แม่ท้องที่กำลังดูแลพัฒนาการของทารกในครรภ์อย่างดี ต้องระมัดระวังเรื่องการทานอาหารมากเป็นพิเศษ กินอะไรเสี่ยงแท้ง ? ห้ามกินสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่อยากแท้งลูก เรื่องอันตรายที่แม่ท้องต้องระวัง ถ้าไม่อยากแท้งอย่าทำแบบนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงมากที่ชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์จะต้องสูญสิ้นไปนะ จะมีอะไรบ้างมาติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย
กินอะไรเสี่ยงแท้ง 6 พฤติกรรมการกินที่ต้องระวัง
เมื่อตั้งครรภ์สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ นั่นคือ พฤติกรรมการทานอาหารของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ต้องควบคุมให้ดี เนื่องจากด้วยอาการต่าง ๆ อาจทำให้คุมอาหารได้ยากขึ้น เช่น ความอยากอาหารในช่วงแพ้ท้อง ที่อาจทำให้คุณแม่ท้องไปรับสารอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์มากไป ซึ่งไม่ใช่แค่คุณแม่เท่านั้น ที่จะได้รับผลเสีย แต่ทารกในครรภ์เองก็เสี่ยงด้วยเช่นกัน โดยพฤติกรรมการทานอาหารที่คุณแม่ต้องระวัง มีดังนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : 3 วิธีชนะการแท้งลูก การแท้งบุตร อาการแท้ง คุกคาม แท้งค้างคืออะไร
1. ได้รับวิตามิน C มากไป
แม้การทานอาหารที่มีวิตามินซี จะส่งผลดีต่อภาพรวมของร่างกายหลายอย่าง แต่สำหรับคนท้องอาจต้องระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วงแรกของการตั้งครรภ์หรือ 4 สัปดาห์แรกนั้น หากคุณแม่ได้รับวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไป ร่างกายจะถูกบังคับให้มีประจำเดือน และเป็นการแท้งโดยธรรมชาติ ส่วนปริมาณของวิตามินซีที่ห้ามกินเกินคือ 6,000 มิลลิกรัม / วัน แต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลไป หากทานอาหารครบ 5 หมู่ในทุกวัน คุณแม่ไม่มีทางที่จะรับวิตามินซีเกินกว่าที่ปริมาณกำหนดอย่างแน่นอน
วิดีโอจาก : คนท้อง Everything Channel
2. ทานอาหารที่มีวิตามินเอมากเกินไป
เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่ควรเลี่ยงในปริมาณที่สูงมากเกินไป เนื่องจากสามารถทำให้ทารกเป็นอันตราย เช่น พิการแต่กำเนิด เป็นต้น ถึงแม้วิตามินเอจะเป็นสารอาหารที่อยู่ทั้งในพืช ผักผลไม้ และในสัตว์ แต่ที่ต้องระวังจริง ๆ คือ เนื้อสัตว์ เนื่องจากมีวิตามินเอสูง และอาจเกิดการสะสมหากทานบ่อย ๆ ส่วนในผักผลไม้จะมีสารที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างวิตามินเอ จึงไม่จำเป็นต้องเลี่ยงเท่ากับเนื้อสัตว์นั่นเอง ส่วนวิตามินเอที่แม่ท้องควรได้รับนั้น อยู่ที่ประมาณ 4,000 – 8,000 มิลลิกรัม / วัน
3. ทานเยอะ และออกกำลังกายทดแทนเกินไป
แม่หลายคนอาจทานเยอะ และหันมาออกกำลังกายทดแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวังคุณแม่คนไหนที่ไม่เคยออกกำลังกาย หรือนาน ๆ ออกกำลังกายที ระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์นั้นอย่าหักโหมออกกำลังกายหนักเกินไป เนื่องจากจะทำให้แท้งลูกได้ รวมไปถึงการยกของหนัก ๆ ด้วยเช่นกัน การออกกำลังกายที่เข้มข้น และหนักหน่วง จะทำให้ร่างกายไม่พร้อมสำหรับการมีลูก และทำให้คุณแม่แท้งได้ จึงควรต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
แต่หากคุณแม่ออกกำลังเป็นประจำ สม่ำเสมออยู่แล้ว และอยากจะออกกำลังในช่วงที่ตั้งครรภ์อยู่ด้วย ควรปรึกษาแพทย์ที่ฝากครรภ์ก่อนนะ เพื่อหาว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้างไหม และควรจะออกกำลังกายยังไงถึงจะไม่เสี่ยงแท้ง ไม่เพียงแค่นั้นการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเกินไปไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง หรือการเคลื่อนไหวในจุดที่อันตราย เช่น ลงบันได ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรจับราวบันได และควรเลี่ยงการสวมใส่รองเท้าที่ทรงตัวยาก เช่น รองเท้าส้นสูง เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : แท้งแล้วจะกลับมีลูกได้ตอนไหน ขูดมดลูกแล้วมีลูกได้ไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่
4. ซินนามอน หรืออบเชย
เป็นเครื่องเทศที่มีฤทธิ์ทำให้มดลูกบีบตัว แต่ต้องกินในปริมาณที่สูงมากจึงจะทำให้แท้งได้ อบเชยที่จะทำให้คุณแม่แท้งได้คืออบเชยสด ที่ไม่ผ่านการปรุง หรือความร้อน ดังนั้นถ้าคุณแม่กินเครื่องดื่มที่มีอบเชยโรยบาง ๆ หรือผสมอบเชยนิดหน่อย ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปว่าจะแท้งนะ แต่สำหรับอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มาในรูปแบบไม่ได้ปรุง หรือกึ่งสุกกึ่งดิบนั้นต้องหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะลาบดิบ หรือปลาดิบ เนื่องจากอาหารที่ไม่สุก โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ อาจมีการปนเปื้อนสารต่าง ๆ โดยเฉพาะแบคทีเรียที่เป็นอันตรายนั่นเอง
5. แบลกโคฮอส (Black cohosh)
หรือที่รู้จักกันในนามสมุนไพรวัยทอง สมุนไพรตัวนี้จะมีการออกฤทธิ์คล้ายเอสโทรเจน (Estrogen) ที่ทำหน้าที่เพิ่มสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์ และอุณหภูมิในร่างกาย เพื่อทำให้อาการหนาว ๆ ร้อน ๆ วูบวาบ ดีขึ้นได้ แต่ในทางกลับกัน หากแม่ท้องกินเข้าไป ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) มดลูกจะถูกกระตุ้นให้หดตัว และบีบรัดทำให้แท้งลูกได้
แต่ข้อควรระวังคือ หากร่างกายได้รับมากเกินไปจะทำให้เป็นพิษ ที่ส่งผลต่อตัวคุณแม่ได้ อาจเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกได้ กลับกันในคนท้องแก่ที่ไม่คลอดสักที แพทย์อาจจะใช้สมุนไพรตัวนี้เพื่อเร่งคลอดได้เช่นกันนะ อย่างไรก็ตามการเร่งคลอดก็ยังมีอีกหลายวิธี ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ด้วยว่าจะเลือกใช้วิธีนี้ หรือวิธีอื่นตามความเหมาะสม
6. พาร์สลีย์ (Parsley) หรือผักชีฝรั่ง
เหตุผลที่ทำให้คุณแม่ต้องเลี่ยงผักใบเขียวชนิดนี้ เพราะสามารถทำให้แท้งลูกได้ เนื่องจากในผักชีฝรั่งมีวิตามินซีจำนวนมาก ตามที่เราได้กล่าวไปแล้ว แต่คุณแม่ก็ต้องกินเป็นจำนวนมากเป็นกิโล ๆ จึงจะทำให้แท้งได้ ในชีวิตจริงคงไม่มีใครกินผักชีฝรั่งเยอะเท่านี้ใช่ไหมละ อย่างไรก็ตาม คุณแม่อาจต้องสังเกตเพิ่มเติมมากขึ้น เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผักชนิดนี้ อาจเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเมนูทั่วไปหลายเมนู
พฤติกรรมเหล่านี้ ถือเป็นพฤติกรรม ละเมนูอาหารที่คุณแม่ท้องควรเลี่ยง หากไม่ต้องการให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ก็ควรเลี่ยงมากกว่าตามใจปาก อย่างน้อยก็จนกว่าจะคลอดทารกน้อยออกมาลืมตาดูโลกก่อน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สิ่งที่คุณแม่ต้องรู้ ถ้าหากเกิดการ แท้งลูก ต้องทำยังไงต่อ
5 วิธี มูฟออนจากการแท้งลูก เยียวยาจิตใจอย่างไรเมื่อแท้งลูก
5 ความกังวลของคนเคยแท้ง ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์
ที่มา : petcharavejhospital, samitivejhospitals