิดตั้งแต่ตี 3 ถึง 6 โมงเช้า เป็นพ่อที่ทำงานวันละ 10 ชั่วโมงและรีบตรงกลับบ้านไปช่วยเตรียมอาหารเย็นและเล่นกับลูกสักห้านาทีก่อนลูกจะเข้านอน หรือจะเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำทุกอย่างเองโดยไม่มีใครช่วยเลยก็ตาม
ทุกคนต้องลำบาก ทุกคนต้องเหนื่อย ทุกคนมีเรื่องต้องกังวล และทุกคนคู่ควรได้รับคำชมเชยค่ะ
ที่มา themotherish.com
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
เช็คสิ! หลังมีลูก ชีวิตเปลี่ยนแบบนี้รึเปล่า
การ์ตูนโดนใจ : ชีวิตแม่ปีแรกก็อย่างนี้แหละ (20+)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!