วิธีสครับผิวหน้า ที่ถูกต้อง และไม่ทำให้เกิดระคายเคืองต่อผิว จะมีวิธีการอย่างไรบ้าง และมีข้อควรระวังเวลาสครับผิวหน้าอะไรบ้าง เพราะการสครับผิวหน้าก็ถือเป็นการทำความสะอาดโดยเป็นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ เพื่อขัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายไป แต่การสครับผิวหน้าก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่จะต้องทำเป็นประจำ แต่คุณก็จะต้องรู้ทริคในการสครับผิวหน้าที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดการระคายเคืองขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
เนื้อสครับมีทั้งหมดกี่ประเภท?
สำหรับสครับประเภทนี้จะเป็นสครับผิวหน้าที่มีส่วนผสมหลัก ๆ จากน้ำมันสกัดธรรมชาติ และจะมีเม็ดสครับขนาดเล็กอยู่ภายในน้ำมัน คุณสมบัติพิเศษของสูตรนี้ก็คือจะช่วยให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง และผิวธรรมดา
ในส่วนของสครับประเภทนี้จะมีเนื้อใส ๆ สามารถละลายเข้ากับผิวได้ มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวธรรมดา ผิวมัน และผิวแพ้ง่าย
จะมีลักษณะเป็นเนื้ออิมัลชัน มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมัน คุณสมบัติเด่น ๆ ก็คือจะช่วย ให้ความชุ่มชื้น แต่จะไม่เคลือบผิวเหมือน Oil Base เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง และผิวธรรมดา
สครับประเภทนี้จะเป็นเนื้อโลชั่น มีลักษณะที่คล้ายกับสครับเนื้อครีม แต่จะมีความเหลวมากกว่า อ่อนโยนต่อผิว และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะสำหรับคนผิวธรรมดา และผิวผสม
บทความที่เกี่ยวข้อง : 6 สูตรสครับผิวขาว สูตรธรรมชาติสามารถทำได้เองที่บ้านง่าย ๆ ปัง ๆไม่ต้องออกไปทำร้าน
วิธีสครับผิวหน้า ที่ถูกต้อง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
-
เลือกใช้สครับผิวหน้าที่เหมาะกับตัวเอง
ขั้นตอนแรกก่อนที่คุณจะเริ่มสครับผิวหน้า คุณจะต้องเลือกใช้สครับให้เหมาะกับสภาพปัญหาผิวหน้าของตัวเองก่อนนะคะ ควรที่จะพิจารณาให้ดีก่อนว่าเราควรใช้สครับขัดผิวหน้าสูตรไหน เพราะในปัจจุบันหลากหลายแบรนด์ก็ได้มีการผลิตจำหน่ายสครับผิวออกมาหลากหลายสูตรเพื่อให้ตอบโจทย์สำหรับปัญหาผิวของคนในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น เช่น ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม, ผิวธรรมดา หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นต้น
ดังนั้น เพื่อการใช้งานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด การเลือกสครับที่เหมาะกับผิวหน้าจึงถือเป็นขั้นตอนที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเลยนะคะ และถ้าหากใครเป็น โรคหูด สิวอักเสบ หรือเป็นโรคเริม ควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้สครับขัดผิวหน้านะคะ เนื่องจากอาจจะทำให้อาการหนักขึ้นได้ค่ะ
-
ทำตามคำแนะนำในการใช้สครับขัดผิวหน้า
เมื่อได้สครับที่เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเองแล้ว ก่อนที่จะใช้งานแนะนำให้อ่านคำแนะนำวิธีการใช้งาน และคำเตือนต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนนะคะ แล้วก็จะต้องตรวจดูวันหมดอายุด้วยเช่นกัน เพราะสครับแต่ละแบรนด์ที่ผลิตออกมาจำหน่ายก็จะมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เพื่อใช้สครับให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี อย่าลืมอ่านคำแนะนำก่อนนะคะ
ก่อนที่จะเริ่มการใช้สครับผิวหน้า อย่างแรกเลยคือคุณจะต้องทำให้ผิวเปียกทั่วใบหน้าแนะนำว่าควรใช้น้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติในการล้างหน้า ไม่ควรที่จะใช้น้ำร้อนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ผิวจะแห้ง
-
ใช้มือสครับผิวหน้าเท่านั้น
เวลาที่จะสครับผิวหน้า ควรที่จะใช้มือสครับผิวหน้าเท่านั้น ไม่ควรใช้อุปกรณ์ใด ๆ โดยเด็ดขาด เพราะผิวบนใบหน้าถือเป็นจุดที่มีความบอบบางที่สุด การใช้มือในการขัดจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ และถ้าหากใครที่มีปัญหาสิว ก็ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวตรงบริเวณเป็นสิวนะคะ เพื่อไม่ให้เกิดกระทบกับสิวจนทำให้มีอาการอักเสบที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม
-
ระยะเวลาในการใช้สครับผิวหน้า
ซึ่งวิธีสครับผิวหน้าที่ถูกต้อง แต้มสครับที่หน้าแล้วให้ใช้มือสครับแบบนวดวน ๆ ที่ผิวหน้าอย่างเบามือ ระวังอย่าถูผิวหน้าแรงเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองและหน้าจะแดง หรือลอกได้นะคะ แล้วก็ระวังอย่าให้สครับเข้าตาโดยเด็ดขาดซึ่งระยะเวลาในการสครับผิวหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไม่ควรเกิน 60-90 วินาที และไม่ควรทิ้งสครับไว้บนผิวหน้านานเกินไปนะคะ ถ้าเกินกว่าระยะที่บอกไว้ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และอาจจะทำให้ผิวบางได้ค่ะ
หลังจากสครับผิวหน้าตามที่ระยะเวลาที่กำหนดแล้ว จากนั้นก็ทำการล้างสครับออกให้หมด เมื่อล้างเสร็จแล้ว คุณก็จะสัมผัสได้ถึงผิวหน้าที่เนียนนุ่มยิ่งขึ้นกว่าเดิมค่ะ
ในส่วนของขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการดูแลผิวหลังจากสครับหน้าเสร็จแล้วนะคะ เมื่อล้างสครับออกจนหมดจด ใบหน้าสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้นำมาผ้าขนหนูมาซับหน้าให้แห้ง แล้วก็ลงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าทุกครั้งหลังสครับผิวนะคะ เพื่อป้องกันการเกิดผิวแห้งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 7 สครับผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี ในงบเพียงหลักร้อย!
สครับผิวหน้า ควรสครับตอนไหน
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเวลาที่สครับผิวหน้า แนะนำให้เลือกสครับผิวหน้าในช่วงกลางคืนก่อนที่จะเตรียมตัวเข้านอนจะดีที่สุดค่ะ เพราะหลังจากที่สครับผิวหน้าเสร็จแล้ว คุณก็จะมีการลงผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ บนผิวหน้า และสามารถนอนหลับพักผ่อนได้ทันที โดยที่ใบหน้าไม่ต้องออกไปเผชิญแสงแดด และมลภาวะข้างนอกในตอนกลางวัน ทำให้ตอนกลางคืนผิวหน้าของคุณจึงได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกยิ่งขึ้น
และผิวก็จะได้ซ่อมแซมตัวเองในช่วงเวลากลางคืนที่คุณนอนหลับค่ะ แล้วก็ระยะเวลาในการสครับผิวหน้าแนะนำให้ใช้สครับเพียงแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะถ้าหากใช้สครับขัดผิวหน้าบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหน้าบอบบาง และเกิดอาการลอก แดง แสบ และเจ็บได้ค่ะ
ข้อควรระวังในการสครับผิวหน้า
โดยปกติแล้วผิวหน้านั้นจะมีความบอบบางมากว่าผิวกาย ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะสครับผิวหน้าบ่อยจนเกินไป ซึ่งการสครับผิวหน้าที่ดีควรสครับ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวหน้าบางจนเกินไป
-
คนที่มีโรคเกี่ยวกับผิวหนังควรหลีกเลี่ยงการใช้สครับ
สำหรับคนที่เป็นสิวอักเสบ ผิวไหม้แดด ผิวแห้งแดง หรือบวม ไปจนถึงคนที่ป่วยเป็นโรคเริม หูด เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้สครับผิวหน้านะคะ เพราะอาจจะทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรง และเกิดการติดเชื้อได้
-
หากเกิดผลข้างเคียงให้หยุดใช้ทันที
เมื่อใช้สครับผิวหน้าแล้วรู้สึกว่าเกิดการระคายผิวมีอาการเจ็บแสบ ผิวเริ่มแดง หรือมีอาการแพ้เกิดขึ้น แนะนำให้หยุดใช้สครับทันทีนะคะ แล้วก็ควรพักการสครับผิวหน้า ไปสัก 1 สัปดาห์และควรเลือกผลิตภัณฑ์สครับผิวที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของคุณนะคะเพื่อความปลอดภัยของผิวหน้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ วิธีสครับผิวหน้า ที่ถูกต้อง ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ การสครับผิวก็ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวที่สำคัญมาก ๆ เช่นกันนะคะ แต่อาจจะเป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็นที่จะต้องทำเป็นประจำทุกวัน ดังนั้น ถ้าหากใครต้องการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป และอยากจะเผยผิวใสที่เปล่งปลั่ง กระจ่างใส ลองนำทริคสครับผิวที่เรานำมาฝากกันวันนี้ไปทำตามกันดูนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
5 วิธีดูแลผิวแพ้ง่าย ให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง กู้ผิวที่พังระคายเคืองให้มีสุขภาพดี
วิธีดูแลผิวหน้าก่อนนอน ดูแลผิวก่อนนอนยังไง ให้ตื่นขึ้นมาแล้ว ผิวดูดี มีออร่าอยู่
คนเป็นสิวควรรู้ ! โฟมล้างหน้าลดสิว เลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวหน้า
ที่มา : wikihow, sgechem
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!