TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง อาหาร 6 อย่าง บรรเทาอาการทารกท้องเสีย

บทความ 8 นาที
ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง อาหาร 6 อย่าง บรรเทาอาการทารกท้องเสีย

ทารกมักท้องเสียง่ายเป็นเรื่องปกติ แต่อาการท้องเสียอาจเป็นเรื่องใหญ่ได้ถ้าร่างกายขาดน้ำก็อาจเป็นอันตรายได้ คุณแม่หลายคนมักแยกอาการท้องเสียกับอุจจาระนิ่มจากการกินนมแม่ไม่ออก ดังนั้น จึงต้องอาศัยการสังเกตและจดจำลักษณะของอุจจาระลูกน้อย วันนี้ theAsianparent จะพาคุณแม่มาดูกันว่า ภาวะท้องเสียในทารกเกิดจากอะไร และหาก ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง ไปติดตามกันค่ะ

 

โรคท้องเสียในทารก คืออะไร

โรคท้องเสียในทารก คือ ภาวะที่ลูกถ่ายอุจจาระเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือถ่ายมีมูกเลือดอย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ และไวรัส จากการรับประทานอาหารต่าง ๆ ที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่ด้วย หากลูกถ่ายอุจจาระติดต่อกันหลายครั้ง ก็อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ และภาวะขาดสารอาหารตามมา ซึ่งเด็กที่มีภาวะขาดน้ำจะมีอาการงอแง กระหายน้ำ เซื่องซึม ร้องไห้ไม่มีน้ำตา กระหม่อมบุ๋ม ผิวแห้ง และมีปัสสาวะน้อยลง

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกท้องเสีย

คุณแม่ควรหมั่นสังเกตว่าในช่วงเวลาปกตินั้น อุจจาระของเจ้าตัวน้อยมีสี กลิ่น และมีลักษณะอย่างไร ซึ่งโดยปกติแล้วทารกแรกเกิดมักขับถ่ายหลังดื่มนมแม่และอุจจาระจะมีลักษณะค่อนข้างนิ่ม หากทารกสามารถรับประทานอาหารอื่น ๆ นอกจากนมแม่ได้แล้ว ส่วนบนของอุจจาระอาจมีลักษณะต่างกันไปตามอาหารที่รับประทาน และอุจจาระมักมีลักษณะเป็นก้อนมากขึ้น ซึ่งสัญญาณท้องเสียของทารกลูกอาจมีอาการปวดท้อง มีแก๊สในท้อง หรือมีอาการท้องอืดก่อน

ส่วนอาการท้องเสียของทารกอาจสังเกตได้ยาก แต่หากพบว่าลูกน้อยขับถ่ายมากกว่าปกติและอุจจาระมีลักษณะเหลวผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าทารกมีอาการท้องเสียนอกจากนั้น อาจพบว่าอุจจาระมีมูกหรือเลือดปนออกมา หรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติด้วย ซึ่งแม้อาการท้องเสียในทารกจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และไม่น่ากังวลเท่าใดนัก แต่หากทารกท้องเสียต่อเนื่องเป็นเวลา 1-2 วัน ก็อาจทำให้ร่างกายเด็กสูญเสียของเหลวและเกลือแร่จำนวนมากจนอาจเกิดภาวะขาดน้ำตามมาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของทารก

 

ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง

 

สาเหตุที่ทำให้ทารกท้องเสีย

อาการท้องเสียของทารกอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • การติดเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสโรตา ไวรัสอะดิโน ไวรัสโนโร ไวรัสไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มีไข้ หนาวสั่น และปวดเมื่อยตามร่างกายได้
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น ซาลโมเนลลา ชิเกลลา สแตฟิโลค็อกคัส แคมปีโลแบคเตอร์ อีโคไล เป็นต้น ซึ่งเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้อาจเป็นเหตุให้ทารกท้องเสียอย่างรุนแรง และอาจทำให้มีอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด อาเจียน และมีไข้ร่วมด้วย
  • การติดเชื้อที่หู อาจเกิดขึ้นได้จากทั้งเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้ทารกมีอาการท้องเสียร่วมกับคลื่นไส้ เบื่ออาหาร เป็นหวัด และอาจสังเกตเห็นว่าทารกจับหรือดึงหูของตนเองบ่อยครั้ง
  • การติดเชื้อปรสิต เชื้อไกอาเดียที่อาศัยอยู่ในลำไส้อาจทำให้ทารกท้องเสีย อุจจาระเป็นไข ท้องอืด หรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • การใช้ยาปฏิชีวนะ เกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีที่ทารกต้องรับประทานยาเองหรือคุณแม่ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะในช่วงให้นมบุตร ซึ่งอาจส่งผลให้ทารกมีอาการท้องเสียในช่วงระหว่างที่รับประทานยาหรือหลังจากใช้ยาจนครบตามที่แพทย์กำหนดแล้ว โดยอาจเป็นผลมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะโดยตรง หรือเกิดจากฤทธิ์ของยาที่ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรต่อลำไส้ถูกกำจัดออกไปด้วย หากคาดว่าทารกท้องเสียเนื่องจากสาเหตุนี้ คุณแม่หรือทารกไม่ควรหยุดใช้ยาเอง แต่ควรไปปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้
  • การดื่มน้ำผลไม้ปริมาณมาก โดยเฉพาะน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรักโทสสูงหรือประกอบด้วยน้ำตาลซอร์บิทอล รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีรสหวานมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและอาจมีอาการท้องเสียตามมาได้
  • การแพ้โปรตีนจากนมวัว ทารกที่มีอายุไม่ถึง 1 ปี ไม่ควรดื่มนมวัว นมผง หรืออาหารเด็กที่ทำจากนมวัว นอกจากนี้ ในบางครั้งหากคุณแม่ดื่มนมวัวหรือรับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบของนมวัวก็อาจทำให้ทารกที่ดื่มนมแม่เกิดอาการแพ้โปรตีนจากนมวัวได้เช่นกัน โดยอาจส่งผลให้ทารกท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด อาเจียน หรือมีผื่นขึ้นตามร่างกาย
  • การแพ้อาหาร เช่น ไข่ ถั่ว ถั่วเหลือง ธัญพืช ปลา หอย อาหารทะเล เป็นต้น โดยอาจมีอาการแพ้เกิดขึ้นในทันทีหรือหลังจากรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไปสักพักแล้ว เป็นเหตุให้มีอาการท้องเสีย อุจจาระเป็นเลือด ปวดท้อง และมีแก๊สในกระเพาะอาหาร ในรายที่มีอาการรุนแรงก็อาจมีผื่นคันขึ้นตามร่างกายหรือหายใจลำบาก นอกจากนี้ ทารกบางรายอาจมีอาการแพ้อาหารแฝง (Food Intolerance) อย่างการแพ้น้ำตาลแล็กโทส ซึ่งพบได้ไม่บ่อยในทารก และมักมีอาการบ่งชี้ เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง ท้องอืด หรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
  • การได้รับสารพิษ รวมถึงสารเคมี สารจากพืช ยา หรือของเล่นต่าง ๆ ที่ไม่ควรนำเข้าปาก ซึ่งอาจทำให้ทารกท้องเสีย คลื่นไส้ หายใจไม่ออก ชัก หรือหมดสติได้
  • ระบบย่อยอาหารของลูกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงไม่สามารถย่อยโปรตีนบางชนิดได้ ส่งผลให้ลูกเกิดอาการไม่สบายท้อง ท้องอืด หรือท้องเสียตามมา

 

ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง

 

ลูกท้องเสียรับมืออย่างไร

โดยปกติแล้ว อาการท้องเสียในทารกคุณแม่สามารถรับมือได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการดูแลเบื้องต้น สิ่งสำคัญคือการให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำจากการขับถ่ายและป้องกันภาวะขาดน้ำ ซึ่งวิธีการดูแลเมื่อลูกท้องเสีย มีดังนี้

  • หมั่นให้ลูกจิบน้ำเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาหยุดถ่าย เพราะอาจทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในลำไส้กระจายเข้าสู่กระแสเลือดได้
  • สำหรับเด็กที่กินนมแม่ สามารถดื่มได้ตามปกติ เพราะนมแม่สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกได้
  • สำหรับเด็กที่เริ่มรับประทานอาหารแล้ว ควรให้ลูกกินอาหารอ่อน ๆ และป้อนทีละน้อย เพื่อให้ลำไส้ลูกสามารถย่อยอาหารง่ายขึ้น
  • หากดื่มนมผสมควรชงนมสัดส่วนเท่าเดิม และเพิ่มจำนวนมื้อให้นมมากขึ้น แต่ควรลดปริมาณดื่มแต่ละมื้อให้น้อยลงเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • เลือกสารอาหารที่ย่อยง่าย ช่วยในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหาร เช่น ข้าวบด หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีใยอาหารสูง
  • หากลูกอาการไม่ดีขึ้นหลัง 3 วัน ควรเปลี่ยนเป็นนมที่ไม่มีน้ำตาลแล็กโทส ดื่มต่อเนื่องกันประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากร่างกายดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาดื่มนมแบบปกติ

 

ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง

ทารกมักท้องเสียง่ายเป็นเรื่องปกติ แต่อาการท้องเสียอาจเป็นเรื่องใหญ่ได้ถ้าร่างกายขาดน้ำ ลองมาดูอาหาร 5 อย่าง ที่ช่วยบรรเทาอาการทารกท้องเสียในทารกกันค่ะ

 

1. น้ำ

หมั่นให้ลูกดื่มน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้ขาดน้ำเด็ดขาด ให้ลูกจิบน้ำเกลือแร่โออาร์เอสบ่อย ๆ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายเสียไปค่ะ ไม่ควรให้ลูกกินยาหยุดถ่าย เพราะจะทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในลำไส้ไม่ถูกขับออกมา และอาจทำให้เชื้อกระจายเข้าสู่กระแสเลือดได้ค่ะ

  • นมแม่ ให้ลูกดื่มนมแม่ดีที่สุด เพราะไม่เพียงเติมน้ำให้ร่างกาย ยังเติมสารอาหารให้ลูกอีกด้วย
  • น้ำเปล่า อย่าลืมจิบน้ำบ่อย ๆ ตลอดเวลา
  • น้ำเกลือแร่ ORS จะซื้อผงเกลือแร่แบบสำเร็จรูป หรือทำเองที่บ้านก็ได้ตามสูตรนี้ ใส่น้ำตาล 8 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา ในน้ำ 1 ลิตร
  • น้ำผลไม้ เช่น น้ำมะพร้าว น้ำมะนาว เพื่อคืนความสดชื่นหลังสูญเสียสารอาหารไป

 

ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง

 

2. ข้าว

ข้าวอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต จึงช่วยเพิ่มพลังงานให้ลูกน้อยได้ นอกจากนี้ ข้าวยังช่วยดูดซึมน้ำได้ดี ทำให้อึจับตัวเป็นก้อน

 

3. กล้วย

ลูกที่เริ่มกินอาหารเสริมในบางมื้อแล้ว ควรให้กินอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย โดยแต่ละมื้อควรป้อนทีละน้อย เพื่อให้ลำไส้ลูกค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมสารอาหาร นอกจากนี้ควรงดน้ำผลไม้และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากไปก่อนนะคะ กล้วยมีโพแทสเซียม แร่ธาตุสำคัญที่สูญเสียไปขณะท้องเสีย

 

4. ทับทิม

ทับทิมมีสารช่วยบรรเทาอาการอักเสบ จึงช่วยแก้ท้องเสียได้ดี ลองคั้นน้ำทับทิมสดให้ลูกจิบเรื่อย ๆ ระหว่างวันดูนะคะ

 

บทความจากพันธมิตร
เจาะลึก HOHOEMU ยาสีฟันเด็ก ฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ทันตแพทย์แนะนำ
เจาะลึก HOHOEMU ยาสีฟันเด็ก ฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ทันตแพทย์แนะนำ
ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
S-26 GOLD PRO UHT นมกล่องทอง  ตัวช่วยสำหรับแม่ ให้ลูกพร้อมทุกการเรียนรู้
S-26 GOLD PRO UHT นมกล่องทอง ตัวช่วยสำหรับแม่ ให้ลูกพร้อมทุกการเรียนรู้
หมดกังวลเรื่องสารอาหาร! "เมจิ อีซี่คิวบ์" ทางเลือกง่ายๆ สำหรับแม่ยุคใหม่และลูกวัยขวบ
หมดกังวลเรื่องสารอาหาร! "เมจิ อีซี่คิวบ์" ทางเลือกง่ายๆ สำหรับแม่ยุคใหม่และลูกวัยขวบ

5. ขนมปัง

เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ชอบกินขนมปังและของกรุบกรอบอยู่แล้ว เพราะเคี้ยวมัน แถมแก้อาการมันเขี้ยวได้ดี แน่นอนว่าขนมปังก็มีคาร์โบไฮเดรต ซึ่งช่วยเติมพลังงานให้ร่างกายได้

 

ทั้งนี้ คุณแม่ควรปรึกษาคุณหมอก่อนว่าสามารถป้อนอาหารเหล่านี้ให้ลูกน้อยได้หรือไม่ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ถ้าลูกเกิดท้องเสียรุนแรงและเริ่มแสดงอาการขาดน้ำ คุณแม่ต้องรีบพาไปหาคุณหมอทันที 

 

6. โภชนาการย่อยง่าย

นมแม่คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด อีกทั้งยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง MFGM และ DHA ซึ่งช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกน้อย กรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้และมีความจำเป็นต้องให้นมผง คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการเลือกโภชนาการที่ย่อยง่ายให้กับลูกน้อย โดยแพทย์อาจจะแนะนำโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วนหรือ PHP (Partially Hydrolyzed Protein) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่ย่อยง่าย สามารถดูดซึมได้ดี เหมาะสมกับระบบย่อยอาหารของลูกน้อย

 

ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง

 

ทั้งนี้ หากอาการท้องเสียของทารกเกิดจากการแพ้นมวัว ซึ่งในกรณีนี้ คุณแม่มักจะพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีผื่นขึ้น ถ่ายเป็นมูกเลือด มีอาการหอบ เป็นต้น คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง กรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ แพทย์อาจจะแนะนำโปรตีนที่ผ่านการย่อยอย่างละเอียดที่มีคุณสมบัติ Hypoallergenic และเสริมด้วยโพรไบโอติกส์ อย่างเช่น แลคโตบาซิลัส รามโนซัส จีจี (LGG)

 

เมื่อไหร่ที่ควรพาลูกไปพบแพทย์

นอกจากอาหารท้องเสียรุนแรงและอาหารขาดน้ำแล้ว หากลูกมีอาการท้องเสียหลายวัน หรือเริ่มมีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

  • อ่อนเพลีย เซื่องซึม
  • เบื่ออาหาร กินข้าวน้อยลง
  • ท้องเสียตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป
  • มีมูกเลือดปนออกมากับอุจจาระ
  • มีอาการท้องเสียและมีไข้ร่วมด้วย
  • ทารกที่อายุน้อยกว่า 3 เดือนและมีอาการท้องเสีย
  • มีภาวะขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง ผิวแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตา กินนมน้อยลง กระหม่อมบุ๋ม หรือปัสสาวะน้อยลง เป็นต้น

 

คราวนี้คุณแม่ก็รู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง เพราะโรคท้องเสียในทารกนั้น เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา คุณแม่จึงต้องใส่ใจเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยของลูกเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน หากคุณแม่มีข้อสงสัยและต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะท้องเสียในทารก สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

7 ประโยชน์ที่ยกให้ “นมแม่” ชนะเลิศ

4 วิตามินพื้นฐานที่สำคัญต่อลูกน้อย เสริมอย่างไรไม่ให้ลูกป่วยบ่อย

10 อาหารบำรุงสมองใน 1,000 วันแรก ให้ลูกกินอะไร แล้วลูกฉลาด พัฒนาการสมองไว

ที่มา :nestle ,nakornthon , bpksamutprakan

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

ขวัญชนก ธนาภิกรกุล

  • หน้าแรก
  • /
  • ทารก
  • /
  • ลูกท้องเสียกินอะไรได้บ้าง อาหาร 6 อย่าง บรรเทาอาการทารกท้องเสีย
แชร์ :
  • เจาะลึก HOHOEMU ยาสีฟันเด็ก ฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ทันตแพทย์แนะนำ
    บทความจากพันธมิตร

    เจาะลึก HOHOEMU ยาสีฟันเด็ก ฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ทันตแพทย์แนะนำ

  • ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
    บทความจากพันธมิตร

    ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด

  • ครั้งแรกของโลก! หมวกสแกนสมองทารก รู้ทันความเสี่ยงตั้งแต่แรกคลอด

    ครั้งแรกของโลก! หมวกสแกนสมองทารก รู้ทันความเสี่ยงตั้งแต่แรกคลอด

  • เจาะลึก HOHOEMU ยาสีฟันเด็ก ฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ทันตแพทย์แนะนำ
    บทความจากพันธมิตร

    เจาะลึก HOHOEMU ยาสีฟันเด็ก ฟลูออไรด์ 1500 ppm ที่ทันตแพทย์แนะนำ

  • ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด
    บทความจากพันธมิตร

    ท้องผูกก็แก้ ภูมิคุ้มกันก็ดี! 2in1 ตัวช่วยลูกรักจาก Infolife Fiber Immu Plus ที่แม่ยุคใหม่ไม่ควรพลาด

  • ครั้งแรกของโลก! หมวกสแกนสมองทารก รู้ทันความเสี่ยงตั้งแต่แรกคลอด

    ครั้งแรกของโลก! หมวกสแกนสมองทารก รู้ทันความเสี่ยงตั้งแต่แรกคลอด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว