ลูกถ่ายยากทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใช่ไหมคะ? มาดู 8 วิธีทำให้ลูกอึง่ายขึ้น ด้วยเทคนิคอ่อนโยน ปลอดภัยตามหลักกุมารแพทย์ ช่วยให้ลูกสบายตัวและขับถ่ายได้เป็นปกติกันค่ะ
ลูกไม่ถ่ายหลายวัน ท้องผูกหรือเปล่า?
เวลาลูกทารกไม่ถ่าย 1–3 วัน หรือเบ่งหน้าแดงแต่ไม่ออก พ่อแม่มักเริ่มวิตกทันทีว่า “ลูกท้องผูกหรือเปล่า?” จริง ๆ แล้วในช่วง 0–12 เดือน ระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายของทารกยังอยู่ในระยะพัฒนา จึงอาจมีจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอค่ะ
ข้อมูลจาก American Academy of Pediatrics (AAP) ระบุว่า
- เด็กแรกเกิดถึง 1 เดือน: อาจถ่ายวันละ 4–12 ครั้ง ถือว่าปกติ
- หลัง 2–3 เดือน: อาจถ่ายแค่วันละ 1–2 ครั้ง หรือบางทีเว้นวันก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์
แต่ถ้าลูกเบ่งหนักมาก หน้าแดง ตัวเกร็ง หรือต้องใช้แรงมากเวลาอึ อาจทำให้ลูกไม่สบายตัว งอแง หรือร้องไห้เวลาเบ่ง พ่อแม่จึงอยากหาวิธีช่วยให้ “ลูกอึง่ายขึ้น” โดยที่ไม่ต้องพึ่งวิธีรุนแรงอย่างการสวนทวาร
เข้าใจธรรมชาติการขับถ่ายของทารก
ก่อนจะหา วิธีทำให้ลูกอึง่ายขึ้น พ่อแม่ควรรู้ว่า ลูกไม่ถ่าย ไม่ได้แปลว่าท้องผูกเสมอไปนะคะ เพราะในเด็กเล็กมี 2 ภาวะที่ต้องแยกออกจากกัน
-
เบ่งแต่ไม่ออก
- มักเกิดในทารกอายุ 1–6 เดือน
- ลูกเบ่งแรง ร้องเสียงดัง แต่สุดท้ายอุจจาระออกมา “นิ่ม” ไม่ใช่ก้อนแข็ง
เกิดเพราะสมองและลำไส้ยังไม่ประสานการเบ่งและการคลายหูรูด
-
ท้องผูกจริง
- อุจจาระแข็งเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายลูกกระสุน
- อาจมีเลือดติดเพราะเบ่งแรง
- ถ้าเป็นเรื้อรังจะทำให้เด็กไม่อยากอึ เกิดภาวะอุจจาระอุดตัน หรือ โรคขี้เต็มท้อง
งานวิจัยจาก Mayo Clinic อธิบายว่า ระบบลำไส้ของทารกยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ การบีบตัวของลำไส้ยังไม่สม่ำเสมอ ทำให้บางครั้งต้องใช้แรงเบ่งมากขึ้น

เช็คก่อนว่าแบบนี้ “ปกติ” หรือ “ต้องพบหมอ”
ไม่ใช่ว่าลูกไม่ถ่าย 1–2 วันแล้วต้องรีบสวนทวารนะคะ เราต้องสังเกตสัญญาณให้ดีว่า ลูกอยู่ในกลุ่มปกติหรือ กลุ่มเสี่ยง
ถ่ายยากแบบปกติ (ไม่ต้องกังวลมาก)
- เบ่งหน้าแดง แต่สุดท้ายก็ถ่ายออกมาได้
- เนื้ออุจจาระยังนิ่ม สีเหลืองหรือสีน้ำตาล ไม่แข็งเป็นก้อน
- ยังยิ้มเล่นได้ ไม่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง
ต้องพบแพทย์ถ้ามีอาการเหล่านี้
- อุจจาระแข็งเป็นก้อนเล็ก ๆ หรือแข็งมากจนลูกเจ็บ
- มีเลือดปนในอุจจาระ
- ลูกไม่ถ่ายเลยเกิน 5–7 วัน (โดยเฉพาะในเด็กที่กินนมผง)
- ท้องบวม แข็ง ร้องไห้ไม่หยุด
ข้อมูลจาก American Academy of Family Physicians ระบุว่า ถ้าทารกกินนมแม่อย่างเดียวและยังร่าเริง แม้จะไม่ถ่าย 5–7 วัน ก็ยังอาจอยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่างไรก็ตาม คุณแม่อาจปรึกษาคุณหมอเพื่อความสบายใจค่ะ
8 วิธีทำให้ลูกอึง่ายขึ้น แบบอ่อนโยนและปลอดภัย
1. นวดท้อง “I Love You” Massage
การนวดท้องทารกช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น คุณแม่สามารถทำได้โดย ใช้ปลายนิ้วนวดเบา ๆ รอบท้องลูกตามแนวลำไส้ใหญ่ โดยเขียนตัวอักษร “I–L–U” (I Love You) บนหน้าท้อง
อ้างอิงจาก Infant Massage USA ระบุว่า การนวดเบา ๆ วันละ 5–10 นาทีช่วยให้เด็กถ่ายง่ายขึ้นและลดอาการโคลิกได้อีกด้วย
2. ท่า “ปั่นจักรยานอากาศ”
จับขาลูกทั้งสองข้างปั่นช้า ๆ เหมือนปั่นจักรยาน การเคลื่อนไหวนี้ช่วยกระตุ้นลำไส้และลดแก๊สในท้องได้ค่ะ
งานวิจัยใน Journal of Pediatric Nursing พบว่า ท่านี้ช่วยลดอาการท้องอืดและช่วยให้เด็กถ่ายง่ายขึ้น
3. อาบน้ำอุ่น
การอาบน้ำอุ่นหรือใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นวางบนหน้าท้องลูก (ประมาณ 5 นาที) ช่วยให้ลำไส้คลายตัว ความร้อนอ่อน ๆ จะทำให้ลูกผ่อนคลาย ลดการเกร็งเวลาพยายามเบ่งได้ค่ะ
4. Belly Time ให้ลูกขยับ
การให้ลูกนอนคว่ำเล่นวันละหลาย ๆ ครั้ง ขณะที่ตื่นอยู่ ช่วยให้ลูกเกร็งกล้ามท้อง ฝึกการเบ่งตามธรรมชาติ
งานวิจัยด้านพัฒนาการเด็กพบว่า tummy time ช่วยทั้งพัฒนากล้ามเนื้อคอ ท้อง และกระตุ้นระบบขับถ่าย

5. ปรับการให้นม
- เด็กกินนมแม่: บางครั้งอาหารของแม่มีผลกับลูก เช่น นมวัว กาแฟ ช็อกโกแลต คุณแม่ควรสังเกตว่าเมื่อแม่กินอะไรแล้วลูกถ่ายยากขึ้นไหม
- เด็กกินนมผง: บางสูตรย่อยยาก อาจต้องปรึกษาคุณหมอหรือเภสัชกรเพื่อปรับเป็นสูตรที่ย่อยง่ายขึ้น
6. เพิ่มน้ำหลัง 6 เดือน
WHO แนะนำว่า ก่อน 6 เดือน เด็กที่กินนมแม่อย่างเดียว ไม่ต้องดื่มน้ำเพิ่ม หลังจากเริ่มอาหารตามวัยสามารถให้ลูกจิบน้ำอุ่นเล็กน้อยระหว่างวันได้ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
7. อาหารที่ช่วยให้ลูกอึนิ่ม
เมื่อเริ่มอาหารตามวัยแล้ว (6 เดือนขึ้นไป) คุณแม่สามารถเลือกผลไม้ที่ช่วยให้อุจจาระนิ่ม เช่น Prune (พรุน), Pear (แพร์), Peach (พีช), Papaya (มะละกอ)
หลักการ P-fruit เป็นที่ยอมรับใน American Dietetic Associationว่าช่วยป้องกันท้องผูกในเด็กเล็ก
8. ช่วยจับเบ่ง
อุ้มลูกให้นั่งในท่าสควอช โดยให้หลังพิงอกแม่ มือรองก้น และยกเข่าลูกขึ้นเล็กน้อย ท่านี้ทำให้กล้ามเนื้อท้องกดลงง่ายขึ้น ช่วยให้ลูกเบ่งอุจจาระได้โดยไม่เจ็บ
ข้อควรระวังเรื่อง ยาช่วยขับถ่าย และ การสวนทวาร
บางบ้านอาจใช้ ยาสวนทวาร หรือ ยาช่วยขับถ่าย บ่อยเกินไป ซึ่งไม่ควรทำ
ข้อมูลจาก AAP และ NHS ยืนยันว่า:
- การใช้ยาสวนทวารควรใช้เฉพาะกรณีจำเป็นจริง ๆ เช่น ลูกไม่ถ่ายหลายวัน ท้องแข็ง และต้องให้แพทย์แนะนำ
- การใช้ยาบ่อยเกินไปทำให้ลูกพึ่งพาสิ่งกระตุ้นภายนอก แทนการเรียนรู้เบ่งเองตามธรรมชาติ
- หลีกเลี่ยงการใช้วัตถุสอดเข้าทวารหนักลูก เช่น ปลายเทอร์โมมิเตอร์ หรือสำลีพันก้าน เพราะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
การช่วยให้ลูกถ่ายได้ไม่ใช่แค่เรื่องความสบายตัว แต่ยังเกี่ยวข้องกับ สุขภาพลำไส้ พัฒนาการกล้ามเนื้อ และความรู้สึกที่ลูกมีต่อการขับถ่ายในอนาคตอีกด้วยค่ะ ถ้าลูกเจ็บทุกครั้งเวลาอึ เขาอาจจดจำว่า การขับถ่ายคือเรื่องน่ากลัว และเลี่ยงอึจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง
8 วิธีทำให้ลูกอึง่ายขึ้น ที่พูดถึงในบทความนี้ เช่น นวดท้อง ปั่นจักรยานอากาศ อาบน้ำอุ่น ปรับนม เพิ่มน้ำ ผลไม้ P-fruit นอนคว่ำเล่น และท่าช่วยอึ ล้วนเป็นวิธีธรรมชาติและปลอดภัย แต่หากทำวิธีเหล่านี้แล้วลูกยังไม่ถ่ายหลายวัน อุจจาระแข็งมาก หรือมีอาการผิดปกติ ควรพาไปพบกุมารแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมนะคะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
วิธีแก้ทารกไม่ถ่าย ทำยังไงให้ลูกน้อยถ่ายง่าย ท้องไม่ผูก
ลูก 1 เดือน กินนมแม่ แต่ไม่ถ่ายหลายวัน ท้องผูกรึเปล่า ผิดปกติไหม
เคล็ดลับ! วิธีเปลี่ยนนม เพื่อคุณแม่สบายใจ คุณลูกสบายท้อง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!