อาหารเย็นที่คนท้องไม่ควรกิน การทำอาหารเย็นแม่ท้องต้องระวังอะไรบ้าง

อาหารเย็นที่คนท้องไม่ควรกิน นั้นมีหลากหลายประเภท ซึ่งอาหารเย็นที่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์ นั้นสำคัญไม่น้อยกว่าอาหารมื้ออื่น ๆ ทั้งนี้เป็นเพราะแต่ละช่วงเวลานั้นคนเรามักมีกิจกรรมที่แตกต่างออกไป รวมถึงคุณแม่ตั้งท้อง โดยเฉพาะหลังช่วงเย็นนั้นคือเวลาพักผ่อน การกินอาหารที่มากเกินไปหรือไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอเลย ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้

อาหารเย็นที่คนท้องไม่ควรกิน ทำไมต้องหลีกเลี่ยงช่วงเย็น

เพราะช่วงเวลาตั้งครรภ์คือ เวลาแห่งการดูแลสุขภาพทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้น อาหารเย็นที่คนท้องไม่ควรกิน จึงมีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้รู้ว่า อาหาร ขนม เครื่องดื่ม ประเภทไหนที่ต้องดูโภชนาการให้ดี โดยเฉพาะอาหารเย็นที่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะครอบครัวคนไทยนั้นให้ความสำคัญกับอาหารเย็นอย่างมาก ปกติมักจัดเป็นมื้อหนักประจำวัน ทั้งที่จริงแล้ว มื้อเย็นควรเป็นมื้ออาหารที่ควรบริโภคอาหารย่อยง่าย ๆ เนื่องจากใกล้เวลาเข้านอนแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง ? มาดู 24 อาหารที่คนท้องห้ามกิน!

อาหารเย็นที่ควรหลีกเลี่ยงในระหว่างตั้งครรภ์ ดูจากอะไรบ้าง

อาหารเย็นที่คนท้องไม่ควรกิน มีอะไรที่ต้องหลีกเลี่ยง ก่อนอื่นต้องดูส่วนประกอบและวัตถุดิบก่อนว่ามีผลต่อระบบการย่อยอาหารหรือไม่ หากคุณแม่ท้องกินชาบู ปิ้งย่าง เป็นอาหารเย็น นั่นย่อมส่งผลเสียต่อการย่อยแน่นอน เพราะเสี่ยงต่ออาการท้องผูก และต่อเนื่องไปถึงโรคริดสีดวงในที่สุด ดังนั้น เรามาเริ่มต้นดูวัตถุดิบอย่างง่าย ๆ ในการทำอาหารเย็นกันค่ะ ว่าควรเลี่ยงอะไรบ้าง

1. สังเกตตัวเองว่าเคยแพ้อาหารอะไร

หลีกเลี่ยงวัตถุดิบที่แพ้ เช่น คุณแม่แพ้กุ้ง หากกินแล้วจะเกิดอาการผื่นคัน ตัวแดง หน้ามือเป็นลม บางคนอาจกินกุ้งได้แค่ 2-3 ตัวต่อมื้อเท่านั้น ตรงนี้คุณแม่ต้องสังเกตว่า การจะนำกุ้งมาทำอาหารรับประทานในครอบครัว คุณแม่สามารถกินได้กี่ตัว

2. ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด

อาหารเย็นที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ และรวมถึงในทุก ๆ มื้อ คือ อาหารรสจัดค่ะ ไม่ว่าจะเผ็ดจัด ที่อาจทำให้คุณแม่ท้องเสีย ท้องร่วง แสบกระเพาะอาหาร รสเปรี้ยวจัด อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร หรือเค็มจัด จะนำไปสู่การเป็นโรคความดันโลหิตสูง ตัวบวมเนื่องจากโซเดียมสูงเกินไป หรือหวานจัดก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้ และอาหารรสจัดทั้งหมด จะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป ส่งผลให้คุณแม่เป็นโรคกรดไหลย้อนได้ค่ะ

3. งดบริโภคอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป

คุณแม่บางท่านอยู่กับสามี ไม่ได้อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ บางครั้งอาจต้องการความสะดวกโดยการซื้ออาหารสำเร็จรูปแบบซอง แบบกระป๋อง หรืออาหารแช่แข็ง ที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาหารเหล่านี้มักจะผสมสารบางชนิดเพื่อให้อาหารคงความสดใหม่ รสชาติที่อาจจะได้รับการแต่งสี กลิ่น รสเพิ่มขึ้น ใส่ผงชูรสเยอะ โซเดียมสูง โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนปกติ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป ย่อมต้องดูแลสุขภาพมากขึ้นเป็นสองเท่าเพื่อลูกในครรภ์ด้วยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารเย็นสำหรับคนท้อง กินอะไรดี? นอนหลับสบายทั้งแม่และลูก

อาหารเย็นที่คนท้องไม่ควรทำรับประทาน

1. อาหารที่มียอดผัก

ยอดผักที่ว่านี้ไม่ใช่ยอดผักแบบต้นอ่อนของผักทั่วไป แต่หมายถึง ผักเครือเถา และผักที่รับประทานยอดอ่อน เพราะมีสารพิวรีน (Purine) สูง หากบริโภคมากเกินไปจะทำให้คุณแม่เสี่ยงต่อการปวดข้อ และนำไปสู่การเป็นโรคเกาต์ได้ เช่น อาหารที่ประกอบด้วย ยอดชะอม ยอดผักหวาน ยอดตำลึง ยอดฟักทอง เมนูอาหารที่ประกอบด้วยยอดผักเหล่านี้ คุณแม่ท้องคงต้องพักก่อนค่ะ แม้แต่คนปกติ ยังไม่สามารถรับประทานได้มาก ดังนั้นจึงค่อนข้างอันตราย

2. ผลไม้ที่ไม่ควรกินหลังอาหารเย็น

นั่นคือ บรรดาผลไม้ดิบต่าง ๆ เช่น กล้วยดิบ หากกินสุกจะมีประโยชน์ต่อแม่ท้องมาก แต่หากเป็นกล้วยดิบ ถ้าคุณแม่เผลอรับประทานที่มากับแหนมเนืองละก็ จะทำให้ถ่ายยากมากขึ้น รวมไปถึง มะขามเทศ มะละกอดิบ ที่นำมาทำส้มตำ ถึงแม้จะไม่เผ็ดก็ตาม หากรับประทานมาก ๆ ก็จะทำให้ท้องผูกได้ง่าย ส่วนผลไม้สุกอย่างทุเรียน ก็ควรระวังสักนิดหนึ่ง เพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง จะทำให้จุกเสียดและเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ที่สำคัญ ผลไม้เหล่านี้ไม่เหมาะรับประทานช่วงเย็นด้วยค่ะ

3. เนื้อสัตว์อะไรบ้าง กินได้ แต่กินมากก็ไม่ดี

เนื้อสัตว์เป็นแหล่งวิตามินและโปรตีนที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ปกติแล้ว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อปลา สามารถรับประทานได้ รวมไปถึงอาหารทะเลอย่างกุ้งและปลาหมึก แต่ต้องจำไว้เสมอว่า ต้องทำให้สุกเท่านั้น การจะกินซูชิปลาดิบ หรือปลาแซลมอนซาชิมิ เป็นอาหารเย็น คุณแม่หลีกเลี่ยงไปได้เลยค่ะ เพราะในอาหารดิบมักจะมีเชื้อ ลิสเทอร์เรีย (Listeria) ทำให้แม่ที่มีภูมิต้านทานน้อย เจ็บป่วยง่าย ที่สำคัญ อาหารเย็นของคุณแม่ท้อง ควรเน้นไปที่ไฟเบอร์อย่างผักในสัดส่วนที่มากกว่าเนื้อสัตว์จะดีกว่าค่ะ

4. ตับ มีประโยชน์ แต่ก็ให้โทษ

หลายครั้งที่มีการแนะนำให้รับประทานเครื่องในสัตว์ อย่าง ตับ ซึ่งมีธาตุเหล็กสูง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง แต่ใช่ว่า อาหารเย็นทุกมื้อของคุณแม่จะอุดมไปด้วยตับทุกวัน

• ตับ มีวิตามินเอ สูง ซึ่งหากบริโภคมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อทารกโดยตรง
• ไม่ควรกินตับกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะการปรุงตับ หากทำดิบเพราะกลัวเนื้อแข็งก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
• ไม่ควรรับประทานเกินมื้อละ 100 กรัม ต่อสัปดาห์ ซึ่งคุณแม่สามารถเสริมธาตุเหล็กจากอาหารอื่น ๆ ได้

5. เครื่องดื่มที่ไม่ควรดื่มคู่กับอาหารเย็น

น้ำเปล่า ดีที่สุด สามารถดื่มได้ทั้งวันและทุกวัน โดยที่ไม่ต้องหาความอันตรายจากน้ำเปล่าที่สะอาดเลยค่ะ แต่ก็มีเครื่องดื่ม น้ำ และยาน้ำบางชนิดที่คุณแม่สงสัยว่าดื่มได้หรือไม่

• ยาสมุนไพรจีน เครื่องดื่มประเภทนี้ควรได้รับการจ่ายยาจากแพทย์แผนจีนผู้เชี่ยวชาญ ห้ามซื้อมาต้มรับประทานเองเป็นอันขาด เพราะยาจีนบางตัว อาจส่งผลเสียต่อร่างกายคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
• เครื่องดื่มสำเร็จรูป เป็นเครื่องดื่มที่มาในซองบรรจุสำเร็จ เติมน้ำร้อน น้ำเย็นพร้อมดื่ม ไม่ว่าจะเป็น ชาเย็น ชาเขียว กาแฟ หรือโกโก้ ไม่อยากให้คุณแม่ดื่มมาก นาน ๆ สักเดือนละครั้ง ไม่ควรดื่มทุกวัน โดยเฉพาะหลังอาหารเย็น สารคาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้ จะทำให้นอนไม่หลับ ไปรบกวนทารก ทำให้ทั้งแม่และลูกในท้องพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วย
• แอลกอฮอล์ คุณแม่อาจปฏิเสธว่า ระหว่างตั้งท้องก็ไม่คิดจะดื่มเหล้าหรือไลน์อยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่า หากมีช่วงเวลาที่คุณพ่อพาไปดินเนอร์ รับประทานอาหารเย็นนอกบ้าน อาจเผลอจิบค็อกเทลผสมแอลกอฮอล์อันน้อยนิดก็ได้นะคะ อย่าลืมว่า แอลกอฮอล์นั้น มีผลร้ายต่อการสร้างอวัยวะของทารกน้อยในครรภ์

คุณแม่ตั้งครรภ์ กินมื้อเย็นอย่างไรไม่ให้น้ำหนักขึ้น

ปกติก่อนท้อง ผู้หญิงมักจะรับประทานอาหารเบา ๆ ช่วงเย็น เนื่องจากร่างกายต้องการการพักผ่อน หากต้องมารับอาหารในปริมาณมาก จะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานหนักหรือบางครั้ง อาหารที่ถูกสะสมก็ไม่ได้รับการเผาผลาญจนก่อตัวเป็นไขมันไปเกาะตามส่วนต่าง ๆ จนทำให้เกิดโรคอ้วนตามมา เมื่อคุณผู้หญิงอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ การรับประทานอาหารเสมือนการดูแลชีวิต 2 คน แล้วจะทำอย่างไรไม่ให้เผชิญกับโรคอ้วน แถมลูกน้อยก็ยังได้รับสารอาหารเต็ม ๆ

• จำไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือไม่ การรับประทานสารอาหารให้ครบนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเน้นโปรตีนที่ย่อยง่ายเป็นหลัก เช่น ไข่ นม ถั่วเปลือกอ่อนที่สามารถนำมาทำอาหารเย็นได้ อย่าง ถั่วลันเตา ถั่วแดง หรือถั่วเหลือง (เต้าหู้)
• ปรุงอาหารที่ย่อยง่ายเป็นอาหารเย็น เช่น ปลาเนื้อขาว ปลาแซลมอน ที่ให้โปรตีนย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์อื่น ๆ อาจจะจะทำข้าวต้มปลา หรือสเต๊กแซลมอน รับประทานกับผักเคียงอย่างหน่อไม้ฝรั่งและแครอท
• ให้จานอาหารเย็นมีสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตแค่ 25 % เช่น ข้าวกล้อง เส้นก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ผักใบเขียว 50 % โปรตีนจากเนื้อสัตว์ 25 % ลดน้ำตาลให้น้อยที่สุด
• รับประทานผลไม้ที่มีไฟเบอร์และวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด หลังอาหารสักเล็กน้อย อย่ารับประทานเยอะเกินไป เพราะในผลไม้มีน้ำตาลอยู่ไม่มากก็น้อย
• ไม่ใช่แค่อาหารเย็น แต่ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทุกมื้อ เพื่อเป็นการย่อยอาหารในด่านแรก จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการท้องผูก ที่คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นบ่อย เนื่องจากลำไส้บีบตัวช้าลง อันเป็นมาจาก ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จึงทำให้ท้องผูกง่ายกว่าปกติ

อย่าเสี่ยงกับคำว่า ท้องแล้วกินได้ตามใจปาก เพราะมีคนเอาใจค่ะ อย่างไรก็ตาม เราต้องประเมินสุขภาพครรภ์ของตัวเองทุกสัปดาห์ว่า กินอาหารนี้แล้ว มีอาการแพ้หรืออึดอัด ถ่ายยากหรือง่าย หรือ กินอาหารเย็นแบบไหน ปริมาณเท่าไหร่ ช่วงเวลากี่โมงจึงอึดอัดท้อง ดังนั้นการจดบันทึกสำคัญมากสำหรับคุณแม่ค่ะ จะได้คุมอาหารและน้ำหนักตัวได้ตามเกณฑ์การตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

DHA ดีต่อคนท้องอย่างไร? ช่วยเสริมให้ทารกในครรภ์ฉลาดจริงหรือไม่

รวมแหล่งโฟลิคคนท้อง ของบำรุงคนท้องชั้นดี

ของบำรุงคนท้อง สำหรับแม่ท้อง 2 เดือน

ที่มา: Petcharavej Hospital , Phyathai