TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต กรมสุขภาพจิตแนะ 'นั่งให้น้อย เล่นให้เยอะ!'

บทความ 3 นาที
เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต กรมสุขภาพจิตแนะ 'นั่งให้น้อย เล่นให้เยอะ!'

กรมสุขภาพจิตแนะนำพฤติกรรมที่อายุ 1-5 ขวบควรทำและภัยร้ายของ โทรศัพท์-แท็บเล็ต มีผลต่อการพัฒนาสติปัญญาและสมองแน่นอน!

เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต กรมสุขภาพจิตแนะ ‘นั่งให้น้อย เล่นให้เยอะ!’

 

เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต

เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต

ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีและแก็ดเจ็ดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราทุกคนไม่ว่าจะในเรื่องของการทำงาน การใช้ชีวิต และแน่นอนการเลี้ยงดูลูก หลายคนนำมือถือหรือแท็ปเล็ตเข้ามาใช้เป็นเครื่องมือช่วยเลี้ยงลูกของเราโดยการให้ลูกดูสิ่งต่างๆในเครื่องมือเหล่านี้โดยที่ไม่รู้เลยว่าถ้ามันมากเกินไปบางครั้งก็อาจจะเป็นโทษมากกว่าประโยชน์ด้วยซ้ำโดยวันนี้เราจะมา เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต

จากการรายงานของกรมสุขภาพจิตทำให้เราเห็นว่า ผู้ใหญ่มากกว่า 23% และวัยรุ่นมากกว่า 80% มีกิจกรรมทางกายภาพที่ไม่เพียงพอและยังพบว่าพฤติกรรมเนือยนิ่งมากกว่าปกติ กรมสุขภาพจิตจึงแนะนำให้ผู้ปกครองที่ดูแลบุตรหลาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกฉบับล่าสุดที่ออกประกาศใช้นั้นก็คือการลดพฤติกรรมที่เนือยนิ่ง เช่น การนั่งเฉยๆโดยไม่ทำอะไร การนั่งติดกับสายรัดในรถเข็น รวมถึงการนั่งดูโทรทัศน์ โทรศัพท์ หรือแก็ดเจ็ดประเภทที่มีหน้าจอ ควรเพิ่มพฤติกรรมที่มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น เช่นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเน้นการนอนหลับที่มีคุณภาพและสำคัญมากคือการควบคุมเวลาหน้าจออย่างเข้มงวด

เดินเล่นกับลูกแค่ครึ่งชั่วโมง กระชับความผูกพัน

ยิ่งไปกว่านั้นจากการศึกษายังค้นพบว่าเด็กเล็กคนไหนที่มีพฤติกรรมใช้ มือถือ แก็ดเจ็ดหรือติดเทคโนโลยีหน้าจอนั้นมีแนวโน้มว่าการพัฒนาทางปัญญาและอารมณ์นั้นค่อนข้างได้คะแนนที่น้อยกว่ากว่าเด็กที่ไม่ใช้เวลากับสิ่งเทคโนโลยีเหล่านี้

โดยองค์กรอนามัยโลกนั้นมีการแนะนำให้เด็กแต่ละวัยตั้งแต่ช่วงอายุ 1 ถึง 5 ขวบมีกิจกรรมที่ใช้เวลาแตกต่างกันไปโดยแบ่งออกกิจกรรมออกเป็น 3 รูปแบบได้แก่; การเคลื่อนไหว การใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีประเภทที่มีจอ และการนอน โดยจะแบ่งออกเป็นช่วงอายุ

เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ

  • การเคลื่อนไหว : ควรเคลื่อนไหวหลายครั้งต่อและควรเคลื่อนไหว
    ติดต่อกัน
    30 นาที
  • การใช้หน้าจอ : ไม่ควรใช้เด็ดขาด แนะนำให้ผู้ปกครองใช้การเล่านิทาน
    หรืออ่านหนังสือ
  • การนอน : ควรนอน 14-17 ชั่วโมง/วัน

เด็กอายุ 1-2 ขวบ

  • การเคลื่อนไหว : ควรเคลื่อนไหวร่างกายวันละ 180 นาที หรือมากกว่า
  • การใช้หน้าจอ : เด็กอายุ 1 ขวบไม่ควรใช้ /เด็กอายุ 2 ขวบ จำกัด 1ชม/1วัน
  • การนอน : ควรนอน 11-14 ชั่วโมง/วัน

เด็กอายุ 3-4 ขวบ

  • การเคลื่อนไหว : ควรเคลื่อนไหวร่างกายวันละ 180 นาที หรือมากกว่า(โดยเน้นกิจกรรมที่ใช้พลังงานมาก)
  • การใช้หน้าจอ : จำกัดเวลา 1ชม/1วัน
  • การนอน : ควรนอน 10-13 ชั่วโมง/วัน

จากตารางจึงสรุปได้ว่าผู้ปกครองควรเอาใจใส่ลูกและชักชวนลูกให้เคลื่อนไหว และที่สำคัญการหลีกเลี่ยงการใช้มือถือและแก็ดเจ็ดนั้นสำคัญมาก เพราะการพัฒนาความฉลาดทางปัญญา อารมณ์ นั้นจะดีขึ้นมากหากหลีกเลี่ยงเทคโนโลยีที่มันมากเกินไป

การส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการพัฒนาปัญญาและอารมณ์นั้นควรจะเริ่มตั้งแต่เด็กเล็ก เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตเมื่อโตขึ้นในอนาคต

 

ความคิดเห็นของคุณคืออะไร

บทความจากพันธมิตร
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
ไม่ใช่แค่ยุงกัด...แต่คือวิกฤต เมื่อ “ไข้เลือดออก” สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งมากกว่าที่คิดในครอบครัว
ไม่ใช่แค่ยุงกัด...แต่คือวิกฤต เมื่อ “ไข้เลือดออก” สร้างผลกระทบที่ลึกซึ้งมากกว่าที่คิดในครอบครัว
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน

ที่มา : Children glued to screens show delays in key skills ,กรมประชาสัมพันธ์กรมสุขภาพจิต 

,https://www.it24hrs.com/2019/baby-electronic-device-warning/

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

เช็กพฤติกรรม “ลูกติดโทรศัพท์” ส่งผลสมาธิสั้น

ลูกติดเกม ติดมือถือ อันตราย! วิธีเลี้ยงดูลูกอย่างไร ไม่ให้ลูกเสพติดจอ อย่าทำร้ายสุขภาพลูก

6 วิธีแก้เด็กติดจอ ดูแลลูกอย่างไรไม่ให้ติดโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

bossblink

  • หน้าแรก
  • /
  • ช่วงวัยของเด็ก
  • /
  • เตือนภัยจากมือถือและแท็บเล็ต กรมสุขภาพจิตแนะ 'นั่งให้น้อย เล่นให้เยอะ!'
แชร์ :
  • ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

    ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

  • 20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

    20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

  • เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
    บทความจากพันธมิตร

    เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้

  • ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

    ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ เตือน ของเล่นอันตราย ตุ๊กตาโมนิ หรือ ของเล่นกดสิว แถมเข็มฉีดยา

  • 20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

    20 กิจกรรมเสริม IQ EQ ให้ลูกวัย 3-6 ปี ฉลาด สมาธิดี ควบคุมอารมณ์ได้

  • เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้
    บทความจากพันธมิตร

    เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรก จุดเริ่มต้นที่คุณแม่สร้างได้

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว