พาลูกเที่ยวอย่างไร ใกล้ปีใหม่เข้ามาทั้งที พ่อแม่หลาย ๆ คนก็อยากที่จะพาลูกเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ แต่หลายครั้ง คุณพ่อคุณแม่อาจจะกังวลเมื่อต้องพาลูกน้อยไปด้วย เพราะเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาอารมณ์ของเจ้าหนูน้อยเหล่านี้ได้ เพราะบ่อยครั้งเมื่อต้องเดินทางไกล ๆ ก็มักจะพบว่าเด็ก ๆ มักจะร้องไห้งอแง อยากกลับบ้าน วันนี้ theAsianparent จึงนำวิธีรับมือ พาลูกเที่ยวอย่างไร ? ไม่ให้ลูกงอแงรบกวนคนอื่น มาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย
1. ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
ก่อนออกเดินทาง อยากให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ นอกจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำหรับท่องเที่ยวแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะเตรียมตัวสำหรับลูกน้อยด้วย เช่น การเตรียมของเล่นชิ้นโปรดของลูกน้อย เผื่อเวลาที่เขาเกิดหงุดหงิด งอแง ขึ้นมา ของเล่นชิ้นโปรดจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ลูกน้อยของคุณสงบลงได้ไม่ยากนัก หรือจะเป็นการเตรียมนม อาหารสำหรับเด็ก ขอบอกตรงนี้เลยว่า หากคุณแม่ท่านใดที่ลูกน้อยยังทานนมของคุณแม่อยู่ นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมาก ๆ เพราะคุณแม่จะไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมนมผง และขวดนมให้ยุ่งยาก แต่ถ้าหากลูกของคุณพ่อคุณแม่มีอายุเกิน 6 เดือน ก็ควรที่จะเตรียมขวดนม นมผง และอาหารที่เหมาะสมกับวัยเอาไว้ด้วย เพราะนอกจากจะช่วยลดปัญหาเมื่อลูกร้องงอแงตอนหิวแล้ว ยังช่วยทำให้ช่วยลดปัญหาลูกร้องงอแงตื้อให้ซื้อขนมที่ไม่มีคุณค่าทางอาหารอีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ : วิธีปราบลูกงอแงตอนไปเที่ยว วิจัยเผยวิธีรับมือลูกโวยวายเมื่อเดินทางไปเที่ยว
ภาพจาก shutterstock.com
2. แก้เบื่อด้วยการมีเรื่องตื่นเต้นมาเซอร์ไพรส์
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ค่อนข้างได้ผล โดยการให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ให้กับลูก ๆ ในตอนที่ขับรถเที่ยว โดยเซอร์ไพรส์ที่เตรียม ต้องทำให้เด็ก ๆ รู้สึกตื่นเต้น เพราะจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุก และไม่งอแงตลอดการเดินทางอย่างแน่นอน โดยเซอร์ไพรส์อาจจะเป็นตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ หรือขนมที่มีแพ็กเกจเป็นการ์ตูนตัวโปรดของเด็ก ๆ ก็ได้เช่นกัน โดยแนะนำว่าให้นำของใส่กล่องของขวัญ และให้เด็ก ๆ ในช่วงที่แวะปั๊มน้ำมัน หรือตอนที่แวะร้านอาหาร เท่านี้ก็ช่วยให้ลูก ๆ ไม่งอแงแน่นอน
3. เตรียมเกม หรือกิจกรรมง่าย ๆ ให้ทำระหว่างเดินทาง
คุณพ่อแม่ลองหาเกมง่าย ๆ ให้ลูกได้เล่นในระหว่างขับรถเที่ยว สำหรับเด็กเล็ก ๆ อาจจะเป็นสมุดระบายสี หรือจะเป็นการติดจอทีวีเล็ก ๆ ไว้เบาะหลัง หรือจะเตรียม Tablets ให้ลูกได้ดูช่องการ์ตูน หรือรายการที่ลูกชื่นชอบ รับรองว่าลูกจะต้องไม่เบื่อแน่ ๆ แต่หากเป็นอย่างหลัง คุณพ่อคุณแม่ต้องจำกัดเวลาการดูของลูก ๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เสียสายตาจนเกินไป
ภาพจาก shutterstock.com
4. ไม่ต้องเร่งรีบ เน้นผ่อนคลาย หยุดพักบ้างเป็นช่วง ๆ
หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่มักพบว่า ลูก ๆ ที่น่ารัก มักจะร้องขอเข้าห้องน้ำตลอดการเดินทาง ในตรงส่วนนี้อยากให้ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ทำใจ และเปลี่ยนมาแวะเข้าห้องน้ำให้ลูก ๆ แบบไม่ต้องเร่งรีบจะดีกว่า หรือจะเป็นการหาจังหวะในการพักรถ ด้วยการพาลูก ๆ แวะตามสวนสาธารณะ หรือจุดแวะที่น่าสนใจ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รู้สึกผ่อนคลาย เปลี่ยนบรรยากาศ หรือจะเป็นตามร้านขายของฝาก เพื่อให้เด็ก ๆ รู้สึกตื่นเต้นกับของแปลกตา ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
5. ประเมินสถานการณ์ให้ไว เมื่อลูกเริ่มงอแง
ในกรณีที่พาลูกเที่ยวอยู่ในที่สาธารณะ แล้วอยู่ ๆ ลูกเกิดงอแง กรีดร้องเสียงดัง รบกวนผู้อื่น ในส่วนนี้ คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบประเมินสถานการณ์ ว่ายังรับมือไหวหรือเปล่า หากเมื่อประเมินสถานการณ์แล้วว่าไม่ไหว แนะนำว่าให้รีบอุ้มลูกออกมาก่อน และขอโทษคนที่อยู่ใกล้ ๆ และเมื่อลูกเริ่มสงบจึงค่อยกลับเข้าไปใหม่ เพราะการทำแบบนี้จะเป็นการทำให้คุณพ่อคุณแม่เองไม่ต้องตกเป็นเป้า และไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นอีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ : ลูกงอแงระหว่างเที่ยว มีสาเหตุจากอะไร และคุณแม่ควรรับมืออย่างไร
ภาพจาก shutterstock.com
6. ผ่อนคลาย เน้นท่องเที่ยวให้มีความสุขมากที่สุด
ด้วยความที่เดาอารมณ์ของลูกค่อนข้างยาก คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนจึงรู้สึกกังวลเมื่อต้องพาลูกไปเที่ยว เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ปล่อยวาง ทำใจให้สบาย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องผ่อนคลายกับทุกสถานการณ์ และไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ หรือบางครั้งอาจจะมีข้อผิดพลาด หรือเหตุสุดวิสัย คุณพ่อคุณแม่ต้องมีสติ ไม่ใช้อารมณ์แก้ปัญหา นึกไว้เสมอว่า เวลาไปเที่ยว คือการได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขกับลูก เพียงเท่านี้จะช่วยให้การท่องเที่ยวสนุกและราบรื่นอย่างแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ :
ใครว่า ที่เที่ยวเชียงใหม่ มีดีแค่ธรรมชาติ พาชม 5 พิพิธภัณฑ์ น่าไปเมืองเชียงใหม่
เที่ยวยังไงให้ได้ความรู้ พาลูกเที่ยวเสริมทักษะ ไปกับ 5 พิพิธภัณฑ์ในโคราช
กิจกรรมกลางแจ้ง สำหรับเด็กยุคโควิด ทำอะไรได้บ้าง? กิจกรรมใดที่ปลอดภัย
ที่มา :
medium, momster, babimild
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!