X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

โรคพร่องเอนไซม์G6PD Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase

บทความ 5 นาที
โรคพร่องเอนไซม์G6PD  Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase

โรคพร่องเอนไซม์G6PD  Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase  เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกหากได้รับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ ได้แก่ อาหาร หรือยาบางอย่าง การติดเชื้อต่างๆ เช่นเชื้อไวรัส รวมทั้งการเป็นโรคเบาหวานที่ทำให้เกิดกรด เนื่องจากเอนไซม์ G6PD (glucose-6-phosphate dehydrogenase) มีหน้าที่สำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึมของน้ำตาลกลูโคสเพื่อให้ได้สารกลูตาไธโอน ซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันเม็ดเลือดแดงจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ โดยจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงเนื่องจากมีความผิดปกติของพันธุกรรมแบบ X-linked recessive

อาการ โรคพร่องเอนไซม์G6PD

  • มีภาวะซีด เหลือง จากการที่เม็ดเลือดแดงแตกอย่างเฉียบพลัน ซึมลง อุณหภูมิกายสูงขึ้น ในเด็กทารกจะพบภาวะเหลืองที่ยาวนานกว่าปกติ

  • ปัสสาวะเหลืองเข้มหรือสีดำเหมือนสีน้ำชาหรือโค้ก ในรายที่ปัสสาวะน้อยอาจนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลันได้

โรคพร่องเอนไซม์ G6PD เป็นโรคทางพันธุกรรมของกระบวนการสร้างและสลายโรคหนึ่งซึ่งทำให้เม็ดเลือดแดงแตกเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้นต่างๆ ในช่วงเวลาปกติผู้ป่วยจะไม่มีอาการใดๆ แต่หากได้รับสิ่งกระตุ้นจะมีอาการ ตัวเหลือง ปัสสาวะเข้ม หายใจหอบเหนื่อย และทำให้อ่อนเพลียได้ ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยได้แก่อาการซีด และอาการตัวเหลืองในทารกแรกเกิด ผู้ป่วยบางรายไม่เคยมีอาการใดๆ เลยตลอดชีวิต

โรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดผ่านโครโมโซมเอ็กซ์แบบลักษณะด้อย ทำให้เกิดความบกพร่องในเอนไซม์ Glucose-6-phosphate dehydrogenase สิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการมีหลายชนิด ตัวอย่างเช่น การติดเชื้อ ยาบางชนิด ความเครียด อาหารบางชนิด เช่น ถั่วปากอ้า ความรุนแรงมีหลากหลายขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดการกลายพันธุ์ การวินิจฉัยทำได้โดยดูจากอาการ การตรวจเลือด และการตรวจพันธุกรรม

การรักษาที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เมื่อมีอาการกำเริบแต่ละครั้งแพทย์อาจให้การรักษาการติดเชื้อ หยุดยาที่เป็นสาเหตุ และอาจให้เลือดหากมีความจำเป็น กรณีทารกแรกเกิดที่มีอาการตัวเหลืองอาจต้องรักษาด้วยการส่องไฟหรือถ่ายเลือด ในยาบางชนิดจะมีแนวทางปฏิบัติกำหนดให้ต้องตรวจผู้ป่วยที่จะใช้ยาว่าเป็นโรคนี้ เช่นในกรณียาไพรมาควิน เป็นต้น

บทความประกอบ : อาการโรคไตวาย วิธีรักษาโรคไต เรื่องควรรู้เกี่ยวกับอาการไตวาย

Advertisement

สาเหตุโรคพร่องเอนไซม์G6PD

โรคพร่องเอนไซม์

โรคนี้เกิดจากภาวะที่พร่องเอนไซม์ G6PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในกระบวนการเมแทบอลิซึม  เช่น H2O2 ที่เป็นพิษต่อเซลล์ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดแดง ดังนั้นเอนไซม์ G6PD จึงเป็นเอนไซม์ที่ช่วยป้องกันเม็ดเลือดแดงจากการทำลายของสารอนุมูลอิสระ (Oxidants) คนที่เกิดภาวะพร่องเอนไซม์ชนิดนี้แล้วจะทำให้เกิดอาการเม็ดเลือดแดงแตก (Heamolysis) ได้ง่าย สาเหตุของการพร่องเอนไซม์ G6PD เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมแบบ X-linked recessive โรคนี้จึงพบในผู้ชายได้มากกว่าผู้หญิงค่ะ

G6PD เป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่มีบทบาทในวิถีเพนโทสฟอสเฟต ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมปริมาณของ โคเอนไซม์ NADPH ในสถานะรีดิวซ์ ซึ่งจะช่วยให้เซลล์มี glutathione ในสถานะรีดิวซ์เพียงพอที่จะเก็บกวาดอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ โดย G6PD จะมีหน้าที่ในขั้นตอนของการเปลี่ยนสาร glucose-6-phosphate ไปเป็น 6-phosphoglucono-δ-lactone ซึ่งเป็นขั้นตอนกำหนดอัตราปฏิกิริยาของวิถีเมตาบอลิซึมวิถีนี้

วิถีเมตาบอลิซึมที่อาศัย G6PD และ NADPH นี้ เป็นวิธีเดียวที่จะสร้าง glutathione ในสถานะรีดิวซ์ให้กับเซลล์เม็ดเลือดแดง ในขณะที่เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่สำคัญในการขนถ่ายออกซิเจน ซึ่งเป็นแหล่งที่ทำให้เกิดความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน การมี G6PD, NADPH, และ glutathione ที่จะช่วยป้องกันความเสียหายนี้จึงสำคัญกับเม็ดเลือดแดงมาก

ผู้ป่วยภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดเลือดจางจากการแตกสลายของเม็ดเลือดแดงได้เมื่อต้องเจอกับแรงกดดันจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidative stress) ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ หรือจากการได้รับสารเคมีจากยาและอาหารบางชนิด ถั่วปากอ้ามีสารไวซีน ไดไวซีน คอนไวซีน และไอโซยูรามิล ในปริมาณสูง สารเหล่านี้สามารถทำให้เกิดตัวออกซิไดซ์ได้

เมื่อ glutathione ในสถานะรีดิวซ์ถูกใช้หมดไป เอนไซม์และโปรตีนอื่นๆ (รวมถึงฮีโมโกลบินด้วย) จะถูกตัวออกซิไดซ์ทำให้เสียหายผ่านปฏิกิริยาออกซิเดชัน โดยทำให้เกิดพันธะเชื่อมส่วนต่างๆ ของโปรตีนเข้าด้วยกัน เกิดการตกตะกอนขึ้นในเยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดแดงที่เสียหายจะถูกกลืนกินและทำลายที่ม้าม ฮีโมโกลบินที่ถูกปล่อยออกมาจากเซลล์จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการสร้างและสลายกลายเป็นบิลิรูบิน ซึ่งหากมีปริมาณมากจะทำให้เกิดภาวะดีซ่าน โดยทั่วไปแล้วในกรณีนี้เม็ดเลือดแดงจะไม่แตกสลายขณะอยู่ในหลอดเลือด จึงไม่ทำให้ฮีโมโกลบินถูกขับผ่านไต แต่ในกรณีที่เป็นรุนแรงก็อาจเกิดขึ้นได้ และอาจทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันได้

สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ

  • อาหาร โดยเฉพาะ ถั่วปากอ้า (Fava beans, Feva beans, Broad beans) ซึ่งมีสาร Vicine, Devicine, Convicine และ Isouramil ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระ (Oxidants)

  • การติดเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาว หลั่งสารอนุมูลอิสระ (Oxidants) มากขึ้น

  • การเป็นโรคเบาหวานที่ทำให้เกิดกรด (Diabetic ketoacidosis)

  • การได้รับยาต่าง ๆ ที่กระตุ้นอาการ

นักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยเท็กซัสในเมืองฮุสตัน (UTHealth) เปิดเผยว่าการบริโภคน้ำตาลมากเกินไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้อย่างมาก อันที่จริงแล้ว การศึกษาก่อนหน้านี้ที่ดำเนินการโดยนักวิจัยที่โรงเรียนแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเอมอรีและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) พบว่าผู้ที่บริโภคน้ำตาลเพิ่มระดับสูง เช่น ในอาหารแปรรูปและเครื่องดื่ม มีมากขึ้น มีแนวโน้มที่จะมีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจสูงขึ้น

บทความประกอบ : ไวรัส RSV เชื้อโรควัยร้ายในวัยเด็ก โรคRSV ป้องกันอย่างไร?

วิธีเพิ่มฮีโมโกลบินได้ที่บ้าน

 Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase (G6PD)

เฮโมโกลบินเป็นโปรตีนที่พบในเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เหล่านี้มีหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย

นอกจากการขนส่งออกซิเจนแล้ว เฮโมโกลบินยังนำคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากเซลล์และเข้าสู่ปอดอีกด้วย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกปล่อยออกมาเมื่อบุคคลหายใจออก การมีฮีโมโกลบินต่ำอาจทำให้ร่างกายทำหน้าที่เหล่านี้ได้ยาก ในบทความนี้ เรียนรู้วิธีเพิ่มระดับฮีโมโกลบินอย่างเป็นธรรมชาติ เรายังดูวิธีการทดสอบและผลลัพธ์ที่แสดงด้วย

1. เพิ่มปริมาณธาตุเหล็ก

คนที่มีระดับฮีโมโกลบินลดลงอาจได้รับประโยชน์จากการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมากขึ้น ธาตุเหล็กทำงานเพื่อเพิ่มการผลิตฮีโมโกลบิน ซึ่งช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงมากขึ้นด้วย

อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก ได้แก่

  • เนื้อและปลา
  • ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง รวมทั้งเต้าหู้และถั่วแระญี่ปุ่น
  • ไข่
  • ผลไม้แห้ง เช่น อินทผาลัมและมะเดื่อ
  • บร็อคโคลี
  • ผักใบเขียว เช่น คะน้าและผักโขม
  • ถั่วเขียว
  • ถั่วและเมล็ด
  • เนยถั่ว

บทความประกอบ : ทำไมไข่ถึงมีสีต่างกัน? ไข่สีขาวหรือสีน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพ ควรเลือกซื้อแบบไหน

 

2. เพิ่มการบริโภคโฟเลต

โฟเลตเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตฮีโมโกลบิน ร่างกายใช้โฟเลตในการผลิตฮีม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเฮโมโกลบินที่ช่วยลำเลียงออกซิเจนหากบุคคลไม่ได้รับโฟเลตเพียงพอ เซลล์เม็ดเลือดแดงของเขาก็จะไม่สามารถเจริญเติบโตเต็มที่ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางจากการขาดโฟเลตและระดับฮีโมโกลบินต่ำ แหล่งโฟเลตที่ดี ได้แก่

  • เนื้อวัว
  • ผักโขม
  • ข้าว
  • ถั่ว
  • ถั่วดำ
  • ถั่วไต
  • อะโวคาโด
  • ผักกาดหอม

3. เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กสูงสุด

วิธีเพิ่มฮีโมโกลบิน

การบริโภคธาตุเหล็กในอาหารหรืออาหารเสริมเป็นสิ่งสำคัญ แต่บุคคลควรช่วยให้ร่างกายดูดซับธาตุเหล็กนั้นด้วยอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว สตรอว์เบอร์รี และผักใบเขียว สามารถเพิ่มปริมาณธาตุเหล็กที่ดูดซึมได้ การเสริมวิตามินซีอาจช่วยได้เช่นกัน วิตามินเอและเบต้าแคโรทีนช่วยให้ร่างกายดูดซึมและใช้ธาตุเหล็กได้

อาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ ได้แก่

  • ปลา
  • ตับ
  • สควอช
  • มันฝรั่งหวาน
  • คะน้าและกะหล่ำปลี

บทความประกอบ : น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี รวม 11 น้ำมันปลา กินแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย

 

บทความจากพันธมิตร
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
RSV ในเด็ก ไวรัสร้ายมหัตภัยเงียบ คุกคามชีวิตเด็กเล็ก
RSV ในเด็ก ไวรัสร้ายมหัตภัยเงียบ คุกคามชีวิตเด็กเล็ก
Ask the Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ  ลูกป่วยบ่อย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้สมองไม่ไบร์ท ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้อย่างไรบ้าง?
Ask the Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ ลูกป่วยบ่อย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้สมองไม่ไบร์ท ส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้อย่างไรบ้าง?
ปอดจิ๋วห่างไกล โรค RSV: ความรู้ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเพื่อปกป้องลูกรัก
ปอดจิ๋วห่างไกล โรค RSV: ความรู้ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเพื่อปกป้องลูกรัก

อาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ได้แก่ ผลไม้และผักสีเหลือง สีแดง และสีส้ม เช่น

  • แครอท
  • มันฝรั่งหวาน
  • สควอช
  • แคนตาลูป
  • มะม่วง

แม้ว่าอาหารเสริมวิตามินเอสามารถช่วยให้ร่างกายผลิตธาตุเหล็กได้ แต่วิตามินเอนั้นอันตรายหากบริโภคมากเกินไป วิตามินเอที่มากเกินไปอาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่าภาวะวิตามินเอเกิน (Hypervitaminosis A) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดกระดูกและข้อ ปวดหัวอย่างรุนแรง และความดันในสมองเพิ่มขึ้น

4. การเสริมธาตุเหล็ก

แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ที่มีระดับฮีโมโกลบินต่ำมากให้ทานอาหารเสริมธาตุเหล็ก ปริมาณจะขึ้นอยู่กับระดับของบุคคล สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าธาตุเหล็กมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ อาจทำให้เกิด hemochromatosis ซึ่งอาจนำไปสู่โรคตับและผลข้างเคียง เช่น ท้องผูก คลื่นไส้ และอาเจียน

อาหารเสริมจะทำให้ระดับธาตุเหล็กเพิ่มขึ้นทีละน้อยในช่วงสองสามสัปดาห์ แพทย์อาจแนะนำให้ทานอาหารเสริมเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อเพิ่มปริมาณธาตุเหล็กในร่างกาย

ที่มา : medicalnewstoday wikipedia

บทความประกอบ :

ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ SLE โรคแพ้ภูมิตัวเอง คืออะไร ?

โลหิตจาง คืออะไร โรคโลหิตจางมีอาการ สาเหตุ วิธีรักษา อย่างไรบ้าง

อาหารเพิ่มเม็ดเลือดแดงคนท้อง คนท้องเลือดจางควรกินอะไร ?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Thippaya Trangtulakan

  • หน้าแรก
  • /
  • เจ็บป่วย
  • /
  • โรคพร่องเอนไซม์G6PD Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase
แชร์ :
  • ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

    ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

  • แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

    แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

  • หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

    หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

  • ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

    ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

  • แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

    แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

  • หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

    หมอเตือน! โรคครูป ระบาดหน้าฝน สังเกตเสียงไอ-รับมือก่อนลูกแย่

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว