แท้งลูก ต้องทำยังไงต่อ

คงไม่มีแม่คนไหนที่อยากให้การตั้งครรภ์จบด้วยการแท้งลูก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ต้องทำยังไงต่อ เราจะอธิบายให้ฟังค่ะ

แท้งลูก ต้องทำยังไงต่อ
การแท้งบุตรเกิดขึ้นได้ในฉับพลันหรืออาจกินเวลานานหลายชั่วโมง อาการที่มักพบได้เมื่อแท้งบุตรคือมีเลือดออกหรือร่างกายขับลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมา อาจมีการปวดเกร็งร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ หากสงสัยว่าแท้งบุตร ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
และเมื่อคุณรู้ว่าได้แท้งลูกแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือทำใจยอมรับ ตั้งสติให้ดี อย่าโทษตัวเองหรือโทษใคร และไปพบแพทย์
ทำไมต้องไปพบแพทย์
ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่อยากมีลูกอีกคนหลังจากที่แท้ง ก็ควรไปพบแพทย์อยู่ดี เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรหลงเหลือและร่างกายของคุณแม่สมบูรณ์ หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะได้แก้ได้ทันท่วงที
การแท้งมีหลายแบบดังนี้
1. แท้งคุกคาม คือการแท้งที่เด็กอาจจะเสียชีวิตแล้วหรือยังไม่เสียชีวิตก็ได้ แต่ยังไม่ออกจากมดลูก คุณแม่จะมีเลือดไหลจากโพรงมดลูก ถ้ารักษาทันท่วงทีอาจตั้งครรภ์ต่อไปได้
2. แท้งออกมาชนิดครบ คือ ทุกส่วนทั้งเด็กทารกและเนื้อรกหลุดออกมา คุณแม่จะมีเลือดออกพร้อมกับปวดท้องน้อย
3. แท้งออกมาชนิดไม่ครบ คือ อาจะมีเนื้อรกหลงเหลืออยู่หรือเด็กทารกออกมาไม่ครบ คุณแม่จะมีเลือดจะออกมาเรื่อย ๆ ปวดท้องน้อยเป็นพัก ๆ ผู้ที่แท้งอาจจะเสียเลือดมาก และต้องรักษาด้วยการขูดมดลูก
4. การแท้งค้าง หรือตายคลอด (Stillbirth) ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่ออายุครรภ์เกิน 28 สัปดาห์ไปแล้ว คือ การที่เด็กทารกเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่หลุดออกมา คุณแม่อาจไม่มีเลือดออก ต้องคอยสังเกตการขยับตัวของลูก ถ้าลูกเริ่มดิ้น หากเมื่อไหร่เป็นช่วงที่ปกติลูกต้องดิ้นแล้วลูกหยุดดิ้น นั่นเป็นสัญญาณที่ควรระวังมาก ๆ คุณจำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันที
ทางที่ดี เมื่ออายุครรภ์มากแล้ว เด็กเริ่มดิ้นแล้ว ให้คุณแม่พยายามนับจำนวนครั้งที่ลูกเตะต่อชั่วโมงในช่วงเวลาที่ลูกคุณชอบเตะ หากวันไหนจำนวนเตะน้อยลงไปเยอะ คุณควรจะรีบไปพบแพทย์ เพื่อเช็คความแข็งแรงของลูก และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการตายคลอด
สามีคู่ชีวิตคือคนที่สำคัญ
ไม่ว่าการแท้งจะเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด อย่าโทษกัน อย่าผลักสามีออกไป ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่คุณต้องการเค้ามากที่สุด จำไว้ว่า ลูกก็คือลูกของสามีคุณเช่นกัน ต้องให้กำลังใจกันและกัน